การหยุดรัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มเมื่อเวลาเที่ยงคืนตามเขตเวลาตะวันออก เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561 หลังไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายจัดหาเงินทุนที่เกี่ยวข้องสำหรับการดำเนินการและหน่วยงานของรัฐ เกิดจากข้อพิพาทเกี่ยวกับการขยายสถานภาพของบุคคลที่ได้รับผลจากนโยบายการเข้าเมืองมาตรการผ่อนผันแก่ผู้เข้าเมืองเด็ก (Deferred Action for Childhood Arrivals, ย่อ DACA) และผู้ที่ได้รับการคุ้มครองตามโครงการนี้ควรถูกเนรเทศหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีข้อพิพาทว่าควรมีการจัดหาเงินทุนแก่การสร้างกำแพงชายแดนเม็กซิโก–สหรัฐหรือไม่ ซึ่งเป็นนโยบายหลักหมุดระหว่างการรณรงค์หาเสียงประธานาธิบดีของดอนัลด์ ทรัมป์
การหยุดรัฐบาลกลางนี้เป็นการหยุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐในขณะที่พรรคการเมืองเดียวกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภาและทำเนียบขาว (คือ พรรคริพับลิกัน) การหยุดปี 2561 เริ่มเมื่อวุฒิสภาสหรัฐไม่สามารถอนุมัติร่างกฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านเพื่อเปิดรัฐบาลต่อได้[1] การหยุดสิ้นสุดเมื่่อสมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครตตกลงยุติการอภิปรายประวิงเวลาและปิดอภิปรายด้วยคำมั่นว่าพรรคริพับลิกันจะอนุญาตให้มีการถกเถียงในกฎหมายอีกฉบับชื่อรัฐบัญญัติดรีมก่อนมติต่อเนื่องหมดอายุเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561[2][3]
ปีงบประมาณ 2561 ของรัฐบาลสหรัฐเริ่มเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 เนื่องจากยังไม่ผ่านร่างกฎหมายการจัดสรรเงินตามระเบียบเพื่อจัดหาเงินทุนแก่รัฐบาล รัฐสภาจึงจัดหาเงินทุนแก่รัฐบาลผ่านมติต่อเนื่องชั่วคราวสามมติ การจัดหาเงินทุนแก่รัฐบาลขยายเวลาจนถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2560[4][5] 22 ธันวาคม 2560 และ 19 มกราคม 2561 ตามลำดับ[6]
การเจรจาร่างกฎหมายการจัดสรรเงินถาวรติดกับด้วยข้อพิพาทเรื่องนโยบายการเข้าเมืองมาตรการผ่อนผันแก่ผู้เข้าเมืองเด็ก (DACA), DACA เป็นนโยบายการเข้าเมืองของสหรัฐที่อนุญาตให้ปัจเจกบุคคลบางส่วนที่เข้าประเทศเป็นชนกลุ่มน้อย และเข้าหรืออยู่ในประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ได้รับมาตรการผ่อนผันการเนรเทศระยะเวลาสองปีที่ต่ออายุได้และมีสิทธิรับใบอนุญาตทำงาน ในปี 2560 มีปัจเจกบุคคลประมาณ 800,000 คน ที่ขึ้นทะเบียนในโครงการที่ DACA สร้าง รัฐบาลโอบามาตั้งนโยบายดังกล่าวผ่านการกระทำของฝ่ายบริหารในเดือนมิถุนายน 2555 เพื่อสนองต่อรัฐสภาที่ไม่สามารถผ่านรัฐบัญญัติดรีม (DREAM Act) รัฐบาลทรัมป์เลิก DACA ในเดือนกันยายน 2560 โดยกำหนดวันหมดอายุในเดือนมีนาคม 2561 โดยแถลงความนิยมว่ารัฐสภาควรผ่านวิธีแก้ปัญหาตามกฎหมาย[7]
วันที่ 19 มกราคม 2561 รัฐบัญญัติการขยายอายุการจัดสรรเงินต่อเนื่องปี 2018 (H.R. 195) อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขยายเวลาการจัดหาเงินทุนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 ร่างกฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 18 มกราคม แต่การออกเสียงลงคะแนนปิดอภิปรายในวุฒิสภาไม่ผ่าน มีผู้สนับสนุน 50 และคัดค้าน 49[8] ในขณะที่ต้องอาศัย 60 เสียงเพื่อยุติการอภิปรายประวิงเวลาที่มีพรรคเดโมแครตเป็นผู้นำ[9] เมื่อเวลาประมาณ 22:45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก มีสมาชิกวุฒิสภาพรรคริพับลิกันห้าคน พรรคเดโมแครตห้าคนออกเสียงเห็ยชอบกับญัตติปิดอภิปรายในมติ ส่วนริพับลิกันสี่คนออกเสียงคัดค้านการปิดอภิปราย มติต่อเนื่องที่ผู้นำพรรคริพับลิกันสนับสนุนนี้ รวมการอนุญาตโครงการประกันสุขภาพเด็ก (CHIP) หกปีซึ่งไม่ได้รับเงินทุนตั้งแต่เดือนตุลาคม และชะลอภาษีสาธารณสุขหลายรายการซึ่งเกิดจากรัฐบัญญัติการบริบาลที่เสียได้ เดโมแครตนิยมมติสั้น ๆ ที่กินเวลาไม่กี่วัน โดยเจตนาเจรจาให้รวมการขยายเวลานโยบาย DACA[10]