ภาษาซำเร | |
---|---|
ภาษาซัมเร, ภาษาสำเร | |
ออกเสียง | /samɹeː/ [samˈɹeː³³²~samˈɣeː³³²] |
ประเทศที่มีการพูด | ไทย |
ภูมิภาค | จังหวัดตราด |
ชาติพันธุ์ | ชาวซำเร |
จำนวนผู้พูด | 20 คน (2544)[1] |
ตระกูลภาษา | |
สถานภาพทางการ | |
ภาษาชนกลุ่มน้อยที่รับรองใน | ![]() |
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | ไม่มี (mis ) |
ภาษาซำเร ภาษาซัมเร หรือ ภาษาสำเร เป็นภาษาใกล้สูญภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษาปอร์ของตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก งานวิจัยฉบับหนึ่งใน พ.ศ. 2544 รายงานว่ามีผู้พูดภาษานี้ประมาณ 20 คนในตำบลนนทรีย์ อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ประเทศไทย[2]
ระบบเสียงภาษาซำเรมีลักษณะตามแบบฉบับของภาษากลุ่มมอญ-เขมรสมัยใหม่และแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางสัทวิทยาบางประการจากภาษาเขมรสมัยกลางในคริสต์ศตวรรษที่ 17[3] เช่นเดียวภาษากลุ่มปอร์ภาษาอื่น ๆ นอกจากนี้ระบบเสียงภาษาซำเรยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของภาษาไทยในแง่การพัฒนาระบบวรรณยุกต์ขึ้นมาใช้เพื่อจำแนกความหมายของคำ เช่นเดียวกับภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติกอื่น ๆ โดยทั่วไป และภาษากลุ่มปอร์โดยเฉพาะ ผู้พูดภาษาซำเรอาจเปล่งเสียงสระออกมาด้วยคุณภาพเสียงที่แตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นระบบที่เรียกว่า "ลักษณะน้ำเสียง" หรือ "ลักษณะเสียงพูด" อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างเสียงพูดลมแทรกกับเสียงพูดปกตินั้นไม่มีลักษณะเปรียบต่างอีกต่อไป และมีความสำคัญรองลงมาจากเสียงวรรณยุกต์ของคำคำหนึ่ง[4]
ลักษณะการออกเสียง | ตำแหน่งเกิดเสียง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ริมฝีปาก | ปุ่มเหงือก | เพดานแข็ง | เพดานอ่อน | เส้นเสียง | ||||
เสียงนาสิก | m | n | ɲ | ŋ | ||||
เสียงหยุด | ก้อง | b | d | |||||
ไม่ก้อง | ไม่พ่นลม | p | t | c | k | ʔ | ||
พ่นลม | pʰ | tʰ | cʰ | kʰ | ||||
เสียงเสียดแทรก | s | h | ||||||
เสียงเปิด | w | ɹ | j | |||||
เสียงเปิดข้างลิ้น | l |
ระดับลิ้น | ตำแหน่งลิ้น | ||
---|---|---|---|
หน้า | กลาง | หลัง | |
สูง | i, iː | ɯ, ɯː | u, uː |
กลาง | e, eː | ə, əː | o, oː |
ต่ำ | ɛ, ɛː | a, aː | ɔ, ɔː |
ภาษาซำเรมีหน่วยเสียงสระประสม 3 หน่วยเสียง ได้แก่ /iə/, /ɯə/ และ /uə/[9] ไม่มีความแตกต่างระหว่างเสียงสั้นกับเสียงยาวของสระประสมทั้งสาม
ในปัจจุบันระบบลักษณะน้ำเสียงของภาษาซำเรได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นระบบเสียงวรรณยุกต์ที่มีหน่วยเสียง 3 หน่วยเสียง ได้แก่
อย่างไรก็ตาม ยังปรากฏร่องรอยการใช้ลักษณะน้ำเสียงลมแทรกควบคู่ไปกับเสียงวรรณยุกต์อยู่บ้างในบางคำหรือบางสัทบริบท แม้ว่าจะไม่มีนัยสำคัญในการจำแนกความหมายของคำก็ตาม[12]
ภาษาซำเรเป็นภาษาหนึ่งที่อยู่ในภาวะวิกฤตใกล้สูญ การใช้ภาษาในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของภาษาไทยอย่างชัดเจน เช่น การยืมคำศัพท์พื้นฐานจำนวนมากจากภาษาไทย การใช้เสียงวรรณยุกต์ในการจำแนกความหมายของคำ เป็นต้น[13] นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้พูดภาษาซำเรได้เพียงประมาณ 20 คน ในจำนวนนี้มักใช้ภาษาซำเรสลับกับภาษาไทยแต่ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยมากกว่า ส่วนเด็กชาวซำเรเรียนภาษาไทยและใช้เพียงภาษาไทยเท่านั้น ทัศนคติต่อภาษาดั้งเดิมของกลุ่มตนเองเป็นไปในทางค่อนข้างลบ[13]
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศขึ้นทะเบียนภาษาซำเรเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติไทย สาขาภาษา เมื่อ พ.ศ. 2557[14]