ประยูร ภมรมนตรี | |
---|---|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข | |
ดำรงตำแหน่ง 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 – 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 (2 ปี 287 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | แปลก พิบูลสงคราม |
ก่อนหน้า | พระยาบริรักษ์เวชชการ |
ถัดไป | ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ | |
ดำรงตำแหน่ง 10 มีนาคม พ.ศ. 2485 – 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 (2 ปี 144 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | แปลก พิบูลสงคราม |
ก่อนหน้า | แปลก พิบูลสงคราม |
ถัดไป | ทวี บุณยเกตุ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 เบอร์ลิน จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 12 สิงหาคม พ.ศ. 2525 (85 ปี) เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
ศาสนา | พุทธ |
พรรคการเมือง | คณะราษฎร เสรีมนังคศิลา |
คู่สมรส | สุวรรณ ภมรมนตรี คุณหญิงราษี ภมรมนตรี จันทร์ทิพย์ ภมรมนตรี สมถวิล ภมรมนตรี เรณู ภมรมนตรี |
บุตร | 17 คน |
บุพการี | พระชำนาญคุรุวิทย์ (แย้ม ภมรมนตรี) แพทย์หญิงแอนเนลี ไฟร์ |
วิชาชีพ | ทหารบก, นักการเมือง |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ไทย |
สังกัด | กองทัพบกไทย |
ยศ | พลโท |
พลโท ประยูร ภมรมนตรี ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์[1] เป็นหนึ่งในคณะราษฎรชุดผู้ก่อการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 ฝ่ายพลเรือน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเหลนของพระยาราชมนตรี (ภู่ ภมรมนตรี) เสนาบดีพระคลังในรัชกาลที่ 3
นอกจากนี้ พลโทประยูรยังเป็นผู้เสนอจัดตั้งโรงแรมขนาดใหญ่ เพื่อรองรับความเจริญของกรุงเทพมหานคร หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อปี พ.ศ. 2496 และได้จดทะเบียนเป็นบริษัทของรัฐบาลไทย คือ บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด หรือ "โรงแรมเอราวัณ"[2]
พลโท ประยูร ภมรมนตรี เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 (นับแบบปัจจุบัน พ.ศ. 2441) ที่กรุงเบอร์ลิน จักรวรรดิเยอรมัน ขณะที่บิดารับราชการเป็นทูตทหารไทยประจำจักรวรรดิเยอรมัน เป็นบุตรของพันตรี พระชำนาญคุรุวิทย์ (แย้ม ภมรมนตรี) ทูตทหารประจำจักรวรรดิเยอรมัน กับแพทย์หญิงแอนเนลี ชำนาญคุรุวิทย์ หรือนามเดิม แอนเนลี ไฟร์ สตรีชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นครูสอนภาษาเยอรมันให้กับนักเรียนในจักรวรรดิเยอรมันขณะนั้น[3] มีพี่สาวคือ อำพันธ์ และอรุณวดี ภมรมนตรี ประยูรมีพี่ชายฝาแฝด ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิตทรงรับขวัญเมื่อยามเกิด โดยประทานชื่อให้ว่า "ประยงค์-ประยูร" คู่กัน[4] ต่อมาได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นนาคหลวง ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับข้าราชการอีกหลายคนเมื่อวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2463 ขณะนั้นพลโทประยูรมียศเป็นนายร้อยโท[5]
ประยูรสมรสครั้งแรกกับสุวรรณ ภมรมนตรี อดีตนางข้าหลวงในพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเทวีวิไลยวรรณ[6] มีบุตร 2 คน คือ
ต่อมาประยูรสมรสครั้งที่สองกับคุณหญิงราษี ภมรมนตรี (นามเดิม มากาเร็ต พิรัชโยธิน)[7] มีบุตร 3 คน คือ
ประยูรสมรสครั้งที่สามกับจันทร์ทิพย์ ภมรมนตรี มีบุตร 5 คน คือ
ประยูรสมรสครั้งที่สี่กับสมถวิล ภมรมนตรี (สกุลเดิม สุวรรณฑัต) มีบุตร 3 คน คือ
ประยูรสมรสครั้งที่ห้ากับเรณู ภมรมนตรี (สกุลเดิม พิบูลภานุวัฒน์) รองนางสาวไทย ประจำปี พ.ศ. 2491[6] มีบุตรอีก 4 คน ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วไป คือ
รับราชการเป็นมหาดเล็ก ตำแหน่ง รองหุ้มแพร (เทียบเท่ายศ ร้อยโท) ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยบิดาและมารดานำเข้าเฝ้าถวายตัวตั้งแต่เด็ก ๆ อายุเพียง 7-8 ขวบ พร้อมกับพี่ชายฝาแฝด[8] และเป็นข้าหลวง ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต แต่ต่อมาได้ลาออกจากราชการเพื่อไปศึกษาต่อด้านรัฐศาสตร์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ต่อมาหลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง พลโทประยูรขณะมียศเป็นนายร้อยโทก็ได้รับพระราชทานยศนายพันตรีเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2479[9]
พลโท ประยูร ภมรมนตรี เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2494[10] และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคเสรีมนังคศิลา ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500[11][12]
เคยเป็นรัฐมนตรีที่ไม่ประจำกระทรวง ในรัฐบาลชั่วคราว พ.ศ. 2494[13] และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในคณะรัฐมนตรีคณะต่อมา (ครม.24)[14]
ในการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 กล่าวได้ว่าประยูรเป็นหนึ่งในสองสมาชิกผู้ก่อตั้งคณะราษฎร ร้อยโทประยูรไปศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศสในเวลาเดียวกับหลวงประดิษฐ์มนูธรรม [15] โดยก่อนจะเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศส ร้อยโทประยูรได้ทำการรักษาตัวจากวัณโรคจนหายดีแล้วที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้วจึงเดินทางไปปารีส ซึ่งเป็นเมืองที่จะเข้ารับการศึกษา ได้แวะเดินทางเข้าสู่เมืองลียงเพื่อพบกับควง อภัยวงศ์ เพื่อนนักเรียนไทยในประเทศฝรั่งเศส เพื่อที่ควงจะแนะนำประยูรให้รู้จักกับปรีดีโดยจดหมายแนะนำตัว เพราะปรีดีขณะนั้นเป็นเสมือนผู้นำของนักเรียนไทยในประเทศฝรั่งเศส ทั้งคู่จึงได้รู้จักกันและคบหากันจนสนิทสนมกันในที่สุด อีกทั้งในการประชุมครั้งแรกของคณะราษฎร ที่บ้านพักเลขที่ 9 ถนนซอมเมอราร์ด กรุงปารีส ที่ติดต่อกันนานถึง 4 คืน 5 วัน ในต้นปี พ.ศ. 2470 นั้นก็เป็นบ้านพักของประยูรเอง และเริ่มต้นการประชุมในวันครบรอบวันเกิดปีที่ 30 ของพลโทประยูรอีกด้วย [16]
ในระหว่างที่คณะราษฎรทั้งหมดได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทย ร้อยโทประยูรยังได้เป็นผู้ที่ชักชวนและประสานกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่และบุคคลอื่น ๆ ให้มาเข้าร่วมด้วยกับคณะราษฎร[3] และเมื่อมีการวางแผนการปฏิวัติ ทั้งหมดก็ได้หารือแผนการทั้งหมดที่บ้านพักของ พลโทประยูรบ้าง และบ้านพักของพระยาทรงสุรเดชบ้าง สลับกันไป โดยในเช้าวันที่ทำการเปลี่ยนแปลงนั้น ร้อยโทประยูรรับหน้าที่ตัดสายโทรศัพท์และสายโทรเลข ที่สำนักงานใหญ่กรมไปรษณีย์โทรเลข เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า ฝั่งพระนคร โดยปฏิบัติการคู่กับนายควง อภัยวงศ์ ในฐานะที่ทั้งคู่รับราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลข จึงถือเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มกันตั้งแต่เวลา 04.00 น. และต้องให้เสร็จทันในเวลา 05.00 น. ท่ามกลางการคุ้มครองของทหารเรือและพลเรือนกลุ่มหนึ่งของคณะราษฎรราว 10 คนเท่านั้น[17] และจากนั้น ร้อยโทประยูรยังเป็นผู้ทำการควบคุมองค์ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ซึ่งเสด็จจากวังบางขุนพรหมในฐานะองค์ประกัน ภายใต้การควบคุมของ พันโทพระประศาสน์พิทยายุทธ ให้เข้าประทับยังพระที่นั่งอนันตสมาคมด้วย ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงมีปฏิสันธานบางประการกับ ร้อยโทประยูรด้วยถึงการกระทำในครั้งนี้ [18]
จากนั้น ร้อยโทประยูรก็ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการราษฎรและยังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ในเวลาต่อมาอีกหลายกระทรวงด้วยกัน
ในเหตุการณ์ที่พระยามโนปกรณ์นิติธาดา มีความเห็นแย้งเรื่องเค้าโครงเศรษฐกิจที่นำเสนอโดยหลวงประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งทำให้พระยามโนปกรณ์ ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีปิดรัฐสภาและงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 นั้น มีสมาชิกคณะราษฎรสนับสนุนพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เช่น พระยาทรงสุรเดช, พระยาฤทธิอัคเนย์ และพระประศาสน์พิทยายุทธ มีชื่อของร้อยโทประยูรร่วมอยู่ด้วย[19]
พลโท ประยูร ภมรมนตรี ถึงแก่อนิจกรรมจากการถูกรถโดยสารประจำทางสาย 204 เฉี่ยวเสียหลักล้มลง ขณะเดินอยู่ในซอย แถวสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2525 รวมอายุ 85 ปี มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร