กระบาก | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | พืช Plantae |
เคลด: | พืชมีท่อลำเลียง Tracheophytes |
เคลด: | พืชดอก Angiosperms |
เคลด: | พืชใบเลี้ยงคู่แท้ Eudicots |
เคลด: | โรสิด Rosids |
อันดับ: | ชบา Malvales |
วงศ์: | วงศ์ยางนา Dipterocarpaceae |
สกุล: | Anisoptera Anisoptera (plant) Korth.[2] |
สปีชีส์: | Anisoptera costata |
ชื่อทวินาม | |
Anisoptera costata Korth.[2] | |
ชื่อพ้อง[2] | |
|
กระบาก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Anisoptera costata) เป็นไม้ยืนต้นสูง 5–25 เมตร เปลือกขรุขระสีเทา ตามกิ่งมีช่องอากาศเป็นจุด ๆ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก รูปไข่แกมรูปหอกปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้าหรือหยักกลม ๆ เรียบ โคนใบกลม มีต่อมขนอยู่ตรงมุมระหว่างเส้นกลางใบและเส้นใบ ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ตั้งตรง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นท่อเล็ก ๆ ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน เกสรเพศผู้มี 4 อัน ยาว 2 อัน สั้น 2 อัน ติดอยู่บนกลีบใกล้ปลายที่แยกออก ผลเป็นฝัก เมล็ดมีปีก ในประเทศไทยพบในป่าเบญจพรรณทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
กระบาก ตะบาก (ลำปาง), กระบากขาว (ชลบุรี, ชุมพร, ระนอง), กระบากโคก (ตรัง), กระบากช่อ กระบากด้าง กระบากดำ (ชุมพร), กระบากแดง (ชุมพร, ระนอง), ชอวาตาผ่อ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), บาก (ชุมพร), ประดิก (เขมร-สุรินทร์), พนอง (จันทบุรี, ตราด), หมีดังว่า (กะเหรี่ยง-ลำปาง)
กระบากเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดยโสธร (ส่วนต้นไม้ประจำจังหวัดคือยางนา)
ขึ้นอยู่ตามป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณชื้นที่มีการถ่ายเทน้ำได้ดีทั่วไป ที่สูงจากยกระดับน้ำทะเล 10 - 400 เมตร มีมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้
สภาพดินทุกชนิด กลางแจ้ง ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง