แฮนค็อกพาร์ค (ลอสแอนเจลิส) | |
---|---|
ชุมชนในเมืองลอสแอนเจลิส | |
ถนนหมายเลขสี่ ในแฮนค็อกพาร์ค | |
แผนที่แฮนค็อกพาร์ค (ลอสแอนเจลิส) วาดประกอบโดย ลอสแอนเจลิสไทมส์ | |
พิกัด: 34°04′34″N 118°20′01″W / 34.07619°N 118.33348°W | |
Country | United States |
State | รัฐแคลิฟอร์เนีย |
County | Los Angeles |
City | Los Angeles |
ความสูง[1] | 76 เมตร (249 ฟุต) |
เขตเวลา | UTC−8 (PST) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC−7 (PDT) |
ZIP Codes | 90004, 90005, 90010, 90020, 90036 |
รหัสพื้นที่ | 213, 323 |
แฮนค็อกพาร์ค เป็นย่านหนึ่งในพื้นที่ วิลเชียร์ (Wilshire) ของลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย [2] ได้รับการพัฒนาในปีช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1920 ซึ่งมีความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมในพื้นที่โดยรอบ ภายในย่านนี้ยังประกอบด้วยพื้นที่อนุรักษ์ชุมชนประวัติศาสตร์แฮนคอคพาร์ค ( Historic Preservation Overlay Zone - HPOZ)
แฮนคอคพาร์ค ได้รับการพัฒนาในปีช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1920 โดยครอบครัว Hancock จากผลกำไรที่ได้รับจากการขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ไร่ลาเบรอา (Rancho La Brea) พื้นที่ดังกล่าวเป็นชื่อของ George Allan Hancock นักพัฒนาผู้ใจบุญซึ่งแบ่งพื้นที่ในปีช่วง ค.ศ. 1920 [3] [4] แฮนค็อกเกิดและเติบโตในบ้าน (ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำมันลาเบรอา) และได้รับมรดก 4,400 เอเคอร์ (18 ตารางกิโลเมตร) จากพันตรีเฮนรีแฮนค็อก พ่อของเขาได้ซื้อมาจากไร่ลาเบรอาซึ่งเป็นทรัพย์สินของของครอบครัวโฮเซ จอร์ชา โรชา[5]
กลุ่มนักกิจกรรมของแฮนค็อกพาร์คมีส่วนสำคัญในการผ่านคำสั่งห้ามของรัฐสภาในปี 1986 ในการขุดอุโมงค์ผ่านพื้นที่ใกล้เคียง คำสั่งห้ามซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรส เฮนรี แว็กซ์แมน เพื่อป้องกันไม่ให้ รถไฟใต้ดินสายสีแดง ถูกสร้างไปตาม ถนนวิลเชอร์ (Wilshire Boulevard) ซึ่งเลียบตามแนวของแฮนคอคพาร์ค[ต้องการอ้างอิง]
ชุมชนแฮนคอคพาร์ค ล้อมรอบด้วยถนนวิลเชียร์ในด้านทิศใต้ ถนนเมลโรส (Melrose Avenue) ในด้านทิศเหนือ และตัดด้วยถนนไฮแลนด์ (Highland Avenue) ในฝั่งตะวันตก[6] โดยในโครงการการทำแผนที่เมืองลอสแอนเจลิส (Mapping L.A.) ของลอสแอนเจลิสไทมส์ ซึ่งระบุพื้นที่อย่างชัดเจนซึ่งรวมละแวกใกล้เคียงทั้งหมดในการแบ่งพื้นที่สำหรับการสำรวจสำมะโนประชากร[7] โดยระบุให้แฮนค็อกพาร์คขนาบข้างด้วย ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงคือ ฮอลลีวูด ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของแฮนคอคพาร์ค เมลโรส ในทางตะวันตกเฉียงเหนือ และทางทิศตะวันตกติดกับชุมชนลาเบรอา - แฮนคอค (La Brea-Hancock) ซึ่งครอบคลุมพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำมันลาเบรอา และติดกับบรูคไซด์ (Brookside) ในด้านตะวันตกเฉียงใต้, ฟรีมอนต์เพลส (Fremont Place) ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้, ลาชมอนต์ (Larchmont) และจตุรัสวินเซอร์ (Windsor Square) ทางทิศตะวันออก [8] และแฟร์แฟกซ์ ในทางทิศตะวันตก [9]
ในปี 2550 สมาคมเจ้าของบ้านในแฮนค็อกพาร์ค นับจำนวนบ้านในชุมชนได้ประมาณ 1,200 หลัง ภายในอาณาเขตที่ล้อมด้วยถนนเมลโรส ถนนวิลเชอร์ และทั้งสองฝั่งของถนนไฮแลนด์และถนนรอสมอร์[10]
พื้นที่ภายในยังประกอบด้วยสนามกอล์ฟ Wilshire Country Club [11] [12]
พื้นที่อนุรักษ์ชุมชนประวัติศาสตร์แฮนคอคพาร์ค (HPOZ) ได้รับการรับรองโดยสภาเทศบาลเมือง ในปีพ.ศ. 2551 [13] พื้นที่นี้คือ "โดยทั่วไปมีขอบเขตโดยเมลโรสอเวนิวทางทิศเหนือ, ไฮแลนด์อเวนิวทางตะวันตก, รอสมอร์อเวนิวทางตะวันออกและบริเวณด้านหลังของคุณสมบัติเชิงพาณิชย์ตามวิลเชอร์บูเลอวาร์ดทางทิศใต้" [14]
Hancock Park owes its name to developer-philanthropist G. Allan Hancock who sub-divided the property in the 1920s. Hancock, born in San Francisco, but raised in a home at the La Brea Tar Pits, inherited the 440 acres which his father, Major Henry Hancock, had acquired from the Rancho LaBrea property owned by the family of Jose Jorge Rocha. ...
Hancock Park, located in the eastern portion of the original Rancho La Brea area, was purchased by Major Henry Hancock in 1863. The residential subdivision of Hancock Park was developed by Major Hancock’s son, G. Allan Hancock, in the 1920s. Outstanding architects of the era designed the palatial two-story, single-family residences in various Period Revival styles (including Tudor Revival, English Revival, Spanish Colonial Revival, Mediterranean Revival, Monterey Revival, and American Colonial Revival) for influential members of Los Angeles society. The vast majority of the residences are set back 50 feet from the street, as insisted upon by G. Allan Hancock, and include side driveways generally leading through a porte cochere to a rear garage. Previous prominent Hancock Park residents have included millionaire Howard Hughes, entertainers Mae West and Nat King Cole, Broadway Department Store magnate Arthur Letts Jr., and architect William Pereira.
On January 6, 1828 Rancho La Brea was granted to Antonio Jose Rocha and Nemisio Dominguez by Jose Antonio Carrillo, the Alcalde of Los Angeles. The grant included a stipulation that the tar pits within the rancho would be open and available to all the citizens of the pueblo for their use. The title was confirmed by Jose Echeandia, who was the Governor of Alta California at the time. Later in 1840, it was reconfirmed by Governor Juan B. Alvarado