ระหว่างสงครามอิสราเอล–ฮะมาส พ.ศ. 2566 มีการแลกเปลี่ยนหลายครั้งระหว่างอิสราเอลกับฮะมาสเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกันที่กลุ่มติดอาวุธจับกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ การเจรจาดังกล่าวมีกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐเป็นตัวกลาง และเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว
มีประวัติของการแลกเปลี่ยนเชลยในความขัดแย้งอิสราเอล–ปาเลสไตน์ที่โดดเด่นที่สุดคือการแลกเปลี่ยนนักโทษกิลัด ชาลิตในปี พ.ศ. 2554[1][2] ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ได้ควบคุมตัวผู้คนประมาณ 250 คนจากอิสราเอล รวมทั้งชาวอิสราเอลและผู้ที่ไม่ใช่ชาวปาเลสไตน์ ระหว่างการโจมตีอิสราเอลที่นำโดยฮะมาส[3][4][5][6][7] เจ้าหน้าที่ของฮะมาสจัดให้การปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์จากเรือนจำอิสราเอลเป็นหนึ่งในแรงจูงใจหลักสำหรับการโจมตีในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม[8] ก่อนหน้านั้น อิสราเอลได้ควบคุมตัวชาวปาเลสไตน์ 5,200 คนที่ถูกจองจำก่อนสงคราม[9] แต่ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์ จำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10,000 คน ท่ามกลางคลื่นของการกักขังจำนวนมาก[10] หลังจากการเนรเทศคนงานชาวกาซาที่ถูกคุมขังหลายพันคน คณะกรรมการเพื่อผู้ถูกคุมขังและกิจการอดีตนักโทษชาวปาเลสไตน์ได้วางจำนวนไว้ที่ประมาณ 8,300 คน[11][12][13]
ฮะมาสเสนอข้อตกลงที่เรียกว่า ทุกคนสำหรับทุกคน หรือ ทั้งหมดเพื่อทั้งหมด ซึ่งเป็นการปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ถูกจับในฉนวนกาซาเพื่อแลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์หลายพันคนในเรือนจำของอิสราเอล[14][15]
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน มีรายงานว่ากลุ่มฮะมาสบอกกับผู้ไกล่เกลี่ยของกาตาร์ว่ากลุ่มนี้เต็มใจที่จะปล่อยตัวประกันผู้หญิงและเด็กมากถึง 70 คนที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซาเป็นเวลา 5 วัน และปล่อยตัวผู้หญิงและเด็ก 275 คนที่ถูกอิสราเอลควบคุมตัว[16]
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน มีการประกาศว่าอิสราเอลและฮะมาสบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการหยุดยิงและปล่อยตัวตัวประกัน 50 คน เพื่อเป็นการตอบสนองรัฐบาลอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 150 คน กลุ่มฮะมาสยอมรับว่าเด็ก ๆ จะเป็นองค์ประกอบหลักของตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัว[17][18]
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ไม่กี่วันหลังสิ้นสุดการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮะมาส ศอเลียะห์ อัลอารูรี รองหัวหน้ากลุ่มฮะมาส กล่าวว่าจะไม่มีการแลกปลี่ยนนักโทษ/ตัวประกันกับอิสราเอลจนกว่าจะมีการหยุดยิงที่กาซา[19]
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 รัฐบาลอิสราเอลยืนยันว่าตัวประกันชาวอิสราเอล 13 คนได้รับการปล่อยตัวแล้ว[20][21] เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ยืนยันผ่านสื่อสังคมว่าตัวประกันชาวไทย 12 คนได้รับการปล่อยตัวจากฉนวนกาซาแล้ว[22] ต่อมาในวันนั้น มีการรายงานว่าจากตัวประกัน 24 คนที่ปล่อยตัวครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ในจำนวนนี้ประกอบด้วยพลเมืองอิสราเอล 13 คน (ซึ่งบางคนเป็นพลเมืองสองสัญชาติ) พลเมืองไทย 10 คน และพลเมืองฟิลิปปินส์หนึ่งคนโดยกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ มีรายงานว่าคนไทยจำนวนหนึ่งได้รับการปล่อยตัวนอกข้อตกลงพักรบ[23] เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน มีพลเมืองที่ได้รับการปล่อยตัว 105 คน ซึ่งรวมชาวอิสราเอล 81 คน ชาวไทย 23 คน และชาวฟิลิปปินส์คนเดียว[24]
สุขภาพร่างกายของตัวประกัน
[แก้]
ตัวประกันทั้งหมดได้รับรายงานว่ามีสุขภาพแข็งแรงดีคนหนึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวเพียงไม่กี่คนได้พูดถึงประสบการณ์ของพวกเขา แต่คนที่เล่าว่าถูกขังอยู่ในที่แออัดซึ่งมีไฟฟ้าเพียงเล็กน้อยและไม่มีที่นอน มีอาหารอยู่ไม่มาก แต่พวกเขาได้รับไก่และข้าว ขนมปัง ฮัมมัสกระป๋อง เนยแข็ง และชา[25][26]
- ↑ "Hamas to gain politically from prisoner swap deal", Xinhua News Agency, 20 October 2011.
- ↑ Mishra, Harinder (12 October 2011). "Israel to release 1,027 prisoners for its lone soldier". IBN Live. Jerusalem. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 January 2012. สืบค้นเมื่อ 16 October 2011.
- ↑ "Hamas plans to use Israeli civilian hostages as human shields". i24NEWS. 8 October 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 October 2023. สืบค้นเมื่อ 28 November 2023.
- ↑ "Images of the Mass Kidnapping of Israelis by Hamas". The Atlantic (ภาษาอังกฤษ). 9 October 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 October 2023. สืบค้นเมื่อ 10 October 2023.
- ↑ Fabian, Emanuel; Staff, ToI; Agencies (7 October 2023). "Israel confirms civilians and soldiers abducted by Hamas into Gaza". The Times of Israel (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 October 2023. สืบค้นเมื่อ 10 October 2023.
- ↑ Vinograd, Cassandra; Kershner, Isabel (9 October 2023). "Hamas Took Scores of Hostages From Israel. Here's What We Know About Them". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 October 2023. สืบค้นเมื่อ 9 October 2023.
- ↑ Sherwood, Harriet (17 October 2023). "Hamas says 250 people held hostage in Gaza". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 October 2023. สืบค้นเมื่อ 19 October 2023.
- ↑ Pacchiani, Luca (7 October 2023). "Hamas deputy chief anticipates hostages will be swapped for Palestinian prisoners". The Times of Israel. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 October 2023. สืบค้นเมื่อ 25 October 2023.
- ↑ "Who are the Palestinian prisoners Israel released on Friday?" (ภาษาอังกฤษ). Al Jazeera. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 November 2023. สืบค้นเมื่อ 28 November 2023.
- ↑ Tahhan, Zena Al. "Israel doubles number of Palestinian prisoners to 10,000 in two weeks" (ภาษาอังกฤษ). Al Jazeera. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 November 2023. สืบค้นเมื่อ 28 November 2023.
- ↑ Lucas Lilieholm; Tamar Michaelis; Maija Ehlinger; Laura Paddison (29 October 2023). "Netanyahu under pressure from hostages' families and cabinet as Gaza operation escalates" (ภาษาอังกฤษ). CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 November 2023. สืบค้นเมื่อ 28 November 2023.
- ↑ Salman, Abeer; Elbagir, Nima; Arvantidis, Barbara; Platt, Alex; Ebrahim, Nadeen (22 November 2023). "Who are the Palestinian prisoners on Israel's list for potential release?" (ภาษาอังกฤษ). CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 November 2023. สืบค้นเมื่อ 29 November 2023.
- ↑ Tahhan, Zena Al. "Israel arrests almost as many Palestinians as it has released during truce" (ภาษาอังกฤษ). Al Jazeera. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 November 2023. สืบค้นเมื่อ 29 November 2023.
- ↑ "Negotiations ongoing for release of 10-15 Hamas-held captives, reports say" (ภาษาอังกฤษ). Al Jazeera. สืบค้นเมื่อ 10 November 2023.
- ↑ Halabi, Einav; Eichner, Itamar; Turgeman, Meir (28 October 2023). "Hamas chief: all Israeli hostages for all Palestinian prisoners". Ynetnews (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 10 November 2023.
- ↑ Abdel-Razek, Omar; Abdel-Aziz, Moaz (13 November 2023). "Hamas armed wing says it discussed freeing 70 hostages in return for 5-day truce" (ภาษาอังกฤษ). Reuters. สืบค้นเมื่อ 16 November 2023.
- ↑ "TV report: Mothers and their children will be released together as hostage deal plays out". The Times of Israel. 22 November 2023. สืบค้นเมื่อ 22 November 2023.
- ↑ Kingsley, Patrick (20 November 2023). "Israel and Hamas Agreed to a Cease-Fire and Hostage Release. Here's What We Know". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 22 November 2023.
- ↑ "Hamas says no prisoner exchange without Gaza ceasefire". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2023-12-02. สืบค้นเมื่อ 2023-12-03.
- ↑ Tanyos, Faris; Reals, Tucker (24 November 2023). "Group of hostages released as temporary cease-fire in Israel-Hamas war takes effect". CBS News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 November 2023. สืบค้นเมื่อ 24 November 2023.
- ↑ Jobain, Najib; Federman, Josef; Jeffery, Jack (24 November 2023). "Hamas frees first batch of hostages under truce, including 13 Israelis, officials and media say". Associated Press. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 November 2023. สืบค้นเมื่อ 24 November 2023.
- ↑ Masoud, Bassam; Laizans, Janis (24 November 2023). "Thailand says 12 hostages freed in Gaza; Israeli media report others being handed over". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 November 2023. สืบค้นเมื่อ 24 November 2023.
- ↑ Neuman, Scott; Estrin, Daniel; Mann, Brian (24 November 2023). "13 Israelis are among the two dozen hostages freed by Hamas". NPR. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 November 2023. สืบค้นเมื่อ 24 November 2023.
- ↑ "8 Israeli hostages freed from Gaza at end of seventh day of truce". The Times of Israel. 30 November 2023. สืบค้นเมื่อ 30 November 2023.
- ↑ Adams, Paul; Baker, Graeme (28 November 2023). "Freed Hamas captives tell of fear, squalor and hunger" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 November 2023. สืบค้นเมื่อ 29 November 2023.
- ↑ Rosman, Katherine; Bubola, Emma; Abrams, Rachel; Goldman, Russell (30 November 2023). "Hostages Freed From Gaza Recount Violence, Hunger and Fear". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 30 November 2023.