ทิวเขาพะโค | |
---|---|
ပဲခူးရိုးမ | |
จุดสูงสุด | |
ยอด | เขาโปะป้า |
ความสูง เหนือระดับน้ำทะเล | 1,518 เมตร (4,980 ฟุต) |
พิกัด | 20°55′27″N 95°15′02″E / 20.92417°N 95.25056°E |
ข้อมูลเชิงขนาด | |
ยาว | 475 กิโลเมตร (295 ไมล์) เหนือ-ใต้ |
กว้าง | 60 กิโลเมตร (37 ไมล์) ตะวันออก-ตะวันตก |
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ | |
ประเทศ | พม่า |
พิกัดเทือกเขา | 20°55.3′N 95°14.9′E / 20.9217°N 95.2483°E |
ทิวเขาพะโค (พม่า: ပဲခူးရိုးမ) เป็นช่วงของทิวเขา เนินเขาเตี้ย ๆ[1] และพื้นที่สูง[2] ระหว่างแม่น้ำอิรวดีกับแม่น้ำสะโตงในภาคกลางของพม่า แนวทิวเขาลากยาวจากเขาโปะป้าทางตอนเหนือ สู่เนินเขาสิงคุตตระ (เชียงกุตระ) ทางตอนใต้ ทั้งแม่น้ำพะโคและแม่น้ำสะโตง ล้วนมีต้นกำเนิดจากทิวเขาพะโค
ยอดเขาที่สูงสุดคือเขาโปะป้า สูง 1,518 เมตร (4,980 ฟุต) เป็นภูเขาไฟทรงกรวยสลับชั้น[3] และยอดเขาเด่นอื่นๆ เช่น บินโฮนตอง (Binhontaung) สูง 2,003 ฟุต (611 เมตร)[4] โกดิตอง (Kodittaung) สูง 1,885 ฟุต (575 เมตร)[4] โพอูตอง (Phoe-Oo Taung)[3] และเนินเขาสิงคุตตระ (เชียงกุตระ)[3]
ทิวเขาพะโคเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีในยุคพาลีโอจีน ทำให้มีชั้นตะกอนทะเลลึก (pelagic sediment) ประสมกับหินและเถ้าจากภูเขาไฟ ที่เกิดขึ้นในภายหลัง
เจดีย์ชเวดากอง ถูกสร้างขึ้นกว่าพันปีก่อนบริเวณเนินเขาสิงคุตตระ (เชียงกุตระ)
ทิวเขาพะโค เมื่อปี ค.ศ. 1930-1931 เป็นสถานที่เดิมของซะยาซาน ในการต่อต้านการปกครองของอังกฤษ ซะยาซานยกธงประกาศความเป็นอิสระบริเวณเนินเขาอลันตองใกล้เมืองสารวดี[5]
ต่อมาในช่วงหลังทิวเขาพะโคกลายเป็นศูนย์กลางของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า[6]
ทางตอนเหนือสุดของทิวเขาพะโคเป็นเขตแห้งแล้งของพม่า ขณะที่ทางใต้มีฝนตกได้มากกว่า 80 นิ้วต่อปี[7] เนินเขาในทิวเขาพะโคเดิมทีเป็นป่าทึบมีไม้สักและไม้เนื้อแข็งที่เป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์[1][7] ทางตอนใต้คือป่าไม้เนื้อแข็ง ขณะที่ตอนกลางและตอนเหนือเป็นป่าที่มีไม้สัก[8] การตัดไม้ทำลายป่าอย่างแพร่หลายทำให้ปัจจุบันพื้นที่ป่ามีขนาดลดลง