ซิ ยิ่นกุ้ย

ซิ ยิ่นกุ้ย

ซิ ยิ่นกุ้ย (จีนตัวย่อ: 薛仁贵; จีนตัวเต็ม: 薛仁貴; พินอิน: Xuē Rén'guì; เวด-ไจลส์: Hsüeh Jengui) เป็นแม่ทัพที่มีพละกำลังมาก และไม่เคยแพ้ใคร และเป็นแม่ทัพที่งักฮุย วีรบุรุษอีกคนในวัฒนธรรมจีนรุ่นต่อมานับถืออีกด้วย[1] แต่เรื่องราวของซิ ยิ่นกุ้ยมักถูกเล่าจนเป็นตำนานจนคล้ายเป็นเรื่องแต่งมากกว่าเรื่องจริง เรื่องราวของซิ ยิ่นกุ้ยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แต่ง แต่ได้มีการแต่งเนื้อเรื่องต่อมาในรุ่นลูกและรุ่นหลาน คือ ซิ ติงซาน (薛丁山, Xue Dingshan) และซิ กัง (薛剛, Xue Gang)

ซิ ยิ่นกุ้ย เกิดที่มณฑลซานซี ในปี ค.ศ. 614 ตรงกับรัชสมัยจักรพรรดิสุยหยาง โดยไม่ทราบประวัติก่อนหน้านี้ ทราบแต่เพียงว่าซิ ยิ่นกุ้ยและภรรยามี แซ่เล่า (柳) มีชื่อเดิมว่า ซิ หลี่ (Xue Li, 薛禮) และมาจากครอบครัวชาวนาที่ยากจน ก่อนจะสมัครเป็นทหารจนเติบโตในหน้าที่จนถึงเป็นแม่ทัพใหญ่ รับราชการถึง 2 รัชกาล ในรัชกาลจักรพรรดิถังไท่จง และจักรพรรดิถังเกาจง เป็นแม่ทัพที่มีบทบาทสำคัญในยุคราชวงศ์ถังกับการทำสงครามกับอาณาจักรทางทิศตะวันออก ในปี ค.ศ. 640 (อาณาจักรโคกูรยอ) และอาณาจักรทางทิศตะวันตกในปี ค.ศ. 670 (ทิเบตในปัจจุบัน) ก่อนที่จะเสียชีวิตในปี ค.ศ. 683

ตำนาน

[แก้]

คืนหนึ่งจักรพรรดิถังไท่จงทรงพระสุบินร้ายว่ามีปีศาจบุกมาทำร้ายพระองค์ แต่มีบุรุษผู้หนึ่งสวมชุดขาวทั้งชุดโผล่เข้ามาจัดการปีศาจตนนั้นด้วยทวนวงเดือน (戟) เมื่อพระองค์ตื่นจากบรรทม โหรได้ทำนายพระสุบินว่า คนผู้นี้จะเป็นแม่ทัพที่เก่งกล้ามาช่วยเหลือพระองค์สถาปนาราชวงศ์ถัง

ซิ ยิ่นกุ้ย เป็นบุตรชายของซิ เอง และนางพัว สี ตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุ 15 ไม่เคยพูดหรือเปล่งเสียงเลยสักคำ จนบิดามารดานึกว่าเป็นใบ้ แต่แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งซิ ยิ่นกุ้ยก็เผลออุทานออกมาหนึ่งคำ ผู้คนจึงรู้ว่าไม่ได้เป็นใบ้ จากนั้นทางการประกาศรับสมัครทหาร ซิ ยิ่นกุ้ยได้สมัครเป็นทหาร และสร้างผลงานไว้ตั้งแต่เป็นพลทหาร จนกระทั่งถึงแม่ทัพใหญ่ในที่สุด ซิ ยิ่นกุ้ยเป็นผู้มีพละกำลังวังชามาก เก่งกาจการขี่ม้า ใช้ทวน และยิงธนู มักขี่ม้าขาวและสวมเกราะสีขาวออกรบ สามารถหักโค่นต้นไม้ได้ด้วยมือเดียว และทานข้าววันละ 7 ถัง สู้กับข้าศึกนับร้อยได้ด้วยตัวคนเดียว[2]

เรื่องราวของซิ ยิ่นกุ้ย ยังมีเป็นภาคต่อเนื่องสืบมาคือ ซิ ติงซาน ที่เป็นบุตรชายของซิ ยิ่นกุ้ย ซึ่งได้กระทำปิตุฆาตเพราะเห็นภาพหลอนว่าซิ ยิ่นกุ้ยเป็นเสือโคร่งกระโจนเข้าใส่ อันเนื่องจากซิ ยิ่นกุ้ย นั้นเป็นเทพจุติมาจากเสือขาว (白虎) และมีศัตรูคู่อาฆาตคือมังกรเขียว (青龍) ซึ่งก็คือ ซิ ติงซาน นั่นเอง ซึ่งเรื่องของซิ ติงซานและซิ กังนั้น เป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นมาภายหลังในยุคราชวงศ์ชิง [3]

ในวัฒนธรรมร่วมสมัย

[แก้]

เรื่องราวของซิ ยิ่นกุ้ยถูกเล่าขานเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน มีปรากฏในส่วนต่าง ๆ ในวัฒนธรรมจีน เช่น ภาพวาดในศาลเจ้าต่าง ๆ[4] หรือนับถือเป็นเทพเจ้าในบางแห่ง ได้รับการเรียกขานว่าเป็น เจ้าเสือขาว หรีอ ขุนพลเสือขาว (白虎星君, General White Tiger) [5] มีการละเล่น เช่น งิ้ว จนกระทั่งถึงวัฒนธรรมร่วมสมัย เช่น ถูกสร้างเป็นซีรีส์ความยาว 20 ตอน โดยทีวีบี ในปี ค.ศ. 1985 ในชื่อ 薛仁貴征東 (ซิ ยิ่นกุ้ยออกรบ–ชื่อภาษาอังกฤษ: The Legend of The General Who Never Was, ชื่อภาษาไทย: ซิยิ่นกุ้ยผู้พิชิตตะวันออก) นำแสดงโดย ว่าน จื่อเหลียง, เติ้ง ชุ่ยเหวิน ซึ่งได้มีการดัดแปลงเนื้อหาบางส่วนจากเนื้อเรื่องเดิม[1]และในปี ค.ศ. 2006 ในชื่อ 薛仁贵传奇 (ตำนานซิ ยิ่นกุ้ย–ชื่อภาษาอังกฤษ: The Legendary Warrior, ชื่อภาษาไทย: ซิยิ่นกุ้ย จอมทัพคู่บัลลังก์) ความยาว 32 ตอน นำแสดงโดย เป่า เจี้ยนฟง, จาง เถี่ยหลิน, จิน เฉียวเฉี่ยว และถูกอ้างอิงถึงในปีเดียวกัน ในซีรีส์เกาหลีเรื่อง The King Dae Joyoung

รวมถึงในแวดวงมวยไทย มีนักมวยไทยคนหนึ่งที่มีฉายาว่า "ซิ ยิ่นกุ้ย" เนื่องจากมีจุดเด่นในเรื่องของพละกำลัง คือ แสนเชิง ปิ่นสินชัย[6]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "มีใครรู้จักแม่ทัพจีนที่ชื่อซิยิ่นกุ้ยมั่งครับ ช่วยเล่าประวัติเค้าให้ฟังหน่อยสิ". พันทิปดอตคอม.
  2. หนังสือ ซิยิ่นกุ้ย โดย ประพต เศรษฐกานนท์ สำนักพิมพ์ศรีปัญญา
  3. "Pictures of Lord White Tiger Xue Ren Gui (白虎星化薛仁貴)". javewu.multiply. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-11-09. สืบค้นเมื่อ 2010-03-12.
  4. "จิตรกรรมฝาผนังเรื่อง "ซิยิ้นกุ้ย" ในศาลเจ้าแสงธรรม". phuketdata.
  5. "ศาลเจ้าเต่งกองต๋อง". somboon. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-22. สืบค้นเมื่อ 2010-03-12.
  6. "แฟนพันธุ์แท้ 2014_7 มี.ค. 57 (มวยไทย)". แฟนพันธุ์แท้ 2014. 2014-03-07.