ทางด่วนย่างกุ้ง–มัณฑะเลย์ | |
---|---|
![]() | |
ข้อมูลของเส้นทาง | |
ส่วนหนึ่งของ ![]() ![]() | |
ความยาว | 586.7 กิโลเมตร (364.6 ไมล์) |
มีขึ้นเมื่อ | ธันวาคม ค.ศ. 2010–ปัจจุบัน |
ทางแยกที่สำคัญ | |
ปลายทางทิศใต้ | ย่างกุ้ง |
ปลายทางทิศเหนือ | มัณฑะเลย์ |
ตำแหน่งที่ตั้ง | |
เมืองสำคัญ | หงสาวดี, ตองอู, เนปยีดอ, เมะทีลา |
ทางด่วนย่างกุ้ง–มัณฑะเลย์ (พม่า: ရန်ကုန်–မန္တလေး အမြန်လမ်း) เป็นทางด่วนในประเทศพม่าที่เชื่อมต่อระหว่างสามเมืองใหญ่ของประเทศ ได้แก่ เมืองที่ใหญ่ที่สุด ย่างกุ้ง, เมืองหลวง เนปยีดอ และเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 มัณฑะเลย์ เปิดใช้บริการเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 ระยะทางทั้งสิ้น 587 กิโลเมตร ทางด่วนสายนี้สามารถช่วยลดเวลาในการเดินทางจากย่างกุ้ง สู่มัณฑะเลย์ โดยใช้เวลาเพียง 7 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเดินทางโดยรถไฟจะใช้เวลา 13 ชั่วโมง และถ้าใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ของพม่าจะใช้เวลาถึง 16 ชั่วโมง[1][2][3][4] การออกแบบ การก่อสร้าง และความปลอดภัยของทางด่วนสายนี้ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของนานาชาติ จะเห็นได้จากอุบัติเหตุจำนวนมากตั้งแต่เปิดให้บริการ และได้รับขนานนามว่า "ทางหลวงมรณะ"[5][6][7]
แผนระยะแรกในการสร้างทางหลวงระหว่างเมืองใหญ่ทั้งสองเมืองของประเทศ ได้จุดประเด็นเป็นแนวคิดในปี ค.ศ. 1954 เป็นส่วนหนึ่งในแผนของรัฐบาลสมัยนายกรัฐมนตรี อู นุ ต่อมาในปี ค.ศ. 1959 สหรัฐอเมริกาได้เสนอให้ความช่วยเหลือทางการเงินและการสำรวจทางวิศวกรรมของทางหลวงสายนี้ โดยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินถึง 750,000 ดอลลาร์สหรัฐ[8] เมื่อสำรวจเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1960 รัฐบาลพม่าก็ได้ออกมาประท้วงเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป[9] ในปี ค.ศ. 1961 รัฐบาลสหรัฐได้ตกลงที่จะศึกษาทางเลือกอื่นที่ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และเริ่มงานสำรวจอีกครั้งในช่วงต้นปี ค.ศ. 1962 แต่ได้ถูกเลื่อนออกไป และเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม เนื่องจากมีการทำรัฐประหารในปี ค.ศ. 1962 โดยสภาปฏิวัติสหภาพในเดือนมีนาคม โดยในตอนแรก รัฐบาลทหารได้ตกลงที่จะนำไปเสนอใหม่ และได้รับอนุญาตให้ออกแบบทางหลวงสายย่างกุ้ง–หงสาวดีในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1963 ต่อมาในเดือนธันวาคมทางหลวงพร้อมที่จะได้รับการออกแบบ แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการ ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและรัฐบาลพม่า[9]
เส้นทางที่เสนอขึ้นมาจะพาดผ่านเส้นกึ่งกลางระหว่างทางหลวงย่างกุ้ง–มัณฑะเลย์สายเก่า กับเทือกเขาพะโค ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า หลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์ออกจากพื้นที่ในปี ค.ศ. 1973 พรรคโครงการสังคมนิยมพม่าได้วางแผนที่จะก่อสร้างทางด่วน รัฐบาลได้ให้โรงงานปูนซีเมนต์ในภาคอิรวดี ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยความช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่นมามาการทำก่อสร้าง แต่เนื่องจากการขาดการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ทำให้การก่อสร้างถูกยกเลิกไป[10]
หลังจากการปฏิวัติการก่อการกำเริบ 8888 ระบอบการปกครองของทหารใหม่ได้ดำเนินการโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ โรงงานปูนซีเมนต์ใหม่และโรงผลิตเหล็กที่สร้างขึ้นโดยบริษัทของรัฐและเอกชน เงินทุนที่รัฐบาลได้รับจากการส่งออกก๊าซไปยังประเทศไทย ทำให้เริ่มการก่อสร้างได้ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2005 และได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตลอดทั้งสายในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2010[1][3][4]
ทางด่วนสายนี้เปิดตัวโดยกระทรวงการก่อสร้างของพม่า และคณะกรรมการวิศวกรรมทหารของกระทรวงกลาโหมหรือกองทัพพม่า[1][2][3]
ถนนสายนี้เป็นทางด่วนขนาด 4 ช่องจราจร เป็นทางคู่ 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ช่อง โดยแต่ละฝั่งกว้าง 7.62 เมตร และมีเกาะกลางกว้าง 9.14 เมตร ถนนสามารถรับน้ำหนักได้ 80 ตัน[3] มีช่องระบายน้ำทั้งหมด 842 แห่ง สะพาน 1,396 แห่ง และทางลอด 116 แห่ง สามารถใช้ความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[11]
ด่านเก็บค่าผ่านทางมีทั้งหมด 5 ด่าน ได้แก่ ย่างกุ้ง ปยู เนปยีดอ เมะทีลา และมัณฑะเลย์ อัตราค่าผ่านทาง รถยนต์ 4,500 จัต รถโดยสาร 22,500 จัต ส่วนรถบรรทุกไม่อนุญาตให้วิ่งบนทางด่วน[12]
ในปี ค.ศ. 2014 รัฐบาลได้วางแผนที่จะขยายถนน หลังจากมีอุบัติเหตุจำนวนมากบนทางด่วน[13][14] รัฐบาลได้ขอความช่วยเหลือจาก USAID JICA และ KOICA ที่จะขยายถนนเป็น 8 ช่องจราจร[10][12][15][16]