คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ซึ่งมีหน่วยงานฝ่ายธุรการคือ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (OTCC) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของประเทศไทย ก่อตั้งครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 และได้รับการปรับโครงสร้างใหม่เป็นหน่วยงานอิสระที่มีอำนาจในปี พ.ศ. 2560
ก่อนปี พ.ศ. 2560 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 ได้จัดตั้งหน่วยงานดังกล่าวเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าแต่งตั้งขึ้น และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานโดยตำแหน่ง ในช่วงทศวรรษถัดมา โครงสร้างนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ โดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าดำเนินคดีเพียงคดีเดียวคือฟ้องเอพี ฮอนด้าในปี 2546 หลังจากคดีหมดอายุความเนื่องจากคดียืดเยื้อออกไปเป็นเวลาสิบปี ทำให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าถูกมองว่าเป็นเสือกระดาษ กฎหมายฉบับใหม่ คือ พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ได้ยกเลิกโครงสร้างเดิมและจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าขึ้นใหม่เป็นหน่วยงานอิสระที่มีอำนาจมากยิ่งขึ้น รวมถึงอำนาจในการกำหนดค่าปรับและบทลงโทษ ตลอดจนอำนาจในการอนุมัติหรือปฏิเสธการควบรวมกิจการที่เสนอขึ้นมาซึ่งอาจนำไปสู่ “การผูกขาดหรือการครอบงำตลาดที่ไม่เหมาะสมต่อผลประโยชน์ของผู้บริโภค” อย่างไรก็ตาม อำนาจดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมไปถึงภาคส่วนที่มีกฎหมายควบคุม เช่น โทรคมนาคมและพลังงาน[1][2][3]
คดีใหญ่คดีแรกที่เกิดขึ้นก่อนการจัดตั้งคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าขึ้นใหม่คือการขายเทสโก้โลตัสให้กับกลุ่มซีพีในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของหน่วยงานในการต่อกรกับกลุ่มธุรกิจที่มีอิทธิพลของประเทศไทย[4] ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 4 ต่อ 3 โดยที่คณะกรรมการระบุว่า "ข้อตกลงดังกล่าวอาจลดการแข่งขันลงอย่างมาก แต่จะไม่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเศรษฐกิจหรือผลประโยชน์ของผู้บริโภค"[5] การตัดสินใจดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากนักวิชาการ ประชาชนทั่วไป ตลอดจนคณะกรรมการที่ไม่เห็นด้วย รวมถึงประธานคณะกรรมการด้วย[6][7]