นักรบมิติอวกาศสปิลบัน

นักรบมิติอวกาศสปิลบัน
ประเภทTokusatsu
Superhero fiction
Science fiction
สร้างโดยToei
พัฒนาโดยShozo Uehara
กำกับโดยMakoto Tsuji
แสดงนำHiroshi Watari
Makoto Sumikawa
Naomi Morinaga
Shōzō Iizuka
บรรยายโดยTōru Ōhira
ผู้ประพันธ์เพลงMichiaki Watanabe
ประเทศแหล่งกำเนิดญี่ปุ่น
จำนวนตอน44
การผลิต
ความยาวตอน30 นาที
ออกอากาศ
เครือข่ายทีวีอาซาฮิคอร์เปอร์เรชัน
ออกอากาศ7 เมษายน ค.ศ. 1986 (1986-04-07) –
9 มีนาคม ค.ศ. 1987 (1987-03-09)
การแสดงที่เกี่ยวข้อง

นักรบมิติอวกาศสปิลบัน (ญี่ปุ่น: 時空戦士スピルバンโรมาจิJikū Senshi Supiruban - ทัพศัพท์จากคำว่า Spielban) เป็นภาพยนตร์โทคุซัทสึแนวเมทัลฮีโร่ลำดับที่ 5 ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1986 ถึงวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1987 โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮี รวมทั้งสิ้น 44 ตอน

ในประเทศไทย ได้เคยออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 มาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2531 ทุกวันเสาร์ เวลา 09:33-10:00 น.[1] และครั้งที่ 2 ในปี 2534-2535 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 08:30-09:00 น.[2][3] และ ลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายรูปแบบวิดีโอ(ในครั้งนั้น) คือ บริษัท วิดีโอสแควร์

เนื้อเรื่อง

[แก้]

ตัวละคร

[แก้]

ชาวดาวคลิน

[แก้]
  • สปิลบัน / โจ ยูสุเกะ (城洋介) แสดงโดย วาตาริ ฮิโรชิ (渡 洋史)
มนุษย์ดาวชาวคลินอายุ 20 ปี เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกให้ไปกับยานแกรนนาสก้าและมุ่งหน้าไปยังโลกมนุษย์ เมื่อมายังโลกมนุษย์จะใช้ชื่อว่า โจ ยูสุเกะ เมื่อจะแปลงร่างจะตะโกนว่า "Kesshou" (結晶) จากนั้นยานแกรนนาสก้าก็จะทำการส่งชุดเกราะ "ไฮเทค คริสตัลสูท" ในรูปของอนุภาคโลหะ "คลินเมทัล" มาสวมเข้ากับร่างของสปิลบันในเวลาเพียง 10 ไมโครวินาที นอกจากอาวุธหลักคือ "ทวินเบลด" กับ "เลเซอร์สไนเปอร์" แล้วชุดไฮเทคของสปิลบันยังมีความสามารถเคลื่อนย้ายมวลสารข้ามมิติที่เรียกว่า "สปิลบันบายพาส สลิป" (スピルバン・バイパススリップ) โดยสามารถเคลื่อนย้ายทั้งคนและสิ่งของที่ต้องการไปที่ไหนก็ได้ในพริบตา จุดประสงค์คือย้ายทั้งตนเองพร้อมกับพวกวาร่าไปสู้กันที่ห่างไกลผู้คนและบ้านเรือนเพื่อป้องกันความเสียหายนั่นเอง สปิลบันนั้นเป็นลูกคนชายเล็กของนักวิทยาศาสตร์ ดอกเตอร์เบน ซึ่งถูกวาร่าลักพาตัวไปพร้อมกับลูกสาวคนโตก่อนที่จะบุกโจมตี หลังจากนั้นวาร่าก็บุกโจมตีดาวคลินจนพินาศผู้เหลือรอดบางส่วนหลบหนีขึ้นยานอพยพออกจากดวงดาวแต่เนื่องจากยานเสียหายจากการโจมตีจึงต้องมีการเลือกตัวแทนให้ไปกับยานแกรนนาสก้าซึ่งสามารถไปได้แค่สองคน สปิลบันกับไดอาน่าได้รับเลือกและออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังโลกและต้องเห็นยานอพยพระเบิดไปพร้อมกับแม่และเพื่อนพ้องร่วมเผ่าพันธุ์ เขากับไดอาน่าจึงเก็บความแค้นต่อวาร่านี้ไว้และเดินทางมายังโลกโดยจำศีลในแคปซูลและเติบโตอยู่ในนั้นจนอายุได้ 20 ปี วาร่าที่เดินทางไล่หลังมายังโลกจึงต้องเจอกับการต่อสู้เพื่อปกป้องดาวบ้านเกิดแห่งที่สองของสปิลบันและไดอาน่า นอกจากนั้นสปิลบันยังมีเป้าหมายที่จะตามหาและช่วยเหลือพ่อกับพี่สาวที่ถูกวาร่าลักพาตัวไปออกมาให้ได้อีกด้วย
  • ไดอาน่าเลดี้ / ไดอาน่า (ダイアナ) แสดงโดย ซึมิคาวะ มาโคโตะ (澄川 真琴)
เพื่อนสนิทของสปิลบัน และลูกสาวคนเดียวของมารีน อายุ 18 ปี เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกให้ไปกับยานแกรนนาสก้าจากชาวดาวคลินที่อพยพการโจมตีของวาร่าเช่นเดียวกันกับสปิลบัน โดยเธอสามารถแปลงร่างได้ด้วยวิธีเดียวกันกับสปิลบันเพื่อสวมไฮเทค คริสตัลสูทเข้าต่อสู้กับวาร่าด้วยปืนเลเชอร์ "เลดี้ สไนเปอร์" แม้จะมีพลังในการต่อสู้น้อยกว่าแต่ชุดของไดอาน่ายังมีความสามารถที่จะถ่ายโอนพลังในยามฉุกเฉินให้แก่สปิลบันในภาคสนามได้ ในยามปกตินั้นไดอาน่าทำหน้าที่ทั้งประสานงานอยู่บนแกรนนาสก้าและออกลาดตระเวณคู่กับสปิลบันแต่ก็ร่วมต่อสู้กับวาร่าอย่างห้าวหาญอีกทั้งยังมีเทคนิคการต่อสู้ที่ใช่สเน่ห์ยั่วยวนและโจมตีด้วย "ไดอาน่า ฮิปเพรส" (ダイアナヒッププレス) คือใช้สะโพกกระแทกนั่นเอง
  • เฮเลนเลดี้ / เฮเลน (ヘレン) แสดงโดย โมรินางะ นาโอมิ (森永 奈緒美)
พี่สาวของสปิลบัน ได้ถูกวาร่าจับตัวไปพร้อมกับพ่อ และเคยหลบหนีมายังโลกแต่ไม่สำเร็จทำให้ถูกดร.ไบโอล้างสมองและดัดแปลงเป็นเฮลไบร่า (ヘルバイラ) โดยเป็นลักษณะของบุคลิคซ่อนเร้นมากกว่าเพราะเฮเลนไม่สามารถเลือกจะแปลงร่างเป็นเฮลไบร่าเองได้โดยเธอจะถูกสั่งการผ่านรีโมทคอนโทรลของดอกเตอร์ไบโออีกทั้งเมื่อแปลงร่างแล้วสติของเฮเลนจะหายไปและทำตามคำสั่งของวาร่าเท่านั้นทำให้แม้เฮเลนจะไม่ได้อยู่ในยานกาเมเดสแล้วแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะไปหาสปิลบันเพราะเกรงว่าจะเปลี่ยนร่างและถูกบังคับให้สู้กับน้องชายเธอจึงพยายามหลบซ่อนและคอยช่วยสปิลบันอยู่ห่างๆแทน ในตอนที่ 21 ราชินีแพนโดร่าวางแผนฆ่าพวกสปลิบันให้ตายไปพร้อมกับดอกเตอร์ไบโอและเฮเลนจึงจัดฉากให้ทั้งหมดมาเจอกันและรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงเพื่อทรมานสปิลบันจากนั้นก็จุดระเบิดหวังฆ่าให้ตายทั้งหมดแต่ดอกเตอร์ไบโอรอดไปได้โดยพาเฮเลนไปรักษาตัวอยู่ในห้องแลปบนยานกาเมเดส ในตอนที่ 29 จักรพรรดิ์กิโยตินก็วางแผนจัดฉากให้เฮเลนไปพบกับไดอาน่าและแปลงร่างเป็นเฮลไบร่าอย่างทันทีเพื่อจะกำจัดไดอาน่าแม้จะไม่สำเร็จแต่ก็ทำให้เฮเลนเสียใจมาก ดอกเตอร์ไบโอเองก็ไม่พอใจที่กิโยตินใช้เฮเลนเป็นเครื่องมือ ในตอนที่ 30 ดอกเตอร์ไบโอจึงซ้อนแผนปล่อยเฮเลนเป็นอิสระเพื่อให้หนีไปพบกับสปิลบัน เฮเลนที่กลับมาอยู่กับสปลิบันบนยานแกรสนาสก้าก็ร่วมต่อสู้กับวาร่าและแปลงร่างโดยใช้คริสตัลสูทแบบเดียวกับที่ไดอาน่าใช้ในฐานะของ "เฮเลนเลดี้" โดยต่อสู้ด้วยเฮเลน คัดเตอร์ ซึ่งเป็นอาวุธรูปแบบเคียวสั้น
  • ดร.เบน (ベン博士) แสดงโดย มิซึกิ อิจิโร่ (水木 一郎)
นักวิทยาศาสตร์จากดาวคลิน เป็นพ่อของสปิลบันและเฮเลน ถูกกองทัพของวาร่าจับตัวไปพร้อมกับเฮเลนและถูกดัดแปลงเป็นดอกเตอร์ไบโอ ในตอนที่ 44 ดอกเตอร์เบนที่คืนร่างจากแรงช็อคเข้าต่อสู้กับแพนโดร่าด้วยเชื้อไวรัสดัดแปลงเพื่อทำให้แพนโดร่าอ่อนกำลังลงแต่เขาก็ถูกเล่นงานจนร่างสลายไป ดอกเตอร์เบนคืนชีพจากผลของการเปลี่ยงแปลงไทม์ไลน์จากการพินาศของวาร่าและได้พบกับสปิลบันและเฮเลนในอนาคตอีกแบบที่วาร่าไม่เคยมีตัวตน
  • แอนนา (アンナ)
ภรรยาของดอกเตอร์เบนและเป็นแม่ของสปิลบันกับเฮเลน หลบหนีออกจากดาวคลินไปพร้อมกับยานอพยพและได้เสนอตัวให้สปิลบันเป็นตัวแทนในการรักษาเผ่าพันธุ์โดยให้ไปกับยานแกรนนาสก้าพร้อมกับไดอาน่า เธอเสียชีวิตไปพร้อมการยานอพยพที่ระเบิดแต่คืนชีพกลับมาจากผลของการเปลี่ยนแปลงไทม์ไลน์จนได้พบกับสปิลบันและเฮเลนในอนาคตที่เปลี่ยนไป
  • มารีน (マリン)
แม่ของไดอาน่าเสียชีวิตไปพร้อมกับการระเบิดของยานอพยพ คืนชีพมาพร้อมกับดอกเตอร์เบนและแอนนาจากการเปลี่ยนแปลงไทม์ไลน์จนได้พบกับไดอาน่าอีกครั้ง

ตัวละครอื่นๆ

[แก้]
  • โคยามะ ไดโกโร่ (小山大五郎)
เจ้าของร้านประดิษฐ์สิ่งของเอดิสัน ชื่นชอบการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ
  • โคยามะ มิวะ (小山美和)
น้องสาวของไดโกโร่

อาวุธอุปกรณ์และพลังต่างๆของสปิลบัน

[แก้]

ไฮเทคคริสตัลสูท

[แก้]

ชุดเกราะของสปิลบัน, ไดอาน่า และเฮเลน โดยปกติถูกเก็บในยานแม่แกรนนาสก้า เมื่อใช้งานจะใช้คำว่า Kesshou ในการสวมเกราะโดยการสวมเกราะจะใช้เวลาในการสวมเกราะ 10 ไมโครวินาที (10/1 ล้านวินาที) โดยจะส่งในระบบของยาน

ข้อมูลชุดเกราะของสปิลบัน
พลังกระโดด - 200 เมตร
พลังหมัด - 1.4 ตัน สามารถทำลายหินขนาดยักษ์ได้
พลังเตะ - 3.4 ตัน สามารถเตะแผ่นเหล็กความหนาถึง 350 มิลลิเมตร ได้
ความเร็ว - 100 เมตร / 2.5 วินาที
ข้อมูลชุดเกราะของไดอาน่าเลดี้
พลังกระโดด - 100 เมตร
พลังหมัด - ชกแผ่นเหล็กที่มีความหนาถึง 90 มิลลิเมตร
พลังเตะ - เตะแท่งเหล็กเป็นเส้นขนาดผ่าศูนย์กลางถึง 100 มิลลิเมตร

ทั้งนี้ชุดเกราะไดอาน่าและเฮเลนมีรูปแบบเดียวกัน แต่แตกต่างตรงที่อาวุธที่ใช้โดยไดอาน่าเลดี้ใช้อาวุธ เลดี้สไนเปอร์ ส่วนเฮเลนเลดี้จะใช้เลดี้คัตเตอร์

อาวุธ

[แก้]
ทวินเบลด
เลดี้สไนเปอร์
เสิร์ชอนาไลเซอร์
เลดี้คัตเตอร์
คริสตัลนอยส์

ท่าไม้ตาย

[แก้]
อาร์คอิมพัลส์
สปิลบันพาวเวอร์พันช์
ดับเบิลสไนเปอร์
ทริปเปิ้ลบอมเบอร์

ยานพาหนะ

[แก้]
แกรนนาซคา (超時空戦闘母艦グランナスカ)
ยานแม่ของสปิลบันทำหน้าที่ส่งชุดคริสตัลสูทให้กับชาวคลินทั้ง 3 ติดตั้งจรวดมิซไซส์เป็นอาวุธและเป็นยานรบที่มีความสามารถเปลี่ยนรูปแบบยานได้ 2 รูปแบบด้วยกัน
  • คอมแบทฟอร์เมชัน (コンバットフォーメーション)
แกรนนาซคา รูปแบบหุ่นยนต์ ควบคุมด้วยจิตอันเกรี้ยวกราดของสปิลบัน มีอาวุธได้แก่ "อาร์มเลเซอร์" (アームレーザー) จากแขนทั้งสองข้าง, "เอคเซลบีม" (エクセルビーム) แสงทำลายจากดวงตาและสามารถยิงสารดับเพลิงหรือสารเคมีอื่นๆได้ตามสถานการณ์ , "นัคเคิลบอมเบอร์" (ナックルボンバー) หมัดเหล็กขนาดใหญ่ที่สามารถทุบยานรบของวาร่าให้แหลกในครั้งเดียว และ "นาสก้าไฮเปอร์ครัช" (ナスカハイパークラッシュ) ทำลายยานของวาร่าด้วยการกระทืบให้แหลกคาที่
  • แคนน่อนฟอร์เมชั่น (カノンフォーメーション)
แกรนนาซคา รูปแบบปีนใหญ่ยักษ์สองลำกล้อง สามารถยิงลำแสงทำลายออกมาได้ด้วยการสั่งการของสปิลบัน เรียกว่า "บิ๊กแบงแคนน่อน" (ビッグバン・カノン)
ไกออส (超時空大戦車ガイオス)
รถถังอวกาศที่ส่งมาจากยานแกรนนาสก้า มีความแข็งแกร่งทนทานติดตั้งจรวด "ไกออสร๊อกเก็ตเตอร์" (ガイオスロケッター) สามารถใช้งานได้อีกสองรูปแบบ
  • เจ็ทไกออส (ジェットガイオス) ยานรบของสปิลบัน เมื่อกางปีกทั้ง 4 จะมีลักษณะคล้ายกับตัวอักษร X
  • ดริลไกออส (ドリルガイオス) รถถังสว่านใช้บุกเข้าทำลายฐานของวาร่า
โฮเวอร์เลียน (超時空マシン・ホバリアン) มอเตอร์ไซด์ที่สามารถบินบนฟ้าได้ด้วยการกางปีกใบพัดสองข้าง สามารถพุ่งเข้าชนได้ด้วยความเร็วแสง

จักรวรรดิ์วาร่า (ワーラー帝国)

[แก้]
จักรวรรดิ์ผู้รุกรานจากอวกาศ เดินทางแสวงหาและยึดครองดวงดาวที่มีอุดมด้วยน้ำเพื่อยืดชีวิตแก่เทพเจ้าวาร่า (ワーラー帝国の支配者ワーラー) ซึ่งมีฐานะเป็นเทพพิทักษ์ของจักรวรรดิ์ มียานอวกาศชนาดยักษ์กาเมเดส (ガメデス) เป็นฐานที่มั่น
  • ราชินีแพนโดร่า (パンドラ女王)
ราชินีแห่งจักรวรรดิ์วาร่าทำหน้าที่ปกครองและบัญชาการกองกำลังทั้งสามของจักรวรรดิ์เสมือนร่างทรงตัวแทนของเทพวาร่ามีคฑาด้ามยาวที่ปล่อยแสงได้เป็นอาวุธ แต่จริงๆแล้วแพนโดร่ากับวาร่าก็คือตัวตนเดียวกัน แม้ปกติจะยิ้มและหัวเราะอย่างร่าเริงแต่แพนโดร่านั้นเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ เห็นได้จากการวางแผนการที่จะกำจัดสปิลบันไปพร้อมกับดอกเตอร์ไบโอและเฮเลนอย่างเลือดเย็นในตอนที่ 21 และการลงโทษดอกเตอร์ไบโอในตอนที่ 30 โดยจับขังในหลอดแก้วไม่ให้ไปไหนมาไหนอย่างอิสระ การสาปริกกี้ให้กลายเป็นเก้าอี้ให้โยคินั่งในตอนที่ 36 และเป็นผู้กำจัดโยคิด้วยมือตัวเองในตอนที่ 39 เป็นต้น ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับสปิลบันในตอนที่ 43 แพนโดร่าเผยร่างต่อสู้ออกมา 2 ร่างได้แก่ "แพนโดร่าร่างมนุษย์จักรกลต่อสู้" (パンドラ戦闘機械人) ร่างนี้มีส่วนหัวเป็นมนุษย์แต่ร่างกายเป็นจักรกลและยังใช้คฑาด้ามยาวประจำตัวเป็นอาวุธ อีกร่างคือ "แพนโดร่าร่างสิ่งมีชีวิต" (パンドラ生命体) โดยร่างนี้มีลักษณะคล้ายดอกไม้ขนาดใหญ่ผสมดาวทะเลมีรยางค์จำนวนมากเป็นอาวุธ โดยแพนโดร่าสามารถเปลี่ยนร่างสลับไปมาได้ทั้งสองร่างหรือจะแยกร่างทั้งสองออกมาเป็นสองร่างต่อสู้พร้อมกันก็ได้อีกทั้งยังรวมกลับมาเป็นร่างเดียวกันได้อย่างอิสระ แม้จะถูกสปิลบันจัดการด้วยอาร์ค อิมพัลส์ไปครั้งนึงแต่แพนโดร่าก็ยังไม่ตายและหนีกลับเข้าไปยังกาเมเดสด้วยความช่วยเหลือของดอกเตอร์ไบโอ แต่เมื่อพวกสปิลบันตามเข้าไปก็พบกับแพนโดร่าที่คืนสภาพดังเดิมและเปิดเผยฐานะว่าตนก็คือเทพวาร่า ในตอนที่ 44 การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจึงเริ่มขึ้นเมื่อแพนโดร่าที่แยกร่างออกเป็นร่างต่อสู้สองร่างแสดงร่างสุดยอดด้วยการรวมตัวเป็นสุดยอดสัตว์ประหลาดจักรกลที่เรียกว่า "แพนโดร่าร่างจักรกลมีชีวิต" (パンドラ生命機械人) โดยมีส่วนผสมของเครื่องจักรและสิ่งมีชีวิตในร่างเดียวอีกทั้งยังมีพลังมหาศาลเล่นงานพวกสปิลบันอย่างหนักหน่วงแต่ก็ถูกดอกเตอร์เบนที่คืนร่างและได้สติกลับมาเสี่ยงชีวิตฉีดเชื้อไวรัสดัดแปลงเข้าสู่ร่างของแพนโดร่าเพื่อทำลายนางจากภายในเปิดโอกาสให้สปิลบันใช้อาร์ค อิมพัลส์จัดการแพนโดร่าได้อย่างเด็ดขาดซึ่งต้องแลกมาด้วยการสละชีวิตของดอกเตอร์เบน แต่ผลจากแรงระเบิดอันรุนแรงของยานกาเมเดสทำให้พวกสปิลบันกระเด็นข้ามมิติไปยังไทม์ไลน์หรืออนาคตอีกแบบซึ่งก็คือดาวคลินหรือดาวโลกในอีก 10,000 ปีข้างหน้าเพียงแต่ว่าที่นั่นวาร่าไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ดาวคลินจึงยังคงอยู่และยังได้พบกับดอกเตอร์เบน แอนนาและมารีนที่คืนชีพมาจากการเปลี่ยนไทม์ไลน์ ทั้งหมดจึงได้พบกันในอนาคตที่สงบและสดใส
  • แม่ทัพเดธซีโร่ (デスゼロウ将軍)
ขุนพลของวาร่าบัญชาการกองกำลังจักรกลซึ่งเป็นกองกำลังหลักของจักรวรรดิ์วาร่ารับใช้แพนโดร่ามาอย่างยาวนาน เป็นมนุษย์จักรกลรุ่นแรกสุดของวาร่าที่โปรแกรมความรู้ด้านยุทธวิธีต่างๆอย่างครบถ้วนแต่ก็ดูไม่ฉลาดเท่าที่ควร มีความสามารถแปลงร่างเป็นจรวดมิซไซล์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "เดธซีโร่ตอร์ปิโด" (デスゼロウ魚雷) โดยยิงออกมาจากฐานยิงและพุ่งเข้าชนด้วยใบมีดที่กางออกมาโดยใช้ร่างนี้ 2 ครั้งได้แก่ในตอนที่ 24 แต่ถูกสปิลบันยิงสวนด้วยบิ๊กแบงแคนน่อนจนยับเยินและในศึกตัดสินตอนที่ 42 หวังระเบิดพลีชีพกับสปิลบันแต่ก็ยังไม่สำเร็จ เดธซีโร่นั้นมียานรบประจำตัวในรูปแบบรถถังที่เรียกว่า "สกัลด้อน" (スカルドン) ติดตั้งปืนใหญ่เป็นอาวุธ มักปรากฏตัวพร้อมกับหน่วยรถถังและยานรบของวาร่าและปะทะกับไกออสของสปิลบันหลายครั้งโดยสามารถแยกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ "สกัลด้อนเจ็ต" (スカルドンジェット) เป็นส่วนคอกพิตที่แยกตัวออกมาและกางปีกบินไปบนฟ้าเสมือนยานบินขับไล่และส่วนที่สองคือ "สกัลด้อนคัตเตอร์" (スカルドンカッター) ส่วนล่างของสกัลด้อนที่จะมีกงจักรกางออกมาแต่ใช้เพียงครั้งเดียวในตอนที่ 1 เท่านั้น ในตอนที่ 41 เดธซีโร่เกิดเพี้ยนไล่จีบไดอาน่าจนถูกเล่นงานยับเยินแถมถูกแพนโดร่าวีนซ้ำทำให้ในตอนที่ 42 เดธซีโร่จึงวางแผนเล่นงานสปิลบันอย่างจริงจังร่วมกับนิวมนุษย์จักรกลตัวสุดท้าย "บรีซเซอร์" เพื่อแช่แข็งกรุงโตเกียว แพนโดร่าจึงสนับสนุนโดยการใส่ "แกนพลังงาน 10,000 โวลต์" เพื่อเพิ่มพลังให้แก่เดธซีโร่และแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่เดธซีโร่ (デスゼロウ大将軍) ทว่าในแกนพลังงาน 10,000 โวลต์นั้นมีอุปกรณ์ควบคุมอยู่ด้วยเมื่อแพนโดร่าสับสวิตช์เพื่อเพิ่มพลังเดธซีโร่ก็เริ่มคลั่งดวลรถถังและยานบินกับสปิลบันในยกแรกแต่ถูกยิงร่วง แพนโดร่าจึงสับสวิตช์ที่ 2 ให้เดธซีโร่ใช้โหมดตอร์ปิโดเพื่อระเบิดพลีชีพแต่ก็ยังไม่สำเร็จ แพนโดร่าจึงสับสวิตช์สุดท้ายเพิ่มพลังให้กับเดธซีโร่ถึง 150% เดธซีโร่จึงคุ้มคลั่งหนักดวลดาบกับสปิลบันอย่างดุเดือดแต่ก็พลาดท่าถูกอาร์ค อิมพัลส์ของสปิลบันจัดการและถูกทำลายไปในตอนนี้เอง และมีการทำความเคารพให้แก่เดธซีโร่ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของวาร่าในวาระสุดท้ายนี้ด้วย
  • ดร. ไบโอ (ドクターバイオ) / ไบโอรอยด์ ไบโอ (バイオロイド バイオ)
นักวิทยาศาสตร์และผู้นำของกองกำลังชีวะของจักรวรรดิวาร่าทำหน้าที่สร้างสัตว์ประหลาดโดยการดัดแปลงเหล่ามนุษย์ต่างดาวที่ตกเป็นทาส และเป็นร่างที่ถูกดัดแปลงของดอกเตอร์เบนเพราะดอกเตอร์เบนไม่ยอมจำนนรับใช้วาร่าแม้จะถูกลักพาตัวมาหลายปีและถูกทรมานอย่างหนัก วาร่าจึงใช้วิธีดัดแปลงร่างกายไปพร้อมกับการล้างสมอง แม้จะอยู่ในร่างของดอกเตอร์ไบโอแต่เขาก็ยังรักและเอ็นดูเฮเลนลูกสาวที่ถูกลักพาตัวมาพร้อมกันแม้จะคุมขังเฮเลนเอาไว้ก็ตาม เมื่อเฮเลนรู้ว่าสปิลบันกับไดอาน่ายังมีชีวิตอยู่ก็พยายามจะเกลี้ยกล่อมให้ดอกเตอร์ไบโออย่ารับใช้วาร่าต่อไปและหนีไปหาสปิลบันพร้อมกันแต่เพราะดอกเตอร์ไบโอถูกล้างสมองแล้วจึงต้องเชื่อฟังวาร่าแต่กระนั้นเขาก็แอบปล่อยเฮเลนให้หนีไปแต่ก็ถูกจับตัวกลับมา แพนโดร่าจึงบีบให้ดอกเตอร์ไบโอดัดแปลงเฮเลนเป็นเฮลไบร่าไว้ใช้งาน ในตอนที่ 13 ดอกเตอร์ไบโอสร้าง "วาตะจา" และแสดงผลงานได้น่าประทับใจเขาจึงขอให้แพนโดร่าปล่อยเฮเลนเป็นอิสระซักระยะนึง แพนโดร่าตอบตกลงเขาจึงทำลายรีโมทควบคุมเพื่อให้เฮเลนเป็นอิสระจากการควบคุมระยะนึงแต่ก็ถูกบีบให้กลับมาใช้อีกในตอนที่ 18 เพื่อตามจับมนุษย์ดาวแพลนท์ แม้ดอกเตอร์ไบโอจะมีตำแหน่งเป็นผู้นำของกองกำลังชีวะแต่ก็มีโอกาสออกโรงและสร้างสิ่งมีชีวิตต่อสู้ออกมาเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ในตอนที่ 21 แพนโดร่าจับได้ว่าดอกเตอร์ไบโอแอบติดตามดูพฤติกรรมที่เฮเลนแอบช่วยสปิลบันระหว่างที่ให้มีอิสระแต่ดอกเตอร์ไบโอไม่ยอมรายงาน แพนโดร่าจึงขู่จะลงโทษเฮเลนในฐานะคนทรยศและบีบให้ดอกเตอร์ไบโอออกไปสู้กับสปิลบัน ดอกเตอร์ไบโอจึงต้องออกไปสู้กับสปิลบันด้วยร่างต่อสู้ที่เรียกว่า "ไบโอรอยด์" ซึ่งมีความสามารถที่หลากหลาย แต่ทั้งหมดเป็นแผนโหดของแพนโดร่าที่กะจะล้างโคตรให้ระเบิดตายไปพร้อมกันแต่เคราะห์ดีดอกเตอร์ไบโอรอดไปได้พร้อมกับเฮเลนและเก็บตัวอยู่ในห้องแลปบนยานกาเมเดสในสภาพที่มีแต่สมอง, ดวงตาและกระดูกสันหลังเท่านั้นแต่ดอกเตอร์ไบโอก็ยังลอยไปมาได้อย่างอิสระและมีฤทธิ์เดชเช่นเดิม ในตอนที่ 30 ดอกเตอร์ไบโอไม่พอใจที่จักรพรรดิ์กิโยตินใช้เฮเลนเป็นเครื่องมือในการกำจัดไดอาน่า เมื่อถูกขอให้ล้างสมองเฮเลนเพื่อไปสังหารสปิลบันอีกครั้ง ดอกเตอร์ไบโอจึงแสร้งตกปากรับคำโดยล้างสมองให้เฮเลนไปลอบสังหารสปิลบันพร้อมกับให้แพนโดร่าเตรียมเปลี่ยนร่างเป็นเฮลไบร่าเผื่อล้มเหลวแต่เมื่อถึงเวลาที่เฮเลนไปเผชิญหน้ากับสปิลบัน ดอกเตอร์ไบโอกลับเรียกสติเฮเลนคืนมาอีกทั้งทำลายตัวรับคลื่นคำสั่งในสมองของเฮเลนไปด้วย เฮเลนจึงหนีไปอยู่กับสปิลบันได้ในที่สุดส่วนดอกเตอร์ไบโอแม้จะถูกลงโทษจับขังในโหลแก้วแต่ก็ยังสื่อสารกับเฮเลนผ่านอุปกรณ์ติดต่อในล็อกเกตของเฮเลนได้ตลอดเวลา ในตอนที่ 43 แพนโดร่ามาคืนร่างให้กับดอกเตอร์ไบโอด้วยการ์ดข้อมูลของดอกเตอร์ไบโอเพื่อเตรียมฉลองล่วงหน้าที่จักรพรรดิ์กิโยตินจะปราบสปิลบันลงได้แต่สุดท้ายก็พลาดท่า แพนโดร่าจึงแปลงร่างออกไปต่อสู้กับสปิลบันโดยดอกเตอร์ไบโอเตรียมช่วยเหลือในยามคับขันโดยเปิดทางเข้ายานกาเมเดสเพื่อรับแพนโดร่าที่เสียทีกลับขึ้นยานแต่แผงควบคุมเกิดระเบิดทำให้เกิดแรงช็อคจนดอกเตอร์ไบโอกลับคืนร่างเป็นดอกเตอร์เบน ในตอนที่ 44 ดอกเตอร์เบนที่คืนร่างและได้สติกลับไปยังห้องแลปเพื่อจะหาทางช่วยสปิลบันแต่สู้กับโพสุจนจับมันใส่โหลและราดด้วยน้ำยาจนสลายร่างของมันได้ ดอกเตอร์เบนกลับมาพร้อมกับฉีดไวรัสดัดแปลงเข้าร่างของแพนโดร่าเพื่อทำลายจากภายในแต่ก็ถูกแพนโดร่าทำร้ายจนร่างสลายไป แต่ก็คืนชีพมาจากผลของการเปลี่ยนแปลงไทม์ไลน์พร้อมกับแอนนาและมารีน
  • หน้ากากสาวน้อย เฮลไบร่า (少女仮面ヘルバイラ)
ร่างแปลงของเฮเลนที่ดอกเตอร์ไบโอถูกบังคับให้ดัดแปลงขึ้นมาโดยแฝงเป็นบุคลิคซ่อนเร้นในร่างของเฮเลน เมื่อวาร่าต้องการใช้งานเฮลไบร่า ดอกเตอร์ไบโอจะใช้รีโมทควบคุมสั่งการจากยานกาเมเดสโดยเฮเลนไม่อาจจะทำอะไรได้ เมื่อเปลี่ยนเป็นเฮลไบร่าแล้วสติของเฮเลนจะหายไปกลายเป็นหุ่นเชิดที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น เฮลไบร่ามีดาบสั้นที่ควงได้อย่างช่ำชองเป็นอาวุธและสามารถซัดพลังโจมตีจากดาบสั้นนี้ได้ นอกจากนี้ยังอาบยาพิษเอาไว้อีกต่างหาก ร่างของเฮลไบร่าประกอบด้วยโลหะผสมพิเศษที่ไม่รับพลังงานเลเซอร์กล่าวคือปืนเลเซอร์จะไร้ผลอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งยังมีความสามารถแยกสสารของตัวเองได้โดยสลายร่างตัวเองเป็นละอองอนุภาคแสงจำนวนมากและกลับมารวมตัวกันได้ดั่งใจเพื่อหลบลีกและเข้าโจมตีศัตรู แม้จะเป็นศัตรูที่ร้ายกาจแต่ก็มีจุดอ่อนเพราะเมื่อเวลาผ่านไปสติของเฮเลนจะฟื้นคืนทำให้ขัดขวางจิตสำนึกที่เป็นส่วนของเฮลไบร่าจนเกิดอาการปวดหัวรุนแรงจนเปิดช่องให้สปิลบันเล่นงานได้ แต่ความยากลำบากก็คือหลังจากพวกสปิลบันรู้ว่าเฮเลนคือเฮลไบร่าก็ทำให้ลงมือได้ลำบากแต่หลังจากดอกเตอร์ไบโอทำลายตัวรับคลื่นในสมองของเฮเลนไปในตอนที่ 30 เฮเลนก็เป็นอิสระอย่างแท้จริงและไม่เคยกลับเป็นเฮลไบร่าอีกเลย
  • ริคกี้ (リッキー)
ผู้นำของกองทัพสปายของจักรวรรดิวาร่า มีความสามารถในการปลอมตัว แม้จะมีตำแหน่งเป็นผู้นำของกองทัพสปายแต่ริกกี้ก็ไม่มีกองทหารเป็นของตัวเองอีกทั้งยังไม่มีมนุษย์จักรกลต่อสู้หรือสัตว์ประหลาดเป็นของตัวเองซะอีก ตามปกติแล้วจะคอยติดตามเดธซีโร่มากกว่า กองทัพสปายเคยปฏิบัติงานเองเพียงครั้งเดียวในตอนที่ 10 โดยหลอกไดโกโร่ว่าจะจ้างให้ประกอบหุ่นยนต์ให้โดยเสนอทั้งเงินและจัดเตรียมชิ้นส่วนให้แต่แท้จริงคือแผนลอบสังหารสปิลบันโดยใช้ไดโกโร่เป็นเครื่องมือแต่สุดท้ายก็ล้มเหลว ในตอนที่ 36 ริกกี้ไม่ไว้ใจในตัวโยคิที่ดำเนินแผนการกำจัดสปิลบันแบบมีเลศนัยจึงยุยงให้เดธซีโร่ส่งนิวมนุษย์จักรกล "วัลเซอร์" เข้าไปเสิรมในแผนโดยพลการและกล่าวว่าร้ายโยคิต่อหน้าสร้างความไม่พอใจแก่แพนโดร่าจึงสาปริกกี้ให้กลายเป็นหินเพื่อกลายเป็นที่นั่งของโยคิ ริกกี้อยู่ในสภาพเป็นหินตลอดแม้หลังจากโยคิถูกกำจัดแต่แพนโดร่าก็ไม่แก้คำสาปให้และคงเป็นเก้าอี้หินอยู่แบบนั้นและหายสาปสูญไปพร้อมการล่มสลายของจักรวรรดิ์วาร่า
  • กาเชอร์ และ ชาโดว์ (ガシャー, シャドー)
ลูกน้องเพียง 2 คนของริคกี้คอยติดตามริกกี้และเดธซีโร่ในการดำเนินแผนร้ายตลอด จนในตอนที่ 25 ทั้งสองได้เข้าร่วมในแผนการแรกของจักรพรรดิ์กิโยตินที่จะกำจัดสปิลบันโดยให้นิวมุษย์จักรกล "พันเชอร์" สู้กับสปิลบันเพื่อให้สปิลบันใช้พลังงานจนหมดแล้วให้กาเชอร์กับชาโดว์คอยซ้ำในช่วงที่สปิลบันอ่อนแรงโดยกิโยตินมอบมีดสั้นที่ทำขึ้นพิเศษเพื่อให้ทั้งสองใช้จัดการแทงทะลุชุดของสปิลบัน ทว่าแม้จะสิ้นพลังงานแต่สปิลบันก็ใช้ดาบทวินเบลดฟันทั้งสองจนถูกกำจัดลงได้พร้อมกันจนร่างสลายไป แท้จริงทั้งสองเป็นสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ที่สร้างจากเครื่องจักรผสมกับสารประกอบอินทรีย์
  • จักรพรรดิ กิโยติน (ギローチン皇帝)
จักรพรรดิของวาร่าจากโลกอนาคต อ้างตัวว่าเป็นทายาทโดยชอบธรรมของจักรวรรดิ์วาร่าแต่แท้จริงแล้วเขาเป็นขอทานขี้เมาจากศตวรรษที่ 23 ถูกชักจูงโดยหนูพูดได้ชื่อ "โพสุ" โดยมันบอกว่าการที่กิโยตินต้องกลายเป็นขอทานเช่นนี้มีต้นเหตุมาาจากสปิลบัน จึงเดินทางย้อนอดีตมาด้วยความช่วยเหลือจากวาร่าในตอนที่ 24 แม้อยู่ในสภาพขอทานแต่กิโยตินกลับมีพละกำลังมหาศาลและพกปืนสั้นพลังงานเป็นอาวุธแถมมีร่างกายที่ทนทานโดนระเบิดโดนกระสุนยังไม่ระคายผิว ในตอนนี้เขาได้ช่วยเหลือสปิลบันให้รอดจากแผนการของเดธซีโร่แต่ก็เป็นเพราะเขาอยากจะกำจัดสปิลบันด้วยตัวเอง เมื่อเขาปรากฏตัวบนยานกาเมเดส เทพวาร่าก็ทำการเปลี่ยนร่างและเครื่องทรงของกิโยตินให้สมฐานะและได้การรับรองจากแพนโดร่าในฐานะของทายาทโดยชอบธรรมของวาร่าแต่กระนั้นกิโยตินก็ภักดีและรับใช้แพนโดร่าอย่างซื่อสัตย์ การเข้าร่วมของกิโยตินในช่วงหลังนี้ทำให้วาร่าแข็งแกร่งขึ้นมากเพราะถึงแต่เดิมจะเป็นขอทานแต่กิโยตินกลับมาความรู้ด้านวิทยาการอนาคตมาก มนุษย์จักรกลต่อสู้ถูกพัฒนาเป็นนิวมนุษย์จักรกลต่อสู้เพราะไม่เพียงจะแข็งแกร่งขึ้น มีความสามารถที่หลากหลายแล้ว พวกมันยังมีความฉลาดมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งกิโยตินเองก็เฉลียวฉลาดมีเล่ห์กลวางแผนการที่ซับซ้อนรัดกุมมากขึ้นสร้างความลำบากแก่พวกสปิลบันเป็นอย่างมาก จักรพรรดิ์กิโยตินดูจะถูกใจในตัวของเฮเลนเป็นอันมากแต่ก็กระนั้นก็ไม่วายใช้เฮเลนเป็นเครื่องมือเล่นงานสปิลบันหลายครั้ง ทั้งเคยสร้างหุ่นตัวปลอมที่สปิลบันเองก็จับไม่ได้ในตอนที่ 26 เพื่อสร้างความสับสน และในตอนที่ 29 ก็ใช้เฮเลนเป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดไดอาน่า หลังตอนที่ 40 กิโยตินหายตัวไปสองตอนและกลับมาในตอนที่ 43 โดยเขาใช้วิธีเปลี่ยนตัวเองเป็นพลังงานบริสุทธิ์เสมือนเป็นวิญญาณลอบขึ้นยานแกรนนาสก้า ในตอนนี้มือขวาของกิโยตินสามารถเปลี่ยนเป็นหัวปีศาจและกัดเฮเลนเพื่อปล่อยพิษ และในสภาพที่เกือบเหมือนวิญญาณนี้ไม่ว่าอาวุธใดๆก็ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้จนสปิลบันต้องหลอกล่อให้กิโยตินตามเข้าไปที่เตาปฏิกรณ์ของยานแกรนนาสก้าแล้วปล่อยพลังงานจากเตาให้โอเวอร์โหลดส่งผลให้กิโยตินถูกกระแสพลังงานลากเข้าไปจนวิญญาณแตกสลายแต่ต้องแลกมาด้วยการตกของยานแกรนนาสก้า
  • โพส (ポス)
หนูพูดได้ที่ถูกส่งไปล่อลวงกิโยตินให้เดินทางมาจากศตวรรษที่ 23 และกลายเป็นสัตว์เลี้ยงปากจัดคู่ใจของกิโยตินและคอยทำหน้าที่เป็นสายสืบให้กับทั้งกิโยตินและแพนโดร่าอีกด้วย ในตอนที่ 44 โพสุพยายามจะขัดขวางดอกเตอร์เบนแต่ถูกจับยัดใส่โหลและราดด้วยสารเคมีจนร่างถูกย่อยสลายไปในที่สุด
  • โยคิ (ヨウキ)
ภูตร้ายที่ถูกวาร่าสร้างขึ้นมาจากจิตใจที่ชั่วร้ายของมนุษย์ปรากฏตัวในช่วงท้ายของตอนที่ 35 โยคิสามารถหายตัวล่องลอยไปมาได้เหมือนวิญญาณจนการโจมตีใดๆก็ไร้ผล ในตอนที่ 36 โยคิได้ทำการล้างสมองเหล่าบุคคลสำคัญในแขนงต่างๆของญี่ปุ่นให้มาเข้าร่วมกับตนเพื่อเป็นเครื่องมือในการกำจัดสปิลบันภายใต้ชื่อ "สมาคมลับมูมูมู" (秘密結社無・無・無) แต่โยคินั้นไม่เป็นที่ไว้วางใจต่อหัวหน้าคนอื่นๆของวาร่าโดยเฉพาะริกกี้ที่ต่อว่าโยคิมาตรงๆทำให้ถูกแพนโโร่าสาปให้กลายเป็นหินเพื่อเป็นเก้าอี้ให้แก่โยคิ และในตอนที่ 39 โยคิก็วางแผนทรยศจริงๆไม่ผิดคำของริกกี้โดยสร้างมนุษย์จักรกลวิญญาณขึ้นมาจากเศษซากของมนุษย์จักรกลที่เคยถูกสปิลบันทำลายและเล่นงานเดธซีโร่ก่อนจะเข้าไปยังห้องโถงเพื่อยึดอำนาจ แต่กิโยตินก็คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าโยคิคงจะหักหลังวาร่าจึงได้สร้างนิวมนุษย์จักรกล "แวคิวเมอร์" ซึ่งมีพัดลมดูดตัวใหญ่อยู่ที่ลำตัวสามารถดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาและสามารถบดขยี้ให้แหลกไปได้ แวคิวเมอร์ร่วมกับเดธซีโร่สู้กับโยคิและสมุนจักรกลโดยดูดมนุษย์จักรกลวิญญาณด้วยพัดลมดูดแล้วขยี้จนไม่เหลือซากอีกทั้งยังดูดพลังวิญญาณของโยคิเข้าไปด้วยจนโยคิไม่สามารถคงสภาพวิญญาณไว้ได้และถูกแพนโดร่าเล่นงานด้วยแสงจากคฑาเข้าไปอีกจนสิ้นท่า ร่างของโยคิถูกจับใส่โลงแล้วส่งไปส่วนลึกของอวกาศเพื่อไม่ให้กลับมาได้อีกตลอดกาล
  • คินโคลน (キンクロン)
ทหารลิ่วล้อของจักรวรรดิ์วาร่าเป็นมนุษย์จักรกลต่อสู้แบบผลิตจำนวนมากในรูปของทหารชุดดำหน้ากากสีทองสวมผ้าคลุมไหล่ที่มีหน้าแสยะยิ้มอันน่าขนลุก แม้เป็นทหารลิ่วล้อแต่ในบางครั้งก็สร้างความลำบากให้พวกสปิลบันไม่น้อย เช่นในตอนที่ 4 มีคินโคลนรุ่นพิเศษแฝงตัวมาในหมู่คินโคลนปกติเมื่อถูกฟันหน้ากากชั้นนอกแตกก็เผยหน้าตาจักรกลที่ซ่อนอยู่แถมยังมีทักษะการต่อสู้สูงกว่าคินโคลนธรรมดามากทั้งใช้ปังตอ 2 อันในการต่อสู้และยิงจรวดมิซไซส์จากส่วนหัวได้ด้วย ในตอนที่ 9 มีกลุ่มคินโคลน 5 ตัวที่บุกข้ามาคุ้มกันเฮลไบร่าโดยสะบัดผ้าคลุมโจมตีอีกทั้งยังมีพลุไฟจากมือใช้โจมตีอีกด้วยจนสปิลบันถึงกับต้องใช้ "อาร์ค อิมพัลส์" ในการกำจัดเลยทีเดียว ในตอนที่ 24 ก็มีการถอดหัวมาเตะให้ระเบิดใส่สปิลบันอีกต่างหาก

กองทัพของวาร่า

[แก้]

กองกำลังของวาร่ามีการแบ่งออกเป็น 3 กองกำลังได้แก่ กองกำลังจักรกล กองกำลังชีวะและกองกำลังสปายแต่เพราะกองกำลังสปายไม่มีกองทหารหรือนักรบเป็นของตัวเอง ฉะนั้นจึงมีเพียงกองกำลังจักรกลกับกองกำลังชีวะเท่านั้นที่ส่งสมุนออกไปสู้กับสปิลบัน อันได้แก่

มนุษย์จักรกลต่อสู้ (戦闘機械人)

[แก้]
ตามสายบัญชาการแล้วจะขึ้นตรงต่อแม่ทันเดธซีโร่แต่เพราะกองกำลังอื่นแทบไม่มีนักรบทำให้กองกำลังจักรกลเป็นกองกำลังหลักของวาร่าตลอดซีรีส์ โดยเฉพาะหลังจากที่ดอกเตอร์ไบโอเก็บตัวในห้องแลปแล้วก็มีแต่มนุษย์จักรกลต่อสู้เท่านั้นที่ถูกส่งมาต่อกรกับสปิลบัน มนุษย์จักรกลต่อสู้ ประกอบด้วย *(หมายเหตุ: ตอนที่ปรากฏหลังชื่อนั้นระบุตอนที่ออกโรงต่อสู้กับสปิลบันเท่านั้น ไม่นับการปรากฏตัวในช่วงท้ายของแต่ละตอน)
  • เมก้าโชลเดอร์ (メカショルダー) (ตอนที่1) มนุษย์จักรกลต่อสู้ตัวแรกที่ถูกส่งมาสู้กับสปิลบัลและไดอาน่า มีลักษณะคล้ายแมงมุมที่มีหัวไหล่ใหญ่โตมีอาวุธซ่อนอยู่ทั้งปืนกล 3 ชุด ปืนยิงไฟฟ้าที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากาก ถูกสปิลบันยิงด้วย "เลเซอร์ สไนเปอร์" จนแขนขาดทั้งสองข้างแต่ก็ยังปล่อยวงแหวนที่กลางหลังไปรัดสปิลบันไว้ได้และพยายามจะเดินเข้าระเบิดพลีชีพแต่สปิลบันดิ้นหลุดจากวงแหวนได้ก่อนจึงจัดการด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • เมก้าบันเดอร์ (メカバンダー) (ตอนที่2) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่เฝ้าฐานทัพใต้ดินกลางกรุงแห่งแรกของวาร่า นอกจากแขนขนาดใหญ่ 2 แขนแล้วยังมีแขนกลที่ติดอาวุธจำนวนมากซ่อนอยู่ พร้อมด้วยเครื่องยิงระเบิดไฟฟ้าที่หัวไหล่ทั้งสองข้างและยังมีสแกนเนอร์ตรงหัวที่จับความเคลื่อนไหวของศัตรูได้อย่างแม่นยำทำให้ในการต่อสู้ครั้งที่ 2 สปิลบันใช้ "เลเซอร์ สไนเปอร์" ยิงตรงสแกนเนอร์นี้จนเมก้าบันเดอร์หมดฤทธิ์และถูกปราบด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • เมก้าชอคเกอร์ (メカジョ-カー) (ตอนที่3) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่คุ้มกันฐานปืนใหญ่ของวาร่า สามารถปล่อยสายเคเบิลจากบริเวณลำตัวที่ยิงกระแสไฟฟ้าออกมาได้และมีปืนใหญ่ซ่อนอยู่บริเวณลำตัวด้านขวาแต่ก็ถูกปราบลงด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ในเวลาไม่นาน
  • เมก้าพิวเตอร์ (メカピューター) (ตอนที่5) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่มีข้อมูลการต่อสู้ที่ผ่านมาของสปิลบันเก็บเอาไว้จึงสามารถโต้การโจมตีของสปิลบันได้เกือบทั้งหมด มีแผงยิงจรวดพลังติดตามตัวเป็นอาวุธแต่เพราะมันไม่มีข้อมูลของไดอาน่ามาก่อนจึงถูกเล่นงานด้วยการโจมตีประสานจากปืนเลเซอร์ของทั้งสองคน "ดับเบิลสไนเปอร์" จนเสียท่าและถูกปราบด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • เมก้านอติล่า (メカノーチラ) (ตอนที่7) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่มีรูปร่างเหมือนรถถังขนาดเล็ก มีหน้าที่คุ้มกันฐานทัพใต้น้ำของวาร่าโดยสามารถกดดันสปิลบันจนย่ำแย่ด้วยพลังการบดทับอันทรงพลังก่อนจะแปลงร่างกลับเป็นแบบฮิวมานอยด์ทำให้สปิลบันต้องรับการถ่ายโอนพลังงานจากชุดของไดอาน่าเลดี้แล้วใช้การขี่โฮเวอเลี่ยนพุ่งเข้าไปแล้วใช้ "อาร์ค อิมพัลส์" จัดการ
  • เมก้าแมชชีน (メカマジン) (ตอนที่8) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีอาวุธซ่อนอยู่อยู่มากมายใต้เกราะหัวไหล่ อาทิ ปืนกลที่ไหล่ซ้าย ปืนแสงไฟฟ้าที่ไหล่ขวาและกระสุนแสงจากบริเวณหัวเพื่อรับมือกับสปิลบันและไดอาน่าได้พร้อมๆกัน โดยสามารถเล่นงานไดอาน่าจนบาดเจ็บได้ครั้งนึงและทำลาย "เลดี้ สไนเปอร์" ลงได้ แต่ในการต่อสู้ครั้งที่ 2 ก็ถูกสปิลบันและไดอาน่าจัดการลงได้อย่างง่ายดาย
  • เมก้าโรบอตต้า (メカロボター) (ตอนที่10) มนุษย์จักรกลต่อสู้เพียงตัวเดียวที่ปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งของกองกำลังสปายซึ่งเป็นการปฏิบัติการเดี่ยวครั้งเดียวของกองกำลังสปายอีกด้วย โดยแต่เดิมเป็นหุ่นยนต์ที่ริกกี้จ้างให้ไดโกโร่ช่วยประกอบให้โดยสนับสนุนทั้งเงินทุนและชิ้นส่วนตัวหุ่นด้วย ในครั้งแรกสปิลบันแอบเข้าไปตรวจสอบแต่ก็ไม่พบชิ้นส่วนอันตรายใดๆแต่หลังจากที่ไดโกโร่ประกอบใกล้เสร็จพวกวาร่าก็ลอบเข้าไปใส่ชิ้นส่วนอาวุธเพิ่มเติมพร้อมวางกับดักหวังลอบสังหารสปิลบัน ในงานเลี้ยงที่ไดโกโร่ฉลองที่ประกอบหุ่นยนต์ได้สำเร็จ เจ้าหุ่นยนต์ก็แอบใช้เข็มพิษที่ซ่อนอยู่ลอบแทงสปิลบันจนล้มลงแต่เพราะสปิลบันใส่เสื้อเกราะกันไว้จนรอดมาได้ทำให้พวกริกกี้ต้องเผยร่างจริงในรูปแบบมนุษย์จักรกลต่อสู้ที่มีเขาอันใหญ่ 2 อันงอกออกมาพร้อมด้วยปืนกลและปืนแสงไฟฟ้าที่ซ่อนอยู่เป็นอาวุธแต่ก็ถูกสปิลบันปราบลงได้ในที่สุด
  • เมก้ากันแมน (メカガンマン) (ตอนที่11) มนุษย์จักรกลรูปแบบมือปืนใส่หมวกคาวบอยและเสื้อคลุมตัวยาวที่ถูกส่งมาท้าทายโดยในยกแรกได้ทำการต่อสู้เพื่อเก็บข้อมูลการต่อสู้ของสปิลบันอย่างละเอียดมากขึ้นเพื่อเสริมกำลังให้เมก้ากันแมนแข็งแกร่งขึ้นเพื่อการต่อสู้ครั้งต่อไป อาทิ เกราะพลังงาน เรดาห์ตรวจจับความเคลื่อนไหวกดดันสปิลบันและเล่นงานไดอาน่าจนบาดเจ็บแต่เพราะวาร่าประเมินพลังความโกรธของสปิลบันต่ำไป เมื่อเห็นไดอาน่าถูกทำร้ายก็โกรธจัดต่อยหมัดเดียวเมก้ากันแมนถึงกับระบบรวนและถูกกำจัดด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • เมก้าฟรีซเซอร์ (メカフリーザー) (ตอนที่12) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่แฝงตัวอยู่ในบ้านหรูที่ครอบครัวนึงบังเอิญได้เป็นรางวัลจากการชิงโชค จากครอบครัวที่อยู่กันอย่างสนิมกลมเกลียวแต่พอย้ายมาอยู่ในบ้านที่โอ่อ่าพร้อมเงินสดจำนวนมากเป็นรางวัลสมาชิกในครอบครัวก็เริ่มทำตัวแปลกๆทั้งขี้เกียจทำงาน ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย ละโมบโลภมาก แล้งน้ำใจและทะเลาะกันอย่างขาดสติ เว้นแต่ลูกชายคนเล็กของบ้านที่รู้สึกถึงปรากฏการณ์แปลกๆในบ้านจึงขอร้องให้สปิลบันมาช่วยตรวจสอบ ผ่านอุปกรณ์สอดแนมที่ติดไว้กับหุ่นตัวเล็กเมื่อเกิดปรากฏการณ์ประหลาดที่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านมีเสียงประหลาดดังอื้ออึงทำให้สปิลบันบุกเข้าไปตรวจสอบ จากนั้นเฟอร์นิเจอร์ในบ้านทั้งตู้เย็น พัดลม เครื่องดูดฝุ่นก็รวมร่างกันกลายเป็นมนุษย์จักรกลต่อสู้ เมก้าฟรีซเซอร์สามารถพ่นไอเย็นจากส่วนลำตัวที่เหมือนตู้เย็นเพื่อแช่แข็งและใช้ท่อดูดฝุ่นที่แขนขวาเป็นตัวดูดและยังปล่อยแสงจากหลอดไฟบนหัวได้ด้วยแต่ก็ยังถูกสปิลบันเล่นงานด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ไปอีกตัว
  • ดริลแฮนเดอร์ (ドリルハンダー) (ตอนที่ 14) มนุษย์จักรกลต่อสู้ตัวแรกที่ไม่ได้มีชื่อนำด้วยคำว่า "เมก้า-" เป็นหุ่นยนต์รบที่มีสว่านเต็มตัวทั้งบนหัวไหล่ทั้งสองและแขนขวาโดยสามารถปล่อยสว่านเหล่านั้นพุ่งออกไปโจมตีได้ ดำเนินแผนการจับเด็กประถมและครูประจำชั้นเป็นตัวประกันพร้อมกับขโมยโฮเวอเลี่ยนของสปิลบันไปด้วยเพื่อหาทางทำลายเพราะหากรู้วิธีทำลายโฮเวอเลี่ยนแล้ว ก็สามารถทำลายยานรบอื่นทั้งไกออสหรือแม้แต่แกรนนาสก้าลงได้แต่เพราะโฮเวอเลี่ยนนั้นแข็งแกร่งมากไม่ว่าพวกวาร่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถสร้างได้แม้รอยขีดข่วน เมื่อสปิลบันช่วยตัวประกันและโฮเวอเลี่ยนออกมาได้ก็สู้กับดริลแฮนเดอร์และปราบลงด้วยการขี่โฮเวอเลี่ยนแล้วใช้ "อาร์ค อิมพัลส์" จัดการทำลายลงได้
  • บอสคอง (ボスコング) (ตอนที่ 16) มนุษย์จักรกลต่อสู้ทรงกอริลล่าที่คุ้มกันทะเลสาบใต้ดินที่พวกวาร่ายึดครองไว้เพื่อให้เทพวาร่ามาใช้เป็นที่พำนักพร้อมกับจับตัวคนในหมู่บ้านเป็นตัวประกัน บอสคองนั้นมีพละกำลังอันมหาศาลสามารถยกรถบรรทุกได้อย่าง่ายดายและมีหมัดเหล็ดที่สามารถยิงออกไปได้ราวกับเป็นตุ้มยักษ์เป็นอาวุธ ต่อสู้กับสปิลบันอย่างดุเดือดและปราบลงได้ด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • บล็อกเคอร์ (ブロッカー) (ตอนที่17) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่ปลอมเป็นหมอทำการรักษาสปิลบันที่หมดสติแต่จริงๆแล้วเป็นการทำให้สปิลบันติดอยู่ในสภาพกึ่งฝันและเล่นงานด้วยภาพมายาอย่างหนักหน่วงจนเมื่อไดอาน่าเห็นความผิดปกติที่สายไฟและขั้วไฟฟ้าที่ติดอยู่กับตัวสปิลบันในห้องฉุกเฉินไม่ได้ต่อเข้ากับเครื่องช่วยชีวิตแต่อย่างใดแต่โยงติดกับแขนหุ่นยนต์ที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าม่านจึงดึงออกหมดทำให้สปิลบันสามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้และแปลงร่างเข้าต่อสู้กับพวกวาร่า หมอกำมะลอจึงเผยร่างเป็นมนุษย์จักรกลต่อสู้สีขาวที่มีแขนขวาเป็นตะขออันใหญ่ บล็อกเคอร์สามารถแยกชิ้นส่วนร่างกายเข้าโจมตีได้สมชื่อแม้หัวหลุดจากตัวก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์แต่ก็ถูก "อาร์ค อิมพัลส์" ทำลายร่างจนไม่เหลือซาก
  • โดเบร่า (ドーベラー) (ตอนที่18) มนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบสุนัขโดเบอแมนที่รับคำสั่งออกตามล่าเด็กสาวชื่อ "คาริ" ซึ่งเป็นมนุษย์ดาวแพลนท์ที่วางแผนจะรวมร่างกับมนุษย์ดาวซาฮาร่าเพื่อกำเนิดมนุษย์ชีวะที่ทรงพลังเพื่อต่อกรกับวาร่า โดเบร่าสามารถปล่อยโดรนขนาดเล็กเพื่อติดตามและโจมตีเหยื่อแบบไม่ลดละและตัวโดเบร่าก็สามารถพ่นลูกระเบิดแสงจากปากได้ ร่วมมือกับเฮลไบร่าเพื่อตามจับตัวคาริแต่ก็ถูกสปิลบันขี่โฮเวอเลี่ยนแล้วจัดการลงได้ด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • เด็นจิร่า (デンジラー) (ตอนที่19) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่มีรูปร่างเป็นแผ่นกลมขนาดใหญ่ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงออกมาและสามารถส่งคลื่นคำสั่งแก่หุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ดำเนินแผนการขโมยหุ่นยนต์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อดัดแปลงไว้ใช้ จนสปิลบันต้องปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์เพื่อลอบเข้าฐานลับ เด็นจิร่ามีแขนกลติดยึดกับสายเคเบิลซ่อนอยู่ใช้เป็นอาวุธแต่ความสาารถหลักก็คือปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงออกมาทำให้สปิลบันเสียท่าไปเช่นกันแต่เพราะสปิลบันแกร่งกว่าจึงหลุดพ้นจากพันธนาการและจัดการเด็นจิร่าด้วยทวินเบลดโดยไปเสียบทะลุเด็นจิร่าที่อยู่ห่างออกไปมากและกำจัดด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • ชารินเดอร์ (シャリンダー) (ตอนที่20) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่มีวงล้อติดข้อมือเป็นอาวุธ ดำเนินแผนร่วมกับพวกริกกี้เพื่อจับตัว "ดอกเตอร์ซากาตะ" ผู้เชี่ยวชาญการสร้างแอนดรอยด์ที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้มาร่วมในแผนการส่งแอนดรอยด์ตัวแทนเข้ายึดครองโลกจึงจับตัวดอกเตอร์ไปพร้อมกับภรรยาชื่อ "นาซึโกะ" และทรมานนาซึโกะด้วยการช๊อตไฟฟ้าเพื่อให้ดอกเตอร์ยอมร่วมมือแต่ทั้งดอกเตอร์และภรรยาใจแข็งไม่ยอมร่วมมือทำให้พวกวาร่าเร่งกระแสไฟฟ้าขึ้นทำให้นาซึโกะเกิดมีพลังขึ้นจนพังกรงขังและพาดอกเตอร์หนีออกมาแต่เจอชารินเดอร์ขวางและเพื่อปกป้องสามีทำให้นาซึโกะถูกชารินเดอร์ยิงแสงจากตาเข้าใส่จนร่างระเบิดจึงได้รู้ว่านาซึโกะนั้นก็เป็นแอนดรอยด์เพราะภรรยาตัวจริงของดอกเตอร์ได้เสียชีวิตไปแล้ว ในการต่อสู้กับสปิลบันชารินเดอร์ก็มีรถจี๊ปเป็นพาหนะขับเคี่ยวกับโฮเวอเลี่ยนของสปิลบันแต่ถูก "โฮเวอเลี่ยน รัช" ของสปิลบันพุ่งชนจนถูกทำลายส่วนตัวชารินเดอร์ก็ถูก "อาร์ค อิมพัลส์" จากการขี่โฮเวอเลี่ยนจนถูกทำลาย
  • ซาตาน (サータン) (ตอนที่22) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่จำแลงร่างเป็นชายชาวตะวันออกกลางโพกศีรษะที่ใช้การสะกดจิตครอบงำเหล่าวัยรุ่นเพื่อมาเป็นเครื่องมือในการกำจัดสปิลบันมีทั้งวงดนตรีร็อค หนุ่มที่ไม่เก่งกีฬาหรือแม้แต่เด็กเนิร์ดติดการ์ตูนแอ็คชั่น ร่างจริงของซาตานคือมนุษย์จักรกลต่อสู้ที่มีดาบโค้งเล่มใหญ่เป็นอาวุธหลัก สามารถปล่อยหงอนบนหัวซัดเป็นใบมีดได้และยังมีกรงเล็บที่แหลมคมอีกด้วย ต่อสู้กับสปิลบันอย่างสูสีแต่ก็ถูกปราบลงด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ในที่สุด
  • โกโดร่า (ゴドラー) (ตอนที่23) มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่ซุ่มทำร้ายคนบนภูเขาริวจินเพื่อไม่ให้ผู้ใดกล้ำกรายเข้าไป ก่อนที่วาร่าจะลักพาตัว "ดอกเตอร์โยเนดะ" ผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อตามหาอุกกาบาตที่มีแรงดึงดูดสูงมาใช้เพื่อรวบรวมน้ำให้วาร่า โกโดร่าสามารถแปลงเป็นบอลลายพรางลูกใหญ่เข้าจู่โจมและมีหนามแหลมตามตัวที่ยิงออกไปเป็นจรวดมิซไซส์ได้ เข้าต่อสู้กับสปิลบันและไดอาน่าอย่างดุเดือดด้วยการแปลงเป็นบอลยักษ์พุ่งเข้าใส่แต่ก็ถูกเล่นงานด้วย "ดับเบิล สไนเปอร์" และถูก "อาร์ค อิมพัลส์" จัดการลงไปได้อีก

นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ (ニュー戦闘機械人)

[แก้]
มนุษย์จักรกลต่อสู้ที่ถูกพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถหลังจักรพรรดิ์กิโยตินเข้าร่วมกับวาร่าโดยใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมอนาคตมาช่วยปรับแต่ง นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้จึงมีความแข็งแกร่งมากขึ้น มีอาวุธร้ายแรงและความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น ที่สำคัญคือมีสติปัญญาที่สูงขึ้นมากโดยหลายตัวสามารถพูดได้และปลอมตัวเป็นมนุษย์ได้แนบเนียนขึ้นกว่ามนุษย์จักรกลต่อสู้รุ่นก่อนหน้าโดยเริ่มใช้ตั้งแต่ตอนที่ 25 ได้แก่
  • พันเชอร์ (パンチャー) (ตอนที่25) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ตัวแรกที่จักรพรรดิ์กิโยตินประกอบขึ้นมีรูปร่างคล้ายกับปูตัวใหญ่ที่มีแขนขวาเป็นก้ามปูขนาดมหึมาที่สามารถถอดแยกออกจากตัวได้อีกทั้งยังมีแรงหนีบมหาศาลจับยึดสปิลบันได้อย่างเหนียวแน่นอีกทั้งยังมีพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากจนสปิลบันและไดอาน่าต่อสู้ได้อย่างยากลำบากกว่าจะปราบลงได้ด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ก็ถึงกับทำให้สปิลบันพลังงานแทบจะหมดเลยทีเดียวแต่นั่นก็คือจุดประสงค์ของแผนนี้โดยกิโยตินให้พันเชอร์เป็นนกต่อสู้กับสปิลบันจนสปิลบันพลังงานหมดแล้วให้ชาโดว์กับกาเชอร์ที่ได้รับมีดสั้นแบบใหม่ที่สามารถแทงทะลุ "ไฮเทค คริสตัลสูท" ได้หวังให้ทั้งสองคอยแทงซ้ำแต่ก็ลืมไปว่าสปิลบันยังมีแรงเหลือจะสู้อยู่ ชาโดว์และกาเชอร์จึงถูกสปิลบันจัดการด้วยทวินเบลดจนเสียชีวิตทั้งคู่
  • เมโด้ (メドー) (ตอนที่26) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปร่างมนุษย์งูที่กิโยตินสร้างขึ้นโดยให้มีรูปลักษณ์เหมือนกับผู้หญิงและมีเสียงของเฮเลนมาใช้ในการกำจัดสปิลบันร่วมกับแอนดรอยด์ฝาแฝดของเฮเลนที่กิโยตินสร้างให้มีรูปร่างเหมือนกับเฮเลนอีกตัวมาคอยช่วยโดยแอนดรอยด์ตัวนี้แม้แต่ "เซิร์ช อนาไลเซอร์" ของสปิลบันก็ยังตรวจสอบแยกแยะไม่ได้หวังให้สปิลบันสับสนว่าทั้งแอนดรอยด์และเมโดคือเฮเลนที่ถูกดัดแปลงมา เมโดนั้นถึงไม่ใช้เสียงของเฮเลนมาลวงก็มีความคล่องแคล่วเคลื่อนไหวไปมาได้รวดเร็วราวกับงูและมีหน้าไม้ที่ยิงลูกศรระเบิดอันรุนแรงเป็นอาวุธแล้วยังใช้หางงูของลำตัวท่อนล่างฟาดใส่ได้ราวกับแส้ กว่าที่สปิลบันจะตัดใจวัดดวงจัดการด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ก็เล่นเอาอ่วมไปไม่น้อยเลยทีเดียว
  • คามิล่า (カーミラー) (ตอนที่27) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบค้างคาวยักษ์สีแดง รับคำสั่งให้ออกตามล่าคู่รักมนุษย์ดาวฟอกก์เพื่อดูดเลือดซึ่งมีสีน้ำเงินแล้วกลั่นตัวเพื่อเป็นอัญมณีที่สามารถต่อชีวิตให้กับวาร่าได้ โดยคามิล่าสามารถบินไปมาด้วยปีกอันใหญ่และยังสามารถแลบลิ้นยาวๆมาใช้เพื่อดูดเลือดหรือโจมตีได้ด้วย ร่วมมือกับเดธซีโร่ในการตามล่าคู่รักต่างดาวและในการต่อสู้กับสปิลบันแต่ก็ถูกเล่นงานด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ในตอนท้าย
  • ดิสก์ (ディスク) (ตอนที่28) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ที่ร่วมในแผนการสะกดจิตโดยใช้แผ่นดิสก์ที่บันทึกเสียงของแพนโดร่าซึ่งเล่านิทานเกี่ยวกับตำนานกรีกโบราณให้แก่แม่ที่กำลังตั้งครรภ์ฟังแต่การสะกดจิตไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ตัวแม่แม้จะฟังเพลินจนไม่สนอะไรก็ตามแต่เป้าหมายคือการล้างสมองเด็กที่อยู่ในท้องเพื่อปลูกฝังสิ่งชั่วร้ายให้เด็กๆเหล่านั้นกลายเป็นเครื่องมือของวาร่าในอนาคต ดิสก์สามารถยิงแผ่นดิสก์ออกไปโจมตีได้อีกทั้งยังใช้แผ่นดิสก์ขนาดใหญ่ที่มือขวาเป็นอาวุธ สามารถใช้ดิสก์นี้สะท้อนแสงให้ตาพร่าหรือสะท้อนแสงเลเซอร์ก็ได้แต่ก็ถูกสปิลบันจัดการด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ในที่สุด
  • ออฟไซด์ (オフサイド) (ตอนที่29) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบนักอเมริกันฟุตบอลที่ร่วมมือกับเฮลไบร่ารุมเล่นงานไดอาน่าที่ได้รับบาดเจ็บ สามารถถอดลูกบอลบนหัวมาใช้เป็นลูกระเบิดได้และยังใช้ร่างกายอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าแทคแบบนักอเมริกันฟุตบอลได้ด้วย สามารถเล่นงานไดอาน่าจนบาดเจ็บสาหัสแต่สปิลบันก็ตามมาช่วยได้ทันพอดีและสู้กับออฟไซด์จนได้จังหวะยิง "เลเซอร์ สไนเปอร์" ใส่หัวของมันอย่างจังจนมันปล่อยลูกบอลระเบิดออกมาไม่ได้อีกและถูกจัดการด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • คุรุแมน (クルマン) (ตอนที่30) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบรถตู้สีดำที่คอยติดตามเฮเลนที่ถูกล้างสมองให้ไปลอบสังหารสปิลบันเมื่อแผนนั้นล้มเหลวจากความช่วยเหลือของดอกเตอร์ไบโอทำให้เฮเลนได้สติและหนีไปหาสปิลบันได้ คุรุแมนในร่างรถตู้ก็ได้รับคำสั่งให้ตามจับเฮเลนกลับมาโดยไล่ล่าไปตามที่ต่างๆโดยคุรุแมนในร่างต่อสู้ก็เหมือนจับรถตู้ยกตั้งขึ้นแล้วมีแขนขางอกออกมาเท่านั้น แม้จะมีรูปร่างเหมือนรถตู้ที่ดูอุ้ยอ้ายแต่สามารถไล่ล่าเฮเลนไปได้แม้อยู่ในตึกหรือแม้แต่ในลิฟท์ ในร่งรถตู้นั้นมีเกราะที่แข็งแกร่งแม้ "เลเซอร์ สไนเปอร์" ก็ยังยิงไม่เข้าและสามารถจับสปิลบันลากไปกับพื้นแต่ก็ถูกสปิลบันยิง "เลเซอร์ สไนเปอร์" เข้าไปใต้ท้องรถซึ่งเป็นจุดสำคัญก่อนจะถูกจัดการด้วยการขี่โฮเวอเลี่ยนแล้วใช้ "อาร์ค อิมพัลส์" กำจัด
  • แอนท่อม (アントム) (ตอนที่31) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบผึ้งสีขาวร่วมดำเนินแผนการสร้างแผ่นดินไหวโดยแอนท่อมจะใช้เข็มที่ซ่อนในปากเจาะโครงสร้างพื้นฐานใต้ดินแล้วปล่อยสารกัดกร่อนที่มีฤทธิ์รุนแรงทำลายฐานรากของอาคารบ้านเรือนแล้วใช้เครื่องส่งแรงสั่นสะเทือนของกิโยตินสร้างแผ่นดินไหวรุนแรงเพื่อไล่คนออกจากพื้นที่เพื่อนำไปสร้างฐานของวาร่าแต่ถูกขัดขวางโดยพวกสปิลบันที่ได้เฮเลนเลดี้มาช่วยต่อสู้แผนจึงล้มเหลว แอนท่อมสามารถปล่อยโดรนผึ้งตัวเล็กมาช่วยโจมตีได้แต่ก็พลาดท่าถูกกำจัดด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ไปจนได้
  • ซึตาร่า (ツターラ) (ตอนที่32) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบไม้เลื้อยเถาวัลย์ที่สามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นต้นไม้ด้วยคลื่นชนิดพิเศษเพื่อวางแผนเปลี่ยนประชากรมนุษย์ให้เป็นต้นไม้ สามารถปล่อยเถาวัลย์จากปากและปลายนิ้วเข้าไปรัดร่างศัตรูและสามารถปล่อยกระแสไฟช๊อตได้แต่ก็ถูกปราบด้วยความร่วมมือกันของพวกสปิลบันจนถูกทำลายด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ไปอีกราย
  • ไบเคอร์ (バイカー) (ตอนที่33) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบมอเตอร์ไซด์ที่แปลงร่างเป็นมอเตอร์ไซด์ฮาร์เล่ย์ให้กิโยตินขับขี่เพื่อดำเนินแผนการชักชวนแก็งก์มอเตอร์ไซด์มาเป็นพวก ไบเคอร์มีร่างกายที่แข็งแกร่งสามารถทน "เลดี้ สไนเปอร์" ของไดอาน่าเลดี้ได้ สามารถยิงกระสุนออกมาได้ในสภาพมอเตอร์ไซด์ ในร่างต่อสู้ก็ยิงแสงทำลายจากปืนที่แขนซ้ายและพุ่งชนด้วยความเร็วก็ได้แต่ก็พ่ายแพ้ให้แก่โฮเวอเลี่ยนจนถูก "อาร์ค อิมพัลส์" จัดการลงในที่สุด
  • ยูเมะปัคคุน (ユメパックン) (ตอนที่34) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ตัวอ้วนกลมที่ปรากฏตัวในช่วงคริสมาสต์ออกดำเนินแผนการดักจับความฝันของเด็กได้ตามชื่อ "ตัวเก็บฝัน" ส่งผลให้เด็กๆเหล่านั้นหมดอาลัยตายอยากไม่อยากใช้ชีวิตต่อไป ยูเมะปัคคุนมีร่างกายที่ทนทานพอสมควรซึ่งทน "เลเซอร์ สไนเปอร์" ได้และสามารถปล่อยบอลลูนระเบิดออกมาได้แต่ก็ถูกเล่นงานด้วยการโจมตีประสาน "ทริปเปิ้ลบอมเบอร์" ของพวกสปิลบันจนถูกกำจัดลงด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • ชิชิด้อน (シシドン) (ตอนที่35) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบสิงโตเชิดของญี่ปุ่นปรากฏตัวช่วงปีใหม่เพื่อดำเนินแผนการแจกจ่ายกระจกต้องสาปที่ทำให้ผู้ที่รับไปส่องหน้าจะเห็นว่าหน้าตัวเองนั้นดูสวยดูดีและหลงไหลกับภาพลวงตานั้นแต่ในความจริงจะกลายเป็นมัมมี่ไปด้วยผลของผงยาหลอนประสาทที่ใส่ไว้ในกระจก ชิชิด้อนนั้นสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วด้วยโรลเลอร์สเก็ตและสามารถปล่อยระเบิดออกมาจากปากในรูปสิ่งของที่เกี่ยวกับปีใหม่ และยังสามารถยืดคอและแขนออกไปรัดพวกสปิลบันได้พร้อมกันทั้งสามคนจัดเป็นศัตรูที่ร้ายกาจทีเดียวสำหรับรูปลักษณ์และท่าทางที่ขบขันแต่ก็ถูกเล่นงานด้วย "ทริปเปิ้ลบอมเบอร์" และถูกกำจัดด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ไปในที่สุด
  • วัลเซอร์ (ワルサー) (ตอนที่36) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ที่ติดตั้งปืนใหญ่เอาไว้ที่หัวไหล่ถูกส่งมาเสริมในแผนการของโยคิและพวกลัทธิมูมูมูโดยพลการเนื่องจากริกกี้นั้นไม่ไว้ใจในตัวโยคิจึงยุยงให้เดธซีโร่ส่งวัลเซอร์เข้าไปสู้ เมื่อวัลเซอร์ปรากฏตัวโยคิกับพวกสมุนก็ล่าถอยไปให้วัลเซอร์สู้กับพวกสปิลบันตามลำพัง วัลเซอร์ใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มพวกไดอาน่าจนย่ำแย่แต่วัลเซอร์ไม่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิดเอาเสียเลยจึงถูกเล่นงานได้ง่ายๆด้วย "ทวินเบลด" ก่อนจะโดน "ดับเบิล สไนเปอร์" เข้าไปอีกและถูกกำจัดด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • เบรนเดอร์ (ブレンダー) (ตอนที่38) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ที่มีสมองของสองสามีภรรยานักวิจัยที่ถูกถ่ายโอนมาใส่ไว้ในตัว ซึ่งคู่สามาภรรยานี้ได้สร้างอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีระดับสูงอันเป็นที่ต้องการของวาร่า สมองเทียมที่ใส่ไว้ในตัวเบรนเดอร์นั้นมีเสียงพูดของสามีภรรยาดังออกมาด้วยทำให้พวกสปิลบันลังเลอยู่ไม่น้อยเพราะถูกหลอกว่าสมองนั้นเป็นสมองของคู่สามีภรรยานักวิจัยจริงแต่เมื่อสมองเทียมนั้นถูกทำลายคู่สามีภรรยาจึงได้สติกลับคืนมาด้วย แม้ไม่ใช้เทคนิคนี้เบรนเดอร์ก็มีความสามารถในการต่อสู้สูงสามารถปล่อยหนวดสองเส้นที่ปล่อยระเบิดไฟฟ้าออกมาได้รอบทิศเป็นอาวุธแต่ก็ถูกจัดการด้วย"ดับเบิล สไนเปอร์" เข้าและ "อาร์ค อิมพัลส์" ในที่สุด
  • มนุษย์จักรกลต่อสู้ของโยคิ (ヨウキ戦闘機械人) (ตอนที่39) หรืออาจจะเรียกว่ามนุษย์จักรกลวิญญาณถูกโยคิสร้างขึ้นมาจากเศษซากของเหล่ามนุษย์จักรกลที่ถูกกำจัดมาประกอบเข้าด้วยกันแบบปนๆกันไป ทั้งหัวของบล็อกเคอร์ ลำตัวและขาของโกโดร่า แขนซ้ายที่เอาแขนขวาของพันเชอร์มาใส่ แขนขวาของชารินเดอร์ เท้าซ้ายของเมก้าพิวเตอร์และเท้าขวาของยูเมะปัคคุนเข้าเล่นงานเดธซีโร่ทีเผลอจนสลบและเข้าสู่ห้องโถงพร้อมกับโยคิเพื่อยึดอำนาจแต่จักรพรรดิ์กิโยตินก็คาดไว้แล้วว่าโยคิจะทรยศจึงเรียกนิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ "แวคิวเมอร์" ออกมาร่วมกับเดธซีโร่ที่ตามมาสมทบจับคู่แทคทีมสู้กับโยคิและสมุนจักรกล จนในที่สุดก็ถูกแวคิวเมอร์ใช้พัดลมดูดและบดขยี้จนไม่เหลือซาก
  • แวคิวเมอร์ (バキューマー) (ตอนที่39) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ที่เป็นอาวุธลับของจักรพรรดิ์กิโยตินที่สร้างเตรียมเอาไว้เผื่อโยคิจะทรยศ เข้าแทคทีมกับเดธซีโร่เพื่อสู้กับโยคิและมนุษย์จักรกลวิญญาณ โดยแวคิวเมอร์นั้นมีพัดลมดูดตัวใหญ่ที่กลางลำตัวนอกจากจะมีแรงดูดสูงมากแล้วยังมีใบพัดที่แข็งแกร่งสามารถบดขยี้ทุกสิ่งที่ดูดเข้ามาและทำลายได้ในทันที แรงดูดนั้นสามารถทำลายมนุษย์จักรกลวิญญาณของโยคิเป็นชิ้นๆอีกทั้งยังสามารถดูดพลังวิญญาณของโยคิเข้าไปจนโยคิไม่สามารถคงสภาพเป็นวิญญาณได้และถูกแพนโดร่าเล่นงานด้วยแสงจากคฑาในที่สุด หลังกำจัดโยคิได้ก็ติดตามเดธซีโร่รีบไปจับตัวพวกลัทธิมูมูมูที่หลุดจากการครอบงำของโยคิเพื่อใช้เป็นตัวประกันแต่ก็ถูกสปิลบันเข้าขัดขวางจนต่อสู้กัน แวคิวเมอร์สามารถใช้พัดลมดูดของมันดูดพลังงานเลเซอร์เข้าไปจนเลเซอร์ทำอะไรไม่ได้และหวังจะดูดพวกสปิลบันเข้ามาเพื่อบดขยี้แต่ถูกสปิลบันเสียบทะลุด้วยทวินเบลดก่อนจะถูกจัดการด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • คุมาซอน (クマソン) (ตอนที่40) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบซามูไรที่กิโยตินสร้างขึ้นเพื่อสังหารสปิลบันโดยเฉพาะแต่ก่อนอื่นจะต้องตามหาดาบที่ทรงพลังคู่ควรแก่คุมาซอนเพื่อให้มีพลังที่แกร่งกว่าสปิลบันโดยดาบเล่มนั้นมีชื่อว่า "อิคาซึจิ" ที่ถูกซ่อนในวัดแห่งนึง ในตอนแรกเป็นเพียงดาบขึ้นสนิมที่ดูไร้ประโยชน์แต่เมื่อคุมาซอนอัดพลังกระแสไฟฟ้าเข้าไปก็กลับคืนสภาพเป็นดาบที่ทรงพลังเหนือกว่าทวินเบลดของสปิลบันซะอีกทำให้พวกสปิลบันถูกเล่นงานอย่างหนักหน่วงแต่ด้วยพลังของเด็กหญิงของตระกูลที่ดูแลศาลเจ้าชื่อ "มายูมิ" มีพลังที่สามารถสะกดพลังของดาบอิคาซึจิลงให้กลับไปอยู่ในสภาพของดาบขึ้นสนิมได้เปิดโอกาสให้สปิลบันจัดการคุมาซอนลงด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ในที่สุด
  • มูฟแมน (ムーブマン) (ตอนที่41) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้รูปแบบกล้องถ่ายภาพยนตร์ที่ติดตามเดธซีโร่ในแผนลักพาตัวเพื่อตามจีบไดอาน่า โดยวางแผนสร้างหนังรักโรแมนติกที่เดธซีโร่แต่งงานกับไดอาน่าและปราบสปิลบันลงได้ แน่นอนว่าต้องไม่ได้รับความยินยอมจากไดอาน่าอยู่แล้ว มูฟแมนสามารถยิงแสงทำลายจากกล้องบนหัวและสามารถหายตัวไปกับแสงไฟได้ อีกทั้งยังสร้างลวงตาของตัวเองออกมาลวงศัตรูได้แต่ก็ถูกจัดการด้วย "ดับเบิล สไนเปอร์" และ "อาร์ค อิมพัลส์" จนได้
  • บรีซเซอร์ (ブリザー) (ตอนที่42) นิวมนุษย์จักรกลต่อสู้ตัวสุดท้ายมีรูปร่างคล้ายช้างน้ำสามารถปล่อยแก๊สแช่แข็งออกมาได้ ติดตามเดธซีโร่ในการแช่แข็งกรุงโตเกียวผ่านการแช่แข็งน้ำในท่อประปา แก๊สแช่แข็งของมันทรงพลังมากจนพวกสปิลบันต้องปรับแต่ง "ไฮเทค คริสตัลสูท" เพื่อเพิ่มความทนทานต่อความหนาวเย็นแต่บรีซเซอร์ก็สามารถพ่นไฟได้ด้วยทำให้ในการปราบมัน สปิลบันต้องให้แกรนนาสก้าในสภาพคอมแบทฟอร์เมชั่นยิงสารแช่แข็งออกมาเพื่อแช่แข็งบรีซเซอร์เพื่อเปิดโอกาสให้สปิลบันจัดการด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" ได้ในที่สุด

สิ่งมีชีวิตต่อสู้ (戦闘生物)

[แก้]
เป็นสัตว์ประหลาดที่ดอกเตอร์ไบโอสร้างออกมาจากการดัดแปลงด้วยไบโอเทคโนโลยีจากสารอินทรีย์ล้วนๆแต่ถูกสร้างออกมาน้อยจึงมีโอกาสออกโรงแค่ 3 ตัว ได้แก่
  • กุจา (グジャ) (ตอนที่6) สิ่งมีชีวิตต่อสู้ตัวแรกมีลักษณะเหมือนก้อนเมือกที่เปลี่ยนรูปร่างได้ โดยในสภาพปกติจะเหมือนทากต่างดาวลอยไปลอยมาได้แต่ก็สามารถเปลี่ยนโครงสร้างจนกลายเป็นเมือกสีเขียวที่ลอดผ่านช่องแคบๆได้และยังเปลี่ยนเป็นร่างต่อสู้ที่ดูเหมือนดาวทะเลขนาดเท่าคนเพื่อโอบรัดและกินคนๆนั้นเข้าไปอีกทั้งกุจายังสามารถลอกเลียนรูปแบบของคนที่มันกินเข้าไปได้อีกด้วย กุจาถูกส่งไปชิงโคตรเพชรโซโลมอนเพื่อเป็นบรรณาการแด่เทพวาร่า หลังจากหนีไปได้ในการต่อสู้กับสปิลบันยกแรกด้วยความช่วยเหลือของเฮลไบร่า ดอกเตอร์ไบโอก็เพิ่มขีดความสามารถจนกุจาพ่นแก๊สพิษออกมาได้แต่ในขณะที่กำลังจะจัดการกลืนกินสปิลบันก็บังเอิญถูกกระแสไฟฟ้าจากชุดของไฮเทค คริสตัลสูทจนโมเลกุลในร่างรวนไปมาจนรักษาสภาพร่างไว้ไม่ได้และถูกจัดการด้วย "อาร์ค อิมพัลส์"
  • วาตะจา (ワタジャ) (ตอนที่13) สิ่งมีชีวิตต่อสู้ที่ดอกเตอร์ไบโอสร้างขึ้นมาอย่างเร่งรีบเพื่อต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไบโอเทคโนโลยีที่เหนือกว่า เพราะเดธซีโร่กับริกกี้รวมหัวกันจับนักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านไบโอเทคโนโลยีชาวโลกเป็นตัวประกันและบังคับให้สร้างสิ่งมีชีวิตต่อสู้ขึ้นมาซึ่งการทำเช่นนี้ก็เพื่อเหยียดหยามและเขี่ยดอกเตอร์ไบโอให้พ้นตำแหน่งแต่สุดท้ายสิ่งมีชีวิตต่อสู้นั้นก็ถูกสปิลบันทำลายโดยง่าย ทันใดนั้นวาตะจาก็โผล่ออกมาจากดอกไม้ท่ามกลางการต่อสู้ในรูปของปุยฝ้ายที่ล่องลอยไปมาเข้าพัวพันสปิลบันระหว่างการต่อสู้โดยดอกเตอร์ไบโอสามารถควบคุมวาตะจาได้ด้วยคลื่นไฟฟ้า เนื่องจากวาตะจาตอบสนองต่อพลังงานทุกรูปแบบสปิลบันจึงล่อวาตะจาให้ตามเข้าไปกินพลังงานในปืนเลเซอร์ สไนเปอร์ก่อนจะถูกยิงออกมาจนวาตะจาบาดเจ็บและถูกกำจัดด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" แม้วาตะจาจะถูกกำจัดแต่ก็สร้างผลงานได้ดีกว่าสิ่งมีชีวิตต่อสู้ของพวกเดธซีโร่มาก แพนโดร่าจึงมอบรางวัลปลอบใจแก่ดอกเตอร์ไบโอโดยอนุญาตให้เฮเลนเป็นอิสระซักระยะนึง ดอกเตอร์ไบโอจึงทำลายรีโมทควบคุมก่อนจะนำกลับมาใช้ใหม่ในตอนที่ 18
  • อุมิจา (ウミジャ) (ตอนที่15) สิ่งมีชีวิตต่อสู้รูปร่างคล้ายหมึกผสมแมงกะพรุนตัวสีเทาถูกส่งไปดำเนินแผนการปล่อยปรสิตไปกับน้ำทะเลเมื่อผู้ใดถูกกัดโดยปรสิตนี้จะมีอาการประสาทหลอนโดยพยายามจะกลับลงทะเลเพราะเชื่อว่าตนจะสามารถกลับกลายเป็นพรายน้ำได้แต่หากถูกกัดหลายครั้งก็อาจทำให้ถึงขั้นเสียสติจนถึงกับเสียชีวิตได้เลยทีเดียว เนื่องจากอุมิจาซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลจึงยากจะจับตัวได้ไดอาน่าจึงอาสาจะว่ายน้ำล่อให้มันออกมาโดยระหว่างนั้นสปิลบันก็จะออกตามหาห้องแลปลับที่ซ่อนอยู่เพื่อยุติการสร้างปรสิตและใช้ไกออสบุกทำลายได้ในที่สุด กลับกันทางไดอาน่ากลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะพวกวาร่าจำได้จึงไม่เล่นงานไดอาน่าในทะเลแต่ซุ่มเล่นงานบนบกแทน อุมิจามีแขนยาวๆที่มีตัวดูดเป็นอาวุธและสามารถปล่อยเมือกโคลนมาโจมตีแต่ก็ถูก "ดับเบิลสไนเปอร์" เล่นงานจนอ่วมก่อนถูกกำจัดด้วย "อาร์ค อิมพัลส์" เมื่อกำจัดอุมิจาลงได้เหล่าผู้คนที่ถูกปรสิตกัดก็หายเป็นปลิดทิ้ง


  1. (PDF). p. 177 https://cuir.car.chula.ac.th/dspace/bitstream/123456789/28724/1/Wandee_po_back.pdf. {{cite web}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  2. (PDF). pp. 114, 118 https://cuir.car.chula.ac.th/dspace/bitstream/123456789/47900/1/Siriporn_Ki_back.pdf. {{cite web}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  3. (PDF). pp. 122–124 http://cuir.car.chula.ac.th/bitstream/123456789/62444/9/Wilawan_au_back_p.pdf. {{cite web}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)