แบคแลช (2007) | |||
---|---|---|---|
Promotional poster featuring Edge | |||
สมาคม | เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ | ||
ค่าย | รอว์ สแมคดาวน์! อีซีดับเบิลยู | ||
วันที่ | 29 เมษายน ค.ศ. 2007 | ||
เมือง | แอตแลนตา, รัฐจอร์เจีย | ||
สถานที่ | ฟิลิบ อารีนา | ||
ผู้ชม | 14,500 คน[1] | ||
ลำดับเหตุการณ์ Pay-per-view | |||
| |||
ลำดับเหตุการณ์แบคแลช | |||
|
แบคแลช (2007) (อังกฤษ:Backlash (2007))) เป็นรายการเพย์-เพอร์-วิวมวยปล้ำอาชีพของ เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (WWE) จัดเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2007 ณ สนามฟิลิบ อารีนา ในเมืองแอตแลนตา, รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรายการในลำดับรายการแบคแลช ครั้งที่ 9 และจัดหลังจากศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 โดยแสดงนักมวยปล้ำจากรอว์, สแมคดาวน์ และ อีซีดับเบิลยู[3][4] ในรายการนี้มีการแข่งขันปล้ำกัน 6 รายการด้วยกัน[5]
ในศึก รอยัลรัมเบิล (2007) ชอว์น ไมเคิลส์ ได้เป็น 2 คนสุดท้ายในแมทช์รอยัลรัมเบิล ซึ่งกำลังจะจับเหวี่ยงดิอันเดอร์เทเกอร์ตกเวที แต่กลับเป็นชอว์น ไมเคิลส์ โดย ดิอันเดอร์เทเกอร์เหวี่ยงตกเวทีเป็นคนสุดท้าย ทำให้ดิอันเดอร์เทเกอร์ เป็นผู้ชนะในรอยัลรัมเบิลประจำปี 2007[6][7] ต่อมาในศึกรอว์ (5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007) ชอว์น ไมเคิลส์ ได้กลายเป็นผู้ท่าชิงแชมป์โลก WWE อันดับ 1 ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 โดยเอาชนะแมทช์การปล้ำสามเส้า ได้แก่ เอดจ์ และแรนดี ออร์ตัน[8] ต่อมาในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 จอห์น ซีนา สามารถป้องกันชนะ ชอว์น ไมเคิลส์ ในการชิงแชมป์โลก WWE ได้สำเร็จด้วยท่าสับมิสชั่น STFU[9] ต่อมาในศึกรอว์ (9 เมษายน ค.ศ. 2007) ในแมทช์การปล้ำหาผู้ท่าชิงแชมป์โลก WWE อันดับ 1 ระหว่าง ชอว์น ไมเคิลส์ กับ แรนดี ออร์ตัน แต่ปรากฏว่าเสมอกัน เนื่องจากไหล่ของทั้งคู่ติดพื้นและกรรมการนับ 3 ต่อมาในคืนเดียวกัน เอดจ์ ได้ออกมาพูดในรายการตัวเอง The Cutting Edge โดยมาขอร้องผู้จัดการทั่วไปของรอว์โจนาธาน โค้ชแมน ให้เอดจ์ เป็นชิงแชมป์โลก WWE แต่แรนดี ออร์ตัน มาขัดขวาง รวมถึงชอว์น ไมเคิลส์ ต่อมาผู้จัดการทั่วไปของรอว์โจนาธาน โค้ชแมน กำลังออกมาพูดบอกผู้ท่าชิงแชมป์โลก WWE อันดับ 1 มิค โฟลีย์ ได้พา ไมเคิลส์ เพน่า ผู้จัดการทั่วไปของรอว์เฉพาะคืนเดียว และได้ประกาศให้ จอห์น ซีนา ,เอดจ์, แรนดี ออร์ตัน และ ชอว์น ไมเคิลส์ เจอกันในแมทช์การปล้ำสี่เส้า เพื่อชิงแชมป์โลก WWE ในศึกแบคแลช[10]
ในศึก รอยัลรัมเบิล (2007) ดิอันเดอร์เทเกอร์ เป็นผู้ชนะในรอยัลรัมเบิลประจำปี 2007[6] ต่อมาในศึกรอว์ (5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007) ดิอันเดอร์เทเกอร์ได้เลือกแชมป์โลกเฮฟวีเวท บาทิสตา ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวีเวทในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23[8] ต่อมาในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ดิอันเดอร์เทเกอร์ สามารถเอาชนะ บาทิสตา ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวีเวท และทำสถิติในเรสเซิลเมเนีย 15-0[11][12][13] ต่อมาในศึกสแมคดาวน์! ผู้จัดการทั่วไปของสแมคดาวน์! ทีโอดอร์ ลอง ได้จัดแมทช์การปล้ำลาสท์แมนสแตนด์ดิ้ง ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวีเวท ในศึกแบคแลช[14]
ในศึกรอว์ (26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007) Donald Trump ได้เลือกนักมวยปล้ำบ็อบบี แลชลีย์ ในการเจอกับนักมวยปล้ำของ วินซ์ แม็กแมน คือ อูมาก้า ในแมทช์นักมวยปล้ำของใครแพ้ คนนั้นจะต้องโดนโกนผม[15] ต่อมาในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 นักมวยปล้ำของ Donald Trump คือ บ็อบบี แลชลีย์ ได้เอาชนะนักมวยปล้ำของวินซ์ คือ อูมาก้า ทำให้วินซ์ต้องโดนโกนผม[16] ต่อมาในศึกรอว์ (9 เมษายน ค.ศ. 2007) เชน แม็กแมน ได้เจอกับ บ๊อบบี แลชลี ในการชิงแชมป์โลก ECW โดยมีผมของเชนเป็นเดิมพัน ปรากฏว่าเชนได้ทำฟาล์ว และอูมาก้ากับวินซ์ออกมารุมแลชลีย์ และได้ประกาศว่า ทีมแม็กแมน (อูมาก้า, วินซ์, และ เชน) เจอกับแลชลีย์ ในการชิงแชมป์โลก ECW ในแมทช์ 3 รุม 1 ในศึกแบคแลช[10]
# | แมทช์การปล้ำ | กำหนดการปล้ำ | เวลา |
---|---|---|---|
ก่อนรายการ | คาร์ลีโต ชนะ จอห์นนี ไนโตร[17] | แมทช์การปล้ำเดี่ยว | 06:21 |
1 | เดอะ ฮาร์ดี (แมทท์ และ เจฟฟ์) (c) ชนะ แลนซ์ เคด และ เทรเวอร์ เมอร์ด็อก[17][18] | แมทช์การปล้ำแทกทีม เพื่อชิงแชมป์World Tag Team Championship | 15:18 |
2 | เมลินา (c) ชนะ มิกกี เจมส์[17][19] | แมทช์การปล้ำเดี่ยว เพื่อชิงแชมป์WWE Women's Championship | 09:02 |
3 | คริส เบนวา (c) ชนะ มอนเทล วอนเทเวียส พอร์เตอร์[17][20] | แมทช์การปล้ำเดี่ยว เพื่อชิงแชมป์WWE United States Championship | 13:10 |
4 | ทีมแม็กแมน (อูมากา, วินซ์ แม็กแมน, และ เชน แม็กแมน) ชนะ บ็อบบี แลชลีย์ (c)[21][17] | แมทช์การปล้ำ 3 รุม 1 เพื่อชิงแชมป์ECW World Championship | 15:45 |
5 | ดิอันเดอร์เทเกอร์ (c) เสมอกับ บาทิสตา[22][17] | แมทช์การปล้ำลาสท์แมนสแตนด์ดิ้ง เพื่อชิงแชมป์World Heavyweight Championship | 20:23 |
6 | จอห์น ซีนา (c) ชนะ เอดจ์, แรนดี ออร์ตัน และ ชอว์น ไมเคิลส์[23][17] | แมทช์การปล้ำสี่เส้า เพื่อชิงแชมป์WWE Championship | 19:21 |
(c) – หมายความว่ายังเป็นแชมป์อยู่ในขณะนั้น
|