ที่ (พม่า: ထီး; เอ็มแอลซีทีเอส: hti:, ออกเสียง: [tʰí]; มอญ: ဍိုၚ်, ออกเสียง: [daŋ]; ไทใหญ่: ထီး, ออกเสียง: [tʰi˦]) ในภาษาพม่าหมายถึงฉัตรหรือร่ม เป็นชื่อเครื่องประดับยอดบนสุดของเจดีย์พม่า[1] อันเป็นสัญลักษณ์มงคลในศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู
ในพม่าก่อนช่วงอาณานิคม ที่ เป็นตัวบ่งชี้สถานะทางสังคมและใช้โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตอย่างชัดเจนเท่านั้น ฉัตรขาว (ที่พยูดอ, ထီးဖြူတော်) เป็นหนึ่งในห้าเครื่องราชกกุธภัณฑ์พิธีราชาภิเษก (มี่น-มเยาะดะซา, မင်းမြောက်တန်ဆာ)[2]
การใช้และครอบครองฉัตรขาวนั้นจำกัดไว้เฉพาะกษัตริย์และพระอัครมเหสีเท่านั้น ในขณะที่ข้าราชการระดับสูง (วูน, ဝန်) และเจ้าชาย (รวมทั้งมกุฎราชกุมารหรือพระมหาอุปราช) ครอบครองฉัตรสีทอง และเจ้าหน้าที่ระดับล่างครอบครองฉัตรสีแดงถ้ามี[3][4][5]
ฉัตรขาวเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจอธิปไตย[5] การใช้ฉัตรขาวโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กษัตริย์และพระอัครมเหสีถือเป็นการประกาศกบฏ โดยมีโทษประหารชีวิตทันที[6] เมื่อกษัตริย์สวรรคตจะมีการหักฉัตรขาวที่ทรงครอบครอง[5] ฉัตรขาวยังได้รับอนุญาตให้ใช้ในทางศาสนาด้วย[3] เช่น เดิมพระมหามัยมุนีมีฉัตรขาวบังไว้[7]
ฉัตรประดับทั้งด้านในและด้านนอกด้วยรูปเหล่าชาวสรรค์จากทอง แผ่นทองคำบาง ๆ ที่คล้ายใบโพประดับไว้ด้านบน และด้ามจับทองคำประดับด้วยไข่มุก เพชร ทับทิม มรกต ปะการัง และเครื่องประดับแวววาว[8] ฉัตรที่กษัตริย์ใช้ทรงช้างหรือทรงรถม้าเรียกว่า ยีนที่[8]
จำนวนฉัตรที่ครอบครองยังเป็นเครื่องบ่งชี้สถานะทางสังคม เนื่องจากฉัตรเหล่านี้ถูกแสดงในระหว่างขบวนแห่ในที่สาธารณะ และนำไปประดับไว้ในสถานที่สำคัญ ๆ ในพระราชวัง กษัตริย์มีฉัตรขาวเก้าองค์ มกุฎราชกุมารมีฉัตรทองแปดคัน รัฐบุรุษผู้มีชื่อเสียงและแม่ทัพมีฉัตรทองหลายคัน ตามที่พระราชทานจากจำนวนความสำเร็จหรือเป็นที่นับถือของกษัตริย์ ช้างเผือกหลวง (ซีน-พยูดอ, ဆင်ဖြူတော်) ได้รับฉัตรหกคัน คือฉัตรขาวสองคันและฉัตรทองสี่คัน[6]
ชเวโบนนิด้าน เป็นบทความเรื่องของพระราชวัง อธิบายฉัตรของราชวงศ์ 11 ประเภทและเทพารักษ์หญิงที่เกี่ยวข้อง (นะตะมี่, နတ်သ္မီး) ซึ่งคอยพิทักษ์ฉัตรเหล่านี้[8]
อาจกล่าวได้ว่า ที่ เป็นลักษณะเด่นหลักของเจดีย์พม่า เนื่องจากมีความโดดเด่นมากกว่าเจดีย์ในศรีลังกา ลาว และไทย ที่มักไม่มีการประดับฉัตรบนยอดเจดีย์ ส่วนปลายของ ที่ ซึ่งประดับด้วยอัญมณีมีค่า เรียกว่า เซนพู่ดอ (စိန်ဖူးတော်) ที่ มักพบบนเจดีย์ที่สร้างโดยกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งสี่กลุ่มของประเทศพม่า ได้แก่ มอญ พม่า ยะไข่ และไทใหญ่
ที่ ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเจดีย์ จึงมีพิธีพิเศษเมื่อมีการประดับ เรียกว่า ที่ทิน-ปแว (ထီးတင်ပွဲ)
ที่ มักประดับบนยอดเจดีย์และแขวนพร้อมระฆังจำนวนมาก[9] ที่ บนเจดีย์สำคัญมักทำด้วยทองหรือเงินทั้งหมด[9] ระฆังใช้เพื่อดึงดูดเหล่าเทวดา ที่สถิตบนเขาพระสุเมรุและในดาวดึงส์[9]
ที่ บนวิหารในพุกามและมเยาะอู้ ซึ่งเป็นขุมทรัพย์ทางโบราณคดีสองแห่งของประเทศพม่าล้วนทำด้วยหิน ในขณะที่เจดีย์ที่นั่นและที่อื่น ๆ ทั่วพม่าทำด้วยโลหะ มักใช้เป็นเหล็กหรือเหล็กกล้าชุบทอง จากนั้นตกแต่งด้วยทอง ทองชุบและระฆังสัมฤทธิ์ (ခေါင်းလောင်း) ตามด้วยเครื่องประดับที่ได้รับบริจาคจากผู้ศรัทธา
ที่ บนยอดเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้งสูงประมาณหนึ่งชั้นครึ่งและมีทองคำประมาณครึ่งตัน[10][11] และประดับด้วยเพชรมากกว่า 5,500 เม็ด ทับทิม 2,300 เม็ด ไพลินและอัญมณีอื่น ๆ และระฆังทอง 4,000 ใบ[10] ที่ คันเก่าซึ่งได้รับการถวายโดยพระเจ้ามินดงสามารถพบได้ที่บริเวณเจดีย์ เป็นงานเหล็กเคลือบทอง โดยแต่ละห่วงแขวนระฆังทองและเงินประดับอัญมณีมากมาย[12] และมีราคาไม่ต่ำกว่า 50,000 ปอนด์อังกฤษ[12] ถูกสร้างขึ้นโดยแรงงานที่สมัครใจ โดยใช้เงินและอัญมณีที่ได้รับบริจาค[12] ใบพัดและแถบบนสุดประดับอย่างวิจิตรด้วยอัญมณีที่มาจากทุกภาคส่วนของพม่า[12]
เมืองพะสิม เขตปากแม่น้ำอิรวดี ในพม่าตอนล่าง มีชื่อเสียงในเรื่องร่มผ้าฝ้ายสีสันสดใส ซึ่งเรียกว่า "ร่มพะสิม" (ပုသိမ်ထီး) เป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้าน[13]