ระบบการขนส่งในประเทศกัมพูชา ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากสงครามกลางเมือง และได้พัฒนาขึ้นใหม่หลังจากประเทศกลับสู่ความสงบ แต่ก็ยังไม่เพียงพอเท่าที่ควร โครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่อ่อนแอทำให้ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้อย่างสะดวก และสร้างปัญหาในการจัดซื้อสิ่งของส่งกระจายไปยังที่ต่าง ๆ แต่ได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียตหลังจากที่เขมรแดงลงจากอำนาจ
ทางรถไฟที่สำคัญมีสองสายโดยทั้งหมดมีจุดเริ่มที่พนมเปญ มีระยะทางรวม 612 กิโลเมตร เป็นรางรถไฟทางเดี่ยวขนาดหนึ่งเมตร (มีเตอร์เกจ) ทั้งนี้กัมพูชามีแผนสร้างทางรถไฟสายที่สามเพื่อเชื่อมต่อพนมเปญกับเวียดนาม[1] รวมถึงทางรถไฟระหว่างประเทศสิงคโปร์เชื่อมต่อกับเมืองคุนหมิง ประเทศจีน และสายเหนือ-ใต้
หลังจากทศวรรษที่ได้รับความเสียหายจากช่วงสงคราม เครือข่ายระบบรางของกัมพูชาได้ฟื้นตัวขึ้นใหม่ รวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟทรานส์-เอเชีย ด้วยรถไฟที่ทันสมัย แทนที่การใช้เส้นทางรถไฟที่ชาวบ้านได้ดัดแปลงไม้ไผ่เป็นรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว โดยใช้พลังงานรถโกคาร์ตหรือเครื่องปั๊มน้ำ เรียกว่า "รถไฟไม้ไผ่"[1]
ในอดีตเส้นทางรถไฟของกัมพูชาเคยเชื่อมต่อกับเวียดนามและไทย แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองจึงทำให้มีการรื้อรางออก[2]
ระบบทางหลวงในประเทศกัมพูชามีระยะทางทั้งสิ้น 38,257 กิโลเมตร ลาดยางแล้ว 2,406 กิโลเมตร และยังไม่ได้ลาดยาง 35,851 กิโลเมตร (ข้อมูลปี พ.ศ. 2547) ประมาณ 50% ราดด้วยแอสฟัลท์ และอยู่ในสภาพดี ใน พ.ศ. 2524 กัมพูชาเริ่มใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ที่เริ่มจากพนมเปญไปยังชายแดนเวียดนาม ถนนที่ชำรุดระหว่างสงครามได้รับการฟื้นฟูด้วยทหารช่างจากเวียดนามที่มาให้ความช่วยเหลือ ถนนส่วนใหญ่ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้ใน พ.ศ. 2549 มีการสร้างถนนเชื่อมต่อจากชายแดนไทยที่ปอยเปตไปยังจังหวัดเสียมราฐหรือนครวัด
หมายเลข | รหัส | ความยาว | เริ่มต้น | สิ้นสุด | |
---|---|---|---|---|---|
ทางหลวงหมายเลข 1 | 10001 | 167.10 km | 103.83 mi | พนมเปญ | พรมแดนเวียดนาม |
ทางหลวงหมายเลข 2 | 10002 | 120.60 km | 74.94 mi | พนมเปญ | พรมแดนเวียดนาม |
ทางหลวงหมายเลข 3 | 10003 | 202.00 km | 125.52 mi | พนมเปญ | Veal Rinh |
ทางหลวงหมายเลข 4 | 10004 | 226.00 km | 140.43 mi | พนมเปญ | เมืองพระสีหนุ |
ทางหลวงหมายเลข 5 | 10005 | 407.45 km | 253.18 mi | พนมเปญ | พรมแดนไทย |
ทางหลวงหมายเลข 6 | 10006 | 416.00 km | 258.49 mi | พนมเปญ | จังหวัดบันทายมีชัย |
ทางหลวงหมายเลข 7 | 10007 | 509.17 km | 316.38 mi | Skuon | พรมแดนลาว |
ทางหลวงหมายเลข 8 | 10008 | 90.00 km | 55.92 mi | Neak Leung | Thnal Totoung |
การเดินทางทางน้ำมีบทบาทมากในประวัติศาสตร์กัมพูชา แม่น้ำโขงและทะเลสาบเขมรซึ่งมีคลองเชื่อมต่อมากมาย จัดว่ามีประโยชน์ในการคมนาคมมาก มีเรือเฟอร์รีให้บริการขนส่งระหว่างแม่น้ำบาสักกับแม่น้ำโขงช่วงกลาง
ท่าเรือที่สำคัญของกัมพูชามีสองแห่งคือ ท่าเรือพนมเปญและท่าเรือเมืองพระสีหนุหรือท่าเรือกำปงโสม โดยท่าเรือพนมเปญอยู่ระหว่างจุดตัดระหว่างแม่น้ำโขง แม่น้ำบาสัก และแม่น้ำทะเลสาบ เป็นท่าเรือแม่น้ำที่มีความสำคัญในกัมพูชาทั้งระดับชาติและนานาชาติ ท่าเรือเมืองพระสีหนุเปิดใช้การใหม่อีกครั้งใน พ.ศ. 2522 โดยสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2503 ด้วยความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส
ในกัมพูชามีท่าอากาศยาน 26 แห่ง แต่สามารถใช้การได้ใน พ.ศ. 2528 เพียง 13 แห่ง มีสนามบิน 8 แห่งที่มีรันเวย์แบบถาวร ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญเป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาคือท่าอากาศยานแห่งชาติเสียมราฐในเสียมราฐ ใน พ.ศ. 2526 ได้สร้างท่าอากาศยานขึ้นที่เรียม เรียกว่าท่าอากาศยานนานาชาติเมืองพระสีหนุ โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียต นอกจากนั้น ยังมีท่าอากาศยานในพระตะบองและสตึงแตรง