ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
หน้านี้มีเนื้อหาเป็นภาษาต่างประเทศ คุณสามารถช่วยพัฒนาหน้านี้ได้ด้วยการแปล ยกเว้นหากเนื้อหาเกือบทั้งหมดไม่ใช่ภาษาไทย ให้แจ้งลบแทน |
ดิอะเมซิ่งเรซเอเชีย 4 | |
โลโก้รายการ | |
ออกอากาศ | 23 กันยายน พ.ศ. 2553 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553 |
---|---|
ระยะเวลาการถ่ายทำ | 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553 – 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 |
จำนวนตอน | 11 |
ผู้ชนะ | ริชาร์ดกับริชาร์ด |
ทวีปที่ผ่าน | 2 |
ประเทศที่ผ่าน | 8 |
เมืองที่ผ่าน | 25 |
ระยะทางการแข่งขัน | 38,000 กิโลเมตร (23,613 ไมล์) |
จำนวนเลก | 11 |
ซีซั่นก่อนหน้าและถัดไป | |
ก่อนหน้า | ดิ อะเมซิ่ง เรซ เอเชีย 3 |
ดิ อะเมซิ่ง เรซ เอเชีย 4 เป็นปีที่สี่ของรายการดิ อะเมซิ่ง เรซ เอเชีย ซึ่งเป็นเกมโชว์ประเภทเรียลลิตี้ทางโทรทัศน์ รายการนี้จะมีผู้เข้าแข่งขัน 10 ทีม ทีมละ 2 คนซึ่งรู้จักกันมาก่อนแล้ว ทำการแข่งขันโดยเดินทางรอบทวีปเอเชียและโอเชียเนีย ทีมที่ชนะจะได้รับเงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา [1] สำหรับความนิยมของรายการนี้ เนื่องจากฉายไปทั่วเอเชียจึงทำให้มีการประมาณกันว่ามีผู้ชมมากถึงเกือบร้อยล้านคน ทำให้มีแผนการที่จะผลิตออกมาเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับฉบับอเมริกา การรับสมัครมีขึ้นทางเว็บไซด์ของ AXN Asia โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553 และคัดตัวรอบสุดท้ายในเดือนเมษายน ส่วนการถ่ายทำจะมีขึ้นในราวเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม [2]
สัปดาห์หลังจากฉายตอนที่ 10 ไปก่อนที่จะฉายตอนสุดท้าย ทางช่องเอเอ็กซ์เอ็นได้ทำการฉาย "Best Moments" of The Amazing Race Asia 4 ในวันที่ 2 ธันวาคมแทนการฉายตอนสุดท้ายและจะทำการฉายตอนสุดท้ายในวันที่ 9 ธันวาคม
According to AXN, this season is dubbed as "Ride of a Lifetime". Allan noted that this season will travel to exotic locations and feature new challenges. This season features a first-time visit to Sri Lanka, as well as visits to far-flung areas including Invercargill, New Zealand, and Legazpi City, Albay, Philippines.
Leg 5 was said to be the most expensive production to date. It features teams riding numerous forms of transportations: airplanes, bus, passenger jeep, carrier jeep, jet ski and an all-terrain vehicle. Leg 7 introduced the break-leg with no rest or eliminations in between and that teams do not win any prize arriving first.
Season 4's cast include the show's first father-daughter team, as well as martial arts experts, tattooists, social workers and musicians. Like in previous Asian editions, this season features a large number of media personalities or their relatives. Wendy was a finalist in Miss Hong Kong 2006, Nadine was Miss Indonesia Earth 2009, while Natasha was Miss South Jakarta 2007. Dimple is a Hindi soap actress who starred in the serial Aathvaan Vachan while her friend Sunaina is an Indian TV actress, who is currently starring in Dill Mill Gayye, as well as a movie actress who starred in Hindi movie Kyun! Ho Gaya Na.... Manas finished runner-up as a contestant on the Indian reality-dating show Rakhi Ka Swayamwar, similar in format to The Bachelorette of the American series. Jess and Lani have appeared in numerous media and print advertisements and commercials in the Philippines. Michelle was a reality TV contestant on the Singaporean series S Factor. At the ages of 21 and 22 respectively, Claire and Michelle also form the youngest team in Amazing Race Asia history.
This season features two non-Asians, Ivan, who is from Hungary and races with his Malaysian wife Hilda; Jess & Lani are of Australian nationality but Lani has Filipino ethnicity, while Richard (Hardin) & Richard (Herrera) were raised in the United States. Filipina socialite and fashion icon Tessa Prieto-Valdez appeared as the greeter on the fifth leg at the Bahi Beach Amphitheater.
The Amazing Race Asia 4 has three official sponsors, they are Axiata, Caltex and Sony. The official hotel partner is Hilton, while the series is supported by Tourism Malaysia and Mix FM. A week before the premiere of Racers Revealed, the show was released on its official website. The first episode premiered on the official website one week before the season debut as well.
ตารางแสดงชื่อ ความสัมพันธ์ของผู้แข่งขันในขณะถ่ายทำของแต่ละทีมพร้อมทั้งแสดงสถานะในการแข่งขัน ดังนี้ (ตารางนี้อาจไม่ได้แสดงข้อมูลที่ตรงกับข้อมูลที่ออกอากาศในโทรทัศน์เนื่องจากข้อมูลที่เพิ่มเข้ามาบางส่วนในภายหลัง หรือข้อมูลที่ถูกนำออกไปบางส่วน)
ทีม | ความสัมพันธ์ | ลำดับที่ (ในแต่ละเลก) | ผู้แก้อุปสรรค | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 74 | 8 | 9 | 10 | 11 | |||
ริชาร์ดกับริชาร์ด | เพื่อน | 2 | 2 | 6 | 1ƒ | 2^ | 1 | 2 | 2 | 47 | 2 | 1 | ริชาร์ด ฮา. 4, ริชาร์ด ฮี. 5 |
แคลร์กับมิเชล | เพื่อนหัวดื้อรั้น | 3 | 71 | 4< | 7 | 3+ | 3» | 3 | 4 | 3 | 3 | 2 | แคลร์ 5, มิเชล 5 |
ฮุสเซนกับนาตาชา | พ่อกับลูกสาว | 9 | 91 | 2 | 5 | 7– | 2 | 65 | 5 | 2 | 1 | 38 | ฮุสเซน 55 8, นาตาชา 5 |
เจสกับลานี่ | กลุ่มเพื่อนปาร์ตี้ | 8 | 81 | 7 | 4 | 5~ | 4 | 1 | 1 | 1 | 4 | เจส 5, ลานี่ 5 | |
อีธานกับไครี่ | เพื่อน | 1 | 5 | 5 | 3 | 1+ | 5 | 4 | 3 | 5 | อีธาน 4, ไครี่ 4 | ||
ดิมเพิลกับสุนัยนา | คู่ร่วมเที่ยว | 4 | 3 | 1> | 2 | 4^ | 6« | 5 | 66 | ดิมเพิล 5, สุนัยนา 3 | |||
อีฟวานกับฮิลด้า | คู่แต่งงาน | 6 | 1 | 3 | 6 | 6~ | 7 | อีฟวาน 3, ฮิลด้า 3 | |||||
ซาฮิลกับมนัส | ญาติ | 7 | 4 | 82 | 8 | 8– | ซาฮิล 2, มนัส 3 | ||||||
อลันกับเวนดี้ | คู่เดท | 5 | 61 | 9 | 93 | อลัน 2, เวนดี้ 2 | |||||||
ญานีกับนาดีน | เพื่อนซี้ | 10 | 101 | ญานี 1, นาดีน 1 |
หมายเหตุ 1: อลันกับเวนดี้ (ที่ 1) / แคลร์กับมิเชล (ที่ 4) / ญานีกับนาดีน (ที่ 7) / เจสกับลานี่ (ที่ 8) / ฮุสเซนกับนาตาชา (ที่ 9) ทั้ง 5 ทีมไม่สามารถทำอุปสรรคให้สำเร็จได้ จึงทำให้ถูกบวก 4 ชั่วโมงในการเข้าจุดพัก และตกลงมาอยู่อันดับต่าง ๆ ในตารางแต่เนื่องจากญานีกับนาดีน ไม่ได้ขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ในเลกนี้ ทำให้ถูกปรับเวลาเพิ่มเติมอีก 30 นาทีทำให้พวกเธอตกลงมาอยู่อันดับสุดท้ายและถูกคัดออก
หมายเหตุ 2: เดิมทีแล้วมารัสกับซาฮิลมาถึงเป็นลำดับที่ 7 ของเลกนี้ แต่คนขับรถสามล้อมาบอกว่าพวกเขาจ่ายเงินค่ารถให้ไม่ครบหลังจากที่พวกเขาเข้าจุดหยุดพักไปแล้ว อลันจึงบอกให้พวกเขาไปจ่ายเงินให้ถูกต้อง จึงทำให้เจสกับลานี่ที่เข้ามาทีหลังขึ้นมาเป็นลำดับที่ 7 และทำให้พวกเขาตกลงไปในลำดับที่ 8
หมายเหตุ 3: เนื่องจากอลันกับเวนดี้มาถึงเป็นลำดับสุดท้ายในเลกนี้ ทำให้พวกเขาไม่ต้องถูกปรับเวลาเนื่องจากไม่มาถึงเป็นลำดับที่ 1 และถูกคัดออกไป
หมายเหตุ 4: เมื่อเข้าจุดเช็คในเลกที่ 7 นี้ทีมได้รับคำใบจากพิธีกรและแข่งต่อไปทันทีโดยไม่มีการหยุดพัก ทำให้กลายเป็นว่าทีมที่เข้ามาเป็นลำดับสุดท้ายก็ไม่มีบทลงโทษ
หมายเหตุ 5: ฮุสเซ็นไม่สามารถทำภารกิจอุปสรรคให้สำเร็จได้ ทำให้พวกเขาถูกปรับเวลา 4 ชั่วโมงทันทีหลังจากทำภารกิจอุปสรรคแรก
หมายเหตุ 6: ดิมเพิลกับสุนัยนาไม่สามารถประกอบภารกิจทางแยกอันที่สองได้ หลงัจากตามหลังทีมอื่นทั้งหมด ที่เข้าจุดหยุดพักไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้พวกเธอถูกพาตัวมายังจุดหยุดพัก และคัดออก
หมายเหตุ 7: ริชาร์ดกับริชาร์ดได้ทำผิดกฎข้อที่ว่าให้เดินทางมายังวัดแต่พวกเขากลับนั่งรถมาทำให้เมื่อถึงวัดต้องนั่งรถกลับไปแตะเรือแล้วถึงเดินกลับมาที่วัดอีกครั้งเพื่อรับคำใบ้ต่อไป
หมายเหตุ 8: ฮุสเซ็นไม่สามารถทำภารกิจอุปสรรคให้สำเร็จได้ ทำให้พวกเขาถูกปรับเวลา 4 ชั่วโมงทันทีหลังจากทำภารกิจอุปสรรค
ในบางเลก ทางรายการจะมีรางวัลพิเศษให้กับทีมที่มาถึงจุดพักเป็นทีมแรก
แม่แบบ:คำสั่งต่าง ๆ ในการแข่งขัน
เดินทางโดยเครื่องบิน; เดินทางโดยรถไฟ; เดินทางโดยเรือ; เดินทางโดยรถประจำทาง; ไม่มี = เดินทางโดยรถยนต์หรือเดิน |
ทางแยก อุปสรรค ทางด่วน จุดร่วมมือ ถ่วงเวลา ย้อนกลับ จุดหยุดพัก |
สำหรับอุปสรรคแรกของรายการดิ อะเมซิ่ง เรซ เอเชีย 4 นั้น สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องนับขั้นบันไดของถ้ำบาตู ระหว่างที่ถือของเซ่นไหว้ขึ้นไปด้วย ซึ่งทีมจะต้องระวังลิงมารบกวนในการนับขั้นบันได เมื่อสมาชิกขึ้นมาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ทีมจะต้องแลกเปลี่ยนของเซ่นไหว้กับจำนวนขั้นบันไดที่ถูกต้อง (272 ขั้น) จึงจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากพระ แต่ถ้าสมาชิกตอบไม่ถูกจะต้องลงมานับใหม่แล้วขึ้นไปตอบให้ถูกต้อง ส่วนทางแยกนั้น ทีมจะต้องระหว่างธง (Flag) กับเช็ดกระจก (Rag) โดยทีมที่เลือกธง จะต้องค้นหาธงทั้ง 5 ผืนภายในตู้เก็บของบนเรือ เมื่อทีมหาเจอทั้งหมดแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกเช็ดกระจกนั้น จะต้องนำตัวเองไปยังชั้นล่างเพื่อทำความสะอาดหน้าต่างของห้องพักโดยอยู่บนเครน โดยที่สมาชิกอีกคนในทีมจะต้องค้นหาหน้าต่างห้องพักและถ่ายภาพระหว่างเช็ดกระจก เมื่อนำรูปภาพไปให้กะลาสีเรือ เขาจะมอบคำใบ้ต่อไปแก่ทีม
สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ ทีมจะต้องดำน้ำลงไปใต้ท้องทะเล เพื่อนำกุญแจที่ผูกอยู่กับปมปริศนาเชือกยาว 25 เมตรให้ออกก่อนที่เวลาจะหมด เมื่อทีมสามารถนำกุญแจออกมาได้แล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างน้ำเชี่ยวกราด (Rapid Waters) กับไฟเชี่ยวกราด (Rapid Fires) โดยทีมที่เลือกน้ำเชี่ยวกราด จะต้องล่องแพไม้ไผ่ไปตามลำน้ำที่เชี่ยวกราด จนกว่าจะถึงบริเวณที่กำหนด แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกไฟเชี่ยวกราด จะต้องใช้หนังสติ๊กยิงกระบอกไม้ไผ่ 1 ใน 3 อันให้โดน เมื่อหนึ่งในสมาชิกยิงโดน ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากหัวหน้าหมู่บ้าน
สำหรับทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างนับมัน (Count It) กับขนมัน (Carry It) โดยทีมที่เลือกนับมัน จะต้องนับจำนวนปลาที่อยู่ในกระบะใส่น้ำแข็ง ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1100 ตัว เมื่อทีมเขียนจำนวนที่ถูกต้องแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกขนมัน จะต้องขนส่งน้ำแข็งจำนวน 12 ก้อนโดยใช้รถเข็นไปยังร้านที่มีป้ายสีเหลือง-แดงแปะอยู่ เมื่อทีมขนส่งเสร็จแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากพ่อค้า แต่ถ้าทีมทำน้ำแข็งแตก ทีมจะต้องขนส่งน้ำแข็งก้อนใหม่มา ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องตัดเย็บเสื้อ ตามแบบที่ให้มาจำนวน 1 ตัวโดยใช้จักรเย็บผ้า เมื่อทีมเย็บเสร็จและเป็นที่พึงพอใจแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป
สำหรับทางด่วนของเลกนี้ ทีมที่ทำทางด่วน (ในี่นี้คือคู่ของริชาร์ดกับริชาร์ด) จะต้องเดินทางไปยังสถานีขนส่งกอล จากนั้นจึงหาร้านตัดผมบริเวณใกล้เคียง ที่มีป้ายสีเหลือง-แดงแปะอยู่ จากนั้นจึงโกนศีรษะให้เกลี้ยงทั้งสองคน เมื่อทีมได้รับการโกนศีรษะเรียบร้อยแล้ว ทีมจะต้องนำเป็ดของโรงแรมฮิลตันไปกับทีมแล้วขึ้นแท็กซี่ที่มีป้ายเหลือง-แดง เดินทางไปยังจุดหยุดพักต่อไป (ชายหาดคาลูทรารา คาลิดู) ทางด่วนที่ได้รับความนิยมอันนี้มีพื้นฐานที่ใกล้เคียงกับทางด่วนของเลก 8 ของดิ อะเมซิ่ง เรซ 7 และเลก 9 ของดิ อะเมซิ่ง เรซ 5 ของเวอร์ชันอเมริกา ส่วนสำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องค้นหาปีที่ประเทศศรีลังกาได้กลายมาเป็นรัฐอธิปไตย และเปลี่ยนชื่อจากซีลอนเป็นศรีลังกา ดังเช่นในปัจจุบัน โดยสมาชิกจะต้องใช้ปีค.ศ.นั้น ไขกุญแจที่ล็อกหีบสมบัติอยู่บริเวณภายนอกของหอประภาคารกอล (รหัสที่ถูกต้องคือ 1-9-7-2) และทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างหลักสูตรมะพร้าว (Coconut Course) กับหลักสูตรภาษา (Language Course) โดยทีมที่เลือกหลักสูตรมะพร้าว จะต้องปีนต้นมะพร้าวที่มีบันไดอยู่ขึ้นไป แล้วไต่เชือกที่พาดระหว่างต้นมะพร้าวทั้งสองต้น แล้วลงมารับลูกมะพร้าว 1 ลูก เมื่อทีมได้รับลูกมะพร้าวทั้ง 2 ลูกแล้ว ทีมจะต้องนำลูกมะพร้าวไปให้กับหัวหน้าเผ่าเพื่อรับคำใบ้ต่อไป ทางแยกอันนี้มีพื้นฐานใกล้เคียงกับทางแยกลำต้นของเลก 9 ในดิ อะเมซิ่ง เรซ 6 เวอร์ชันอเมริกา ส่วนทีมที่เลือกหลักสูตรภาษา จะต้องเดินทางไปยังโรงเรียน แล้วเลือกเด็กนักเรียน 1 คนเพื่อให้สอนภาษาสิงหลทั้งหมด 10 คำ เมื่อทีมรู้สึกจำได้ทั้งหมดแล้ว คุณครูจะทดสอบความรู้ในการอ่านเสียงของทีม และถ้าทีมตอบได้ถูกต้องทั้งหมดแล้ว คุณครูจะมอบคำใบ้ต่อไปต่อไปแก่ทีม ทางแยกอันนี้มีพื้นฐานใกล้เคียงกับทางแยกเรียนมันของเลก 3 ในดิ อะเมซิ่ง เรซ 12 เวอร์ชันอเมริกา
In this leg's Detour, teams had to choose between Pen or Pinot. In Pen, teams must separate three marked sheep from a flock to another pen to receive their next clue. In Pinot, teams must carry and fill a wine barrow with wine to receive their next clue. For the leg's Roadblock, teams took a taxi to Circus Art School on Sydney Olympic Park, one team member must perform flying trapeze routine to receive their next clue.
In this leg's Roadblock, teams drive themselves to WRX Rally Experience Circuit race and one team member must take a Subaru Impreza WRX and make a lap within 1:42 (one minute and forty-two seconds) to get their next clue. If they did not made the lap after the correct time, they would do it again. In this Detour, teams must first participate in an Aborigine tradition of face-painting before doing one of the Detours, Bush Chucker and Bush Hunter. Both Detours located at a farm in Coombabah. In Bush Chucker, teams must throw a boomerang and have it land within a marked circular area. In Bush Hunter, teams must throw a hunting spear to a hay bale. After doing their Detour, one team member must eat a live witchetty grub, an Aborigine delicacy, to receive their next clue.
In this leg's Detour, teams must choose between Above or Beyond. In Above, teams must carry a basket 50 meters above their heads without their hands touching the basket. In Beyond, teams must search a local cemetery for the tomb of Fang Sam Noi. In this leg's Roadblock, teams ride an outrigger and dive to retrieve a briefcase. They must then ride a horse carriage to a resort where the team must count the money in the briefcase and use this as the combination for the laptop. If they entered the wrong combination, they must wait for 10 minutes before they can enter another combination.
ในทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องขับรถเพื่อเดินทางไปบังสถาบันการศึกษาเจซอนจู และเลือกภารกิจระหว่างยิงลูกศร (Bow N' Arrow) กับโยนลูกหิน (Rock N' Roll) โดยทีมที่เลือกยิงลูกศร จะต้องเลือกรูปภาพของทีมใดก็ได้ 1 ภาพเพื่อเป็นเป้า แล้วใช้คันศรท้องถิ่น ซึ่งเป็นอาวุธสงครามโบราณของเกาหลีใต้ ยิงลูกธนูให้โดนรูปภาพที่อยู่ห่างออกไป 15 เมตร (50 ฟุต) ทั้ง 3 ดอก แล้วครูฝึกจะมอบคำใบ้ต่อไปแก่ทีม ส่วนทีมที่เลือกโยนลูกหิน จะต้องก่อสร้างเจดีย์หิน โดยใช้ก้อนหินจากบริเวณใกล้เคียงมาตั้งให้สูง 1 เมตรโดยไม่ให้ล้มก่อน เมื่อทีมก่อสร้างจดีย์ได้แล้ว ชาวบ้านจะมอบคำใบ้ต่อไปแก่ทีม ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องถอดรหัสของทหาร โดยการเข้ากลุ่มของประตูให้ถูกต้องทั้ง 3 ด่าน ถ้าสมาชิกเดินเข้าผิดประตู จะมีนักรบโบราณถือดาบคอยกั้นเพื่อให้กลับไปเข้าประตูใหม่ แต่หากเดินเข้าผิด 3 ครั้งติดต่อกัน นักรบจะบอกให้กลับไปยังจุดเริ่มต้นและเริ่มใหม่ โดยเมื่อสมาชิกเข้าถูกทั้ง 3 ประตูแล้ว สมาชิกจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากแม่ทัพสงคราม
In this leg's Detour, teams must choose between Stay Up and Add Up. In Stay Up, teams must successfully ride a wave for an accumulated time of two minutes at the Wave House in Sentosa Island. In Add Up, teams must head to the Gmax Reverse Bungee and add up three numbers called out by the host and get the sum correctly to receive their next clue. In this leg's Roadblock, one team member must make a tightrope walk from tower 1 to tower 2 of the Marina Bay Sands Resort to get their clue. They must then make their way back to tower 1 to finish the task.