นาซีเม ซุลตาน | |
---|---|
เจ้าหญิงแห่งออตโตมัน | |
นาซีเม ซุลตานขณะมีพระชันษา 10 ปี | |
ประสูติ | 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1866 คอนสแตนติโนเปิล จักรวรรดิออตโตมัน |
สิ้นพระชนม์ | ราว ค.ศ. 1947 (อายุ 80–81) จูนิเยะฮ์ ประเทศเลบานอน |
พระสวามี | อาลี ฮาลิด พาชา |
ราชวงศ์ | ออตโตมัน |
พระบิดา | สุลต่านอับดิวล์อาซิซ |
พระมารดา | ฮัยรานีดิล คาดึน |
ศาสนา | อิสลาม |
นาซีเม ซุลตาน (ตุรกีออตโตมัน: ناظمه سلطان) เป็นเจ้าหญิงออตโตมัน พระราชธิดาในสุลต่านอับดิวล์อาซิซ กับฮัยรานีดิล คาดึน
นาซีเม ซุลตานประสูติเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1866 ณ พระราชวังโดลมาบาห์เช เป็นพระราชธิดาในสุลต่านอับดิวล์อาซิซ (Abdülaziz) กับฮัยรานีดิล คาดึน (Hayranidil Kadın) นับเป็นพระราชธิดาลำดับที่สามของพระชนก และเป็นลำดับที่หนึ่งของพระชนนี พระองค์เป็นโสทรเชษฐภคินีของเคาะลีฟะฮ์อับดิวล์เมจิดที่ 2 (Abdülmecid)[1][2]
30 พฤษภาคม ค.ศ. 1876 สุลต่านอับดิวล์อาซิซ พระชนกนาถถูกคณะรัฐมนตรีปลดออกจากตำแหน่ง แล้วสถาปนามูรัดที่ 5 (V. Murad) ซึ่งเป็นพระภาติยะขึ้นเป็นสุลต่านแทน[3] วัดถัดมาสุลต่านอับดิวล์อาซิซจึงย้ายไปประทับที่พระราชวังเฟรีเย แต่ฮัยรานีดิลและสาวสรรกำนัลในคนอื่น ๆ ปฏิเสธที่จะออกจากพระราชวังโดลมาบาห์เช จึงถูกจับเพราะกระทำการกระด้างกระเดื่อง ทั้งหมดถูกคุมตัวไปยังพระราชวังเฟรีเย พร้อมถูกริบทรัพย์สินมีค่าไปหมด[4] กระทั่งวันที่ 4 มิถุนายนปีเดียวกัน[5] อดีตสุลต่านอับดิวล์อาซิซเสด็จสวรรคตอย่างมีเงื่อนงำ[6] ขณะที่นาซีเมมีพระชันษา 10 ปี พระองค์ยังคงประทับอยู่ในพระราชวังเฟรีเยร่วมกันพระชนนีและพระอนุชาที่ขณะนั้นมีพระชันษา 8 ปี[7]
ในรัชกาลสุลต่านอับดิวล์ฮามิตที่ 2 (İkinci Abdülhamit) ได้จัดพระราชพิธีเสกสมรสให้แก่เจ้านายฝ่ายในสามพระองค์คือ นาซีเม ซุลตาน, ซาลีฮา ซุลตาน และเอมีเน ซุลตาน[8] โดยพระองค์เสกสมรสกับอาลี ฮาลิด พาชา บุตรอีบราฮิม เดร์วิช พาชา เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1889 ณ พระราชวังยึลดึซ[2][1][9] แต่มิได้ประสูติกาลพระบุตรแม้แต่พระองค์เดียว
นาซีเม ซุลตานและพระภัสดาได้รับพระราชทานวังย่านคูรูเชชเมให้เป็นที่ประทับ ขนานนามว่าวังนาซีเม ซุลตาน[10] ภายในมีการจัดการแสดงดนตรีเกี่ยวกับศาสนา[11]
ครอบครัวของพระองค์ถูกส่งให้ลี้ภัยออกนอกประเทศเมื่อ ค.ศ. 1924 นาซีเมและพระสวามีได้ประทับที่เมืองจูนิเยะฮ์ ประเทศเลบานอน[9] ทั้งสองอาศัยอยู่ในพระตำหนักที่รายล้อมด้วยเรือกสวน[12] ระหว่างที่ลี้ภัยพระองค์มักประทานเครื่องเพชรต่าง ๆ ให้แก่พระภาติยะและภาคิไนยหลายพระองค์[12]
เนสลีชาห์ ซุลตาน พระภาติยะได้กล่าวถึงลักษณะของนาซีเม ซุลตานไว้ว่า มีพระวรองค์แบบบาง แต่มีพระโอษฐ์ใหญ่เช่นพระชนกดูค่อนข้างน่าเกลียด แต่พอดูรวม ๆ ก็งามน่าประทับใจ[12]
นาซีเม ซุลตานสิ้นพระชนม์เมื่อ ค.ศ. 1947 ที่เมืองจูนิเยะฮ์ ประเทศเลบานอน พระศพถูกฝังไว้มัสยิดสุลต่านเซลิม กรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย และอีกหนึ่งปีต่อมา อาลี ฮาลิด พาชาก็เสียชีวิตลงที่เมืองมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย[9]