บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีข้อเสนอแนะ |
กอบศักดิ์ ภูตระกูล | |
---|---|
![]() กอบศักดิ์ ใน พ.ศ. 2563 | |
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 – 29 มกราคม พ.ศ. 2562 (1 ปี 2 เดือน 6 วัน) ดำรงตำแหน่งร่วมกับ | |
นายกรัฐมนตรี | ประยุทธ์ จันทร์โอชา |
ก่อนหน้า | ออมสิน ชีวะพฤกษ์ สุวิทย์ เมษินทรีย์ |
ถัดไป | เทวัญ ลิปตพัลลภ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 23 สิงหาคม พ.ศ. 2511 |
ศาสนา | พุทธ |
กอบศักดิ์ ภูตระกูล นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาประเทศ นโยบายเศรษฐกิจมหภาค การเงิน และตลาดทุน กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ เลขานุการบริษัทและกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
กอบศักดิ์ ภูตระกูล สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค และเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ เมื่อปี 2540 หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้าน คณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ที่วิทยาลัยวิลเลียม ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2534 สำหรับมัธยมศึกษาตอนปลาย จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในปี 2529 และมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปี 2526
หลังสำเร็จการศึกษา ได้กลับมาปฏิบัติงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นเวลา 14 ปี โดยมีประสบการณ์ทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน ในงานด้านต่าง ๆ ทั้งส่วนของนโยบายการเงิน นโยบายสถาบันการเงิน นโยบายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ และได้ถูกยืมตัวไปทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในตำแหน่งผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ดูแลด้านงานวิจัย และผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดูแลฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ ในระหว่างปี 2550-2551 ต่อมากลับมาทำงานที่ ธปท. ในตำแหน่งผู้บริหารส่วนกลยุทธ์นโยบายการเงิน สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย รับผิดชอบงานที่เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินและประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้นเมื่อปี 2553 ได้ตัดสินใจลาออกเพื่อหาประสบการณ์ในภาคเอกชน โดยทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ ตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กิจการธนาคารต่างประเทศ เป็นเวลา 5 ปี
เริ่มทำงานในภาคการเมืองเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2559 โดยได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[1] เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาและปฏิรูปเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจไทยในด้านต่างๆ ต่อมาในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[2] กำกับดูแลสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สภาวิจัยแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ และ อสมท.
นอกจากนี้ ดร. กอบศักดิ์ยังเคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) กรรมการและเลขานุการในคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ประธานกรรมการในคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจ[3] ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป กรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ [4] กรรมการในคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน[5] กรรมการในคณะกรรมการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายระยะเร่งด่วน รองประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารโครงการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น รวมทั้งยังเคยดำรงตำแหน่ง กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ[6] สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการในคณะกรรมการสภาการศึกษา[7] และกรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ[8]
ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เขาได้รับเลือกเป็น ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และกรรมการในคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 67/2557
ในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2565 มติคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62 แต่งตั้งให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ในด้านวิชาการ ดร.กอบศักดิ์ ได้ผลิตผลงานการศึกษาด้านต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ วันที่ 9 มีนาคม 2552 ได้รับรางวัล ป๋วย อึ๊งภากรณ์ สำหรับนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2552 จากสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ สถาบันทางวิชาการเศรษฐศาสตร์ 7 สถาบัน และกองทุนป๋วย อึ๊งภากรณ์ มูลนิธิ 50 ปี ธนาคารแห่งประเทศไทย โดย คำประกาศเกียรติคุณของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กลั่นกรองผลงานวิชาการในการมอบรางวัล เขียนไว้ว่า
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ซึ่งมีความแม่นยำและความลุ่มลึกในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ มีความรัดกุมในวิธีวิทยา ตลอดจนมีความสามารถในการประยุกต์ใช้วิธีการทางเทคนิคในการทดสอบแนวคิดทางทฤษฎีต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมไม่ฟุ่มเฟื่อย และมีความโดดเด่นที่สามารถตีความข้อมูลเชิงประจักษ์ที่คุ้นเคยให้เกิดมุมมองใหม่ที่น่าสนใจและเข้าใจได้ง่าย งานวิชาการของ ดร. กอบศักดิ์ หลายชิ้นสามารถก่อให้เกิดการถกเถียงและเปิดประเด็นให้เกิดการศึกษาวิจัยสื่บเนื่องอย่างกว้างขวาง
ผลงานวิชาการคุณภาพสูงจำนวนมากของ ดร. กอบศักดิ์ ได้แสดงให้เห็นถึงฉันทะทางวิชาการและความสนใจในการศึกษาวิจัยในเรื่องต่างๆ ที่หลากหลาย ครอบคลุมปริมณฑลทางวิชาการอย่างกว้างขวาง ทั้งเรื่องนโยบายการเงิน การออม สินเชื่อ ทุนมนุษย์ การประกันสังคม และการค้าระหว่างประเทศ โดยทุกเรื่องล้วนมีนัยทางนโยบายต่อการพัฒนาประเทศไทย...
ต่อมา ในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ได้รับทุนพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย จากมูลนิธิ 50 ปี ธปท. เพื่อทำการศึกษาวิจัยเรื่อง "ปัญหาการกระจายรายได้ในไทยและทางออก" ซึ่งบทวิจัยนี้ได้เป็นพื้นฐานเชิงวิชาการสำคัญ ในการกำหนดนโยบายของภาครัฐ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ไขปัญหาความยากจนของประเทศ