บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
นาม เฟือง | |
---|---|
จักรพรรดินีเวียดนาม | |
พระราชสมภพ | 14 ธันวาคม พ.ศ. 2457 ก่อกง โคชินไชนา อินโดจีนของฝรั่งเศส |
สวรรคต | 16 ธันวาคม พ.ศ. 2506 (49 ปี) จังหวัดกอแรซ ประเทศฝรั่งเศส |
คู่อภิเษก | บ๋าว ดั่ย |
พระราชบุตร | เหงียน ฟุก บ๋าว ล็อง เหงียน ฟุก เฟือง มาย เหงียน ฟุก เฟือง เลียน เหงียน ฟุก เฟือง ซุง เหงียน ฟุก บ๋าว ทั้ง |
ราชวงศ์ | เหงียน |
พระราชบิดา | เหงียน หืว ห่าว |
พระราชมารดา | เล ถิ บิญ |
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
จักรพรรดินีนาม เฟือง (เวียดนาม: Nam Phương Hoàng hậu, จื๋อโนม: 南芳皇后; 14 ธันวาคม พ.ศ. 2457 – 16 ธันวาคม พ.ศ. 2506) พระนามาภิไธยเดิม เหงียน หืว ถิ ลาน (Nguyễn Hữu Thị Lan, 阮有氏蘭) ศาสนนาม มารี-เตแรซ (Marie-Thérèse) เป็นพระอัครมเหสีในจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของเวียดนาม เป็นจักรพรรดินีพระองค์ที่สองและพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์เหงียน
จักรพรรดินีนาม เฟือง มีพระนามาภิไธยเดิมว่า มารี-เตแรซ เหงียน หืว ถิ ลาน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2457 ณ เมืองก่อกง อันเป็นเมืองแถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ขึ้นกับโคชินไชนา หนึ่งในสามดินแดนอาณานิคมอินโดจีนของฝรั่งเศส[1][2]
มีพระราชชนกคือ ปีแยร์ เหงียน หืว ห่าว (Nguyễn Hữu Hào, 阮有豪) พ่อค้าผู้มั่งคั่ง[3] ซึ่งเดิมมีชาติกำเนิดเป็นคริสตังผู้ยากจนมาก่อน[4] แต่จากการที่เขารู้จักกับอาร์ชบิชอปแห่งไซ่ง่อน จึงถูกแนะนำให้เข้าทำงานเป็นเลขานุการของฟีลิป เล ฟ้าต ดัต (Lê Phát Đạt) ดุ๊กแห่งล็องมี ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี หลังจากนั้นเขาสมรสกับมารี เล ถิ บิญ (Lê Thị Binh, 黎氏萍) ธิดาของเล ฟ้าต ดัต และดำรงตำแหน่งดุ๊กแห่งล็องมีต่อจากพ่อภรรยา[4][5] ทั้งนี้พระองค์เป็นญาติห่าง ๆ ของจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย พระราชสวามีในอนาคต[6]
จักรพรรดินีนาม เฟืองเป็นพลเมืองฝรั่งเศสแปลงสัญชาติ เป็นรู้จักในนาม มารีแย็ต (Mariette) เข้าศึกษาที่กูว็องเดซัวโซ (Couvent des Oiseaux) โรงเรียนคาทอลิกในเนอยี-ซูร์-แซน ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่พระชันษาได้ 12 ปี[7]
9 มีนาคม พ.ศ. 2477 มีการประกาศข่าวว่าบ๋าว ดั่ย กษัตริย์แห่งอันนัม หมั้นหมายกับเหงียน หืว ถิ ลาน บ๋าว ดั่ยทรงตรัสว่า "พระราชินีในอนาคตได้รับการเลี้ยงดูดุจเราชาวฝรั่งเศส เธอมีทั้งจรรยามารยาทอย่างตะวันตกและความงามอย่างตะวันออก หากได้พบเธอก็จะเห็นว่าเหมาะควรที่จะเป็นมิตรและร่วมทางกับเราในอนาคต เรารับรองว่าพฤติกรรมและการเป็นแบบอย่างที่ดีงามของเธอนั้นสมควรแล้วที่เราจะยกย่องให้สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของจักรวรรดิ"[3] หลังจากนั้นจึงมีการจัดพระราชพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังฤดูร้อนเมืองด่าหลัต[8] และจัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับเหงียน หืว ถิ ลานเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2477 ณ เมืองเว้ โดยเป็นราชพิธีตามธรรมเนียมศาสนาพุทธ ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก จึงเกิดข้อถกเถียง ประชากรเองไม่เห็นด้วยกับการนับถือศาสนาของฝ่ายเจ้าสาวนัก[9] หนังสือพิมพ์ เดอะนิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า "เกิดความไม่พอใจไปทั่วประเทศ" เพราะเหงียน หืว ถิ ลาน ปฏิเสธที่จะละทิ้งความเชื่อคาทอลิก จึงส่งเรื่องอุทธรณ์ไปยังสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 11[10] พระองค์ส่งคำตอบมาให้ว่า "ให้เป็นคาทอลิกต่อได้ หากลูก ๆ ของหญิงนั้นยังเข้าโบสถ์"[11] นอกจากนี้ พระนางฮหว่าง ถิ กุ๊ก พระราชชนนีของบ๋าว ดั่ย ไม่พอพระทัยกับปัญหาอันซับซ้อนของการอภิเษกสมรสนี้นัก เพราะมีสตรีนางอื่นมาถวายตัวเป็นฝ่ายในแก่บ่าว ดั่ยจำนวนมาก แต่กลับไม่ถูกเลือก[12]
หลังสิ้นพระราชพิธีอภิเษกสมรส เหงียน หืว ถิลาน ได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็น "เจ้าหญิง" ทรงพระนามว่า "นาม เฟือง" แปลว่า "กลิ่นหอมแดนใต้" เพื่อสื่อถึงพระชาติกำเนิดจากภาคใต้ของพระองค์ จักรพรรดินีนาม เฟืองประสูติการพระราชโอรส-ธิดา 5 พระองค์ ทั้งหมดเข้ารีตคาทอลิกและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ดังนี้
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จักรวรรดิญี่ปุ่นเข้ายึดครองดินแดนตังเกี๋ย โคชินไชนา และอันนัม พระองค์เข้าร่วมวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา บ๋าว ดั่ยมีพระอิสริยยศเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเวียดนามในฐานะรัฐหุ่นเชิดของญี่ปุ่น พระอัครมเหสีจึงได้รับการอวยยศเป็นจักรพรรดินีนาม เฟือง เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2488 ต่อมาใน พ.ศ. 2490 จักรพรรดินีนาม เฟืองและพระราชบุตรเสด็จไปประทับประเทศฝรั่งเศส โดยประทับที่ชาโตทอเรนซ์ (Château Thorenc) นอกเมืองกาน ซึ่งเป็นบ้านของพระอัยกาฝ่ายพระชนนีของบ๋าว ดั่ย[4] และหลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่สองอาณานิคมโคชินไชนาประกาศเอกราชจากฝรั่งเศส พ.ศ. 2492 บ๋าว ดั๋ยมีตำแหน่งเป็นประมุขแห่งรัฐ จนกระทั่ง พ.ศ. 2498 บ๋าว ดั่ย ถูกนายกรัฐมนตรีโง ดิ่ญ เสี่ยมบังคับให้สละราชสมบัติ และแต่งตั้งตนขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเวียดนาม ในปีเดียวกันนั้นนาม เฟือง ทรงแยกทางกับบ๋าว ดั่ย สองปีหลังจากนั้นรัฐบาลเวียดนามใต้ประกาศยึดทรัพย์สินของพระราชวงศ์ ยกเว้นอสังหาริมทรัพย์ของนาม เฟืองก่อนการอภิเษกสมรส[15] รวมถึงวิลลาของดุ๊กแห่งล็องมี พระราชชนก ที่ด่าหลัต ปัจจุบันแปรสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์เลิมด่ง[16][17]
จักรพรรดินีนาม เฟืองสวรรคตเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2506 จากพระอาการพระหทัยวาย ที่โดแมน-เดอ-ลา-แปร์ช (Domaine de La Perche) ที่ประทับใกล้ชาร์บีญัก จังหวัดกอแรซ ประเทศฝรั่งเศส[18] พระศพถูกบรรจุไว้ในป่าช้าท้องถิ่น[19]
ก่อนหน้า | จักรพรรดินีนาม เฟือง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ตำแหน่งใหม่ | สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งเวียดนามใต้ |
มาดามญู |