ชุดไทยเดิม เป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติไทย มีประวัติความเป็นมาและเอกลักษณ์อันยาวนาน โดยสามารถแต่งกายได้ทุกเพศทุกวัย โดยผู้ชายจะสวมเสื้อราชปะแตนหรือเสื้อพระราชทาน นุ่งโจงกระเบน และสวมรองเท้า ส่วนการแต่งกายของผู้หญิงจะห่มสไบหรือสวมเสื้อปัด และนุ่งผ้าถุงหรือโจงกระเบน
เป็นผ้าที่มีความกว้างและบาง ใช้สำหรับพาดจากไหล่ซ้ายเฉียงลงทางขวา[1]เพื่อปกปิดส่วนบนของร่างกาย มักจะนิยมใช้ในหมู่ผู้หญิงไทย และยังมีให้พบเห็นในผู้หญิงลาวและกัมพูชา
ซิ่น เป็นผ้านุ่งของผู้หญิง มีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ทั้งขนาด การนุ่ง และลวดลายบนผืนผ้า[2] โดยมีการสวมใส่ในประเทศลาวและประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทย[3]
เป็นเครื่องแต่งกายของเพศหญิง มีลักษณะคล้ายกระโปรงยาว ใช้ปกปิดส่วนล่างของร่างกาย ใช้ทั้งหญิงไทยและหญิงในประเทศเพื่อนบ้าน
เป็นเสื้อที่นิยมสวมใส่โดยสตรีในภาคเหนือของประเทศไทย ประเทศลาว[4] และประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโดยมากมักนุ่งโดยผู้หญิงไทยล้านนา ไทลื้อ ลาวหลวงพระบาง และ ลาวเวียงจันทน์ เป็นต้น
เป็นผ้านุ่งที่ใช้ได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ซึ่งใช้สวมใส่ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมากวิธีการใส่คือ พาดชายผ้าแล้วตะเข็บไว้ที่ด้านข้างเหนือน่องขาประมาณ 3 เมตร
เป็นเครื่องแต่งกายชายไทย ประกอบด้วยเสื้อสูทสีขาว คอตั้งสูง และมีกระดุมห้าเม็ด โจงกระเบน สวมถุงเท้ายาวถึงเข่า และรองเท้าหุ้มส้น ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว[5]