อัซรีนัซ มัซฮาร์

อัซรีนัซ มัซฮาร์
เกิดอัซรีนัซ มัซฮาร์ บินตี ฮากิม มัซฮาร์
23 กันยายน พ.ศ. 2522 (45 ปี)
กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
สัญชาติมาเลเซีย
อาชีพผู้ประกาศข่าว
คู่สมรสสุลต่านฮัสซานัล บลกียะฮ์ (พ.ศ. 2548–2553)
ไฟรซ คาน อับดุล ฮามิด (พ.ศ. 2561–ปัจจุบัน)
บุตรเจ้าชายอับดุล วาคีล
เจ้าหญิงอามีระฮ์ วาร์ดาตุล
อารีซียา มาลายีคา
อาทีรา เมดีนะฮ์
บิดามารดาฮากิม มัซฮาร์ มูฮัมมัด โจฮาร์
เฟาซียะฮ์ อับดุลละฮ์ มันซูร์

อัซรีนัซ มัซฮาร์ บินตี ฮากิม มัซฮาร์ (มลายู: Azrinaz Mazhar binti Hakim Mazhar; เกิด 23 กันยายน พ.ศ. 2522) หรือชื่อในอดีต เจ้าหญิงอัซรีนัซ มัซฮาร์ พระชายาฯ เป็นอดีตผู้ประกาศข่าวชาวมาเลเซีย[1] และอดีตพระชายาคนที่สามของสุลต่านฮัสซานัล บลกียะฮ์ สุลต่านแห่งบรูไน ต่อมาถูกถอดจากอิสริยยศทั้งหมดหลังการหย่า

ประวัติ

[แก้]

อัซรีนัซ มัซฮาร์ หรือชื่อเล่นว่า นัซ เกิดเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2522 ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นบุตรคนที่สองของฮากิม มัซฮาร์ กับเฟาซียะฮ์ อับดุลละฮ์ สำเร็จการศึกษาจากสถาบันมีเดียอินเตอร์กราฟมาเลเซีย สาขาวิทยุกระจายเสียง

เธอมีชื่อเสียงจากการเป็นผู้ประกาศข่าวในสถานีโทรทัศน์ TV3 ของประเทศมาเลเซีย จนเธอได้รับรางวัลนักข่าวที่มีศักยภาพมากที่สุดของ TV3 ใน พ.ศ. 2543 และได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นจากสถาบันมีเดียอินเตอร์กราฟใน พ.ศ. 2545 และเธอได้ลาออกจากการทำงานเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 โดยได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "ดิฉันต้องการก้าวเดินออกไปเผชิญสิ่งใหม่ ๆ"[1]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]

อัซรีนัซพบกับสุลต่านฮัสซานัล บลกียะฮ์ ครั้งแรกเมื่อเธอเดินทางไปยังประเทศบรูไนเมื่อสองปีก่อนการสมรส[1] ซึ่งสหายของเธอได้อ้างว่า "เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นอัซรินัซเพียงแค่แวบเดียวก็ตกหลุมรักเธอทันที นับจากนั้นพระองค์ก็ดูเธออ่านข่าวทางโทรทัศน์ที่ทีวีช่อง 3 อยู่เสมอ"[1] งานอภิเษกสมรสของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างเงียบ ๆ ที่กัวลาลัมเปอร์ ภายในงานได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ผู้เข้าไปในงานถูกห้ามมิให้พกกล้องเข้าไป และจะต้องถูกค้นร่างกายอย่างละเอียด[1] หลังการอภิเษกสมรสครั้งนั้นทำให้ได้รับการสถาปนาเป็น เจ้าหญิงอัซรินัซ มัซฮาร์ พระชายาฯ[2] เธอได้ให้ประสูติกาลพระโอรส-ธิดาสองพระองค์ คือ เจ้าชายอับดุล วากีล (ประสูติ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2549) และเจ้าหญิงอามีระห์ วาร์ดาตุล (ประสูติ 28 มกราคม พ.ศ. 2551)[3]

ความสัมพันธ์ของเธอกับสุลต่านบรูไนยุติลงเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ซึ่งมีการประกาศออกทางโทรทัศน์ในช่องเรดิโอเทเลวิชันบรูไน ซึ่งในประกาศดังกล่าวได้กล่าวถึงการถอนพระอิสริยยศ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดของเธอ[4][5] ส่วนเหตุผลนั้น เป็น "เหตุผลพิเศษ" ที่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด[6] ซึ่งก่อนหน้านี้สุลต่านฮัสซานัลทรงหย่ากับพระชายาองค์ที่สองคือ มาเรียม อับดุล อาซิซ อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เมื่อ พ.ศ. 2546[7]

อัซรีนัซสมรสใหม่กับไฟรซ คาน อับดุล ฮามิด (Fairos Khan Abdul Hamid) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 แขกรับเชิญในงานมีเพียงสมาชิกครอบครัว มิตรสนิท และบุคคลที่ญาติเชิญมาเท่านั้น[8] ทั้งสองมีบุตรด้วยกันสองคน คือ อารีซียา มาลายีคา (Areesya Malaykha; เกิด 15 กันยายน พ.ศ. 2562) และอาทีรา เมดีนะฮ์ (Atheera Medinah; เกิด 26 มีนาคม พ.ศ. 2564)

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "ASTV - สุลต่านบรูไน "รักแรกพบ" ชายาองค์ใหม่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-11-15. สืบค้นเมื่อ 2012-03-05.
  2. "Brunei Sultan divorces M'sian wife after five years". AsiaOne. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-14. สืบค้นเมื่อ 2012-03-05.
  3. "New bundle of joy for royal family". The Brunei Times.
  4. "His Majesty divorces Azrinaz Mazhar". The Brunei Times.
  5. มติชนออนไลน์ - สุลต่านบรูไนหย่าพระชายาองค์ที่ 3 หลังอภิเษกสมรสนาน 5 ปี
  6. "ไทยโพสต์ - สุลต่านบรูไนหย่าพระชายาคนที่สาม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-22. สืบค้นเมื่อ 2012-03-05.
  7. คมชัดลึก - "สุลต่าน"บรูไนทรงหย่าขาดชายาองค์ที่3[ลิงก์เสีย]
  8. Chua, Dennis (2018-05-05). "#Showbiz: Azrinaz Mazhar Hakim weds a second time on Labour Day | New Straits Times". NST Online (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-04-27.