พรรครวมไทยสร้างชาติ (อังกฤษ: United Thai Nation Party; อักษรย่อ: รทสช.[2]) เป็นพรรคการเมืองไทยที่จดทะเบียนจัดตั้งพรรคขึ้นโดยเสกสกล อัตถาวงศ์ ในปี พ.ศ. 2564 โดยนำชื่อมาจากวลีที่คิดขึ้นโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยเข้าร่วมพรรคนี้ในช่วงปี พ.ศ. 2566 ปัจจุบันมีพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค และเอกนัฏ พร้อมพันธุ์เป็นเลขาธิการพรรค
พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองไทยที่จดทะเบียนก่อตั้งเป็นลำดับที่ 5/2564 เมื่อวันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 มีที่ทำการพรรคแห่งแรกอยู่ที่ 169/98 อาคารเสริมทรัพย์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร[3] มีเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นผู้ก่อตั้ง[4] โดยส่งทีมงานของตนไปจดทะเบียนชื่อกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำชื่อไปใช้ เนื่องจากชื่อพรรคเป็นวลีที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งชื่อขึ้นด้วยตนเอง[5] และประกาศเป็นชื่อภารกิจในการฟื้นฟูประเทศของตนหลังประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทยในระลอกแรกได้เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563[6] รวมถึงมักใช้เป็นแฮชแท็กท้ายโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตน และปรากฏอยู่ในชื่อกิจกรรมที่จัดโดยหน่วยงานของรัฐบาลในขณะนั้นอีกด้วย[7]
ต่อมา พรรครวมไทยสร้างชาติได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อวันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ ตราสัญลักษณ์ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ (มาอยู่ที่ 35/3 ซอยอารีย์ 5 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร) และเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารของพรรคชุดใหม่จำนวน 9 คน ประกอบด้วยพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นเลขาธิการพรรค, ปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิกพรรค, เกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนสมาชิกพรรค และกรรมการบริหารอื่น ประกอบด้วย ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง, วิทยา แก้วภราดัย, ชื่นชอบ คงอุดม, วิสุทธิ์ ธรรมเพชร และเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ โดยพีระพันธุ์ได้กล่าวปราศรัยในการประชุมใหญ่เกี่ยวกับทิศทางการทำงานของพรรคซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้มีอุดมการณ์ที่จะทำงานเพื่อบ้านเมืองแบบเดียวกัน และชูวิสัยทัศน์ที่จะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันในสังคม[8]
ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2565 เกิดความขัดแย้งระหว่างพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเมื่อครั้งได้รับเสนอชื่อในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ กับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ[9] จนกระทั่งพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อพลเอกประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี พ.ศ. 2566[10] ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565 พลเอกประยุทธ์จึงกล่าวกับสื่อมวลชนว่าตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และพร้อมรับการเสนอชื่อจากสมาชิกพรรคดังกล่าวเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ในการเลือกตั้งครั้งเดียวกัน[11] ต่อมา เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งขณะนั้นได้ย้ายไปก่อตั้งและเป็นหัวหน้าพรรคเทิดไท ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค และกลับมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ[12]
พรรครวมไทยสร้างชาติได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2566 ในชื่อ "รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ" ในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2566 ณ โถงนิทรรศการ 1 และ 2 ชั้น G ภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พลเอกประยุทธ์และรัฐบาลเคยใช้จัดการประชุมเอเปค 2022 จนประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้[13][14][15][16] โดยส่วนหนึ่งได้มีนักการเมืองที่เคยสังกัดพรรคการเมืองต่าง ๆ เช่น พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคพลังท้องถิ่นไท เป็นต้น เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย[17] ทั้งนี้ ในงานดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ได้สมัครเป็นสมาชิกตลอดชีพของพรรค และได้กล่าววิสัยทัศน์ต่อหน้าสมาชิกพร้อมด้วยผู้สนับสนุนพรรค[18] เขากล่าวถึงนโยบายของพรรค ได้แก่ การปรับปรุงกฎหมาย ลดค่าครองชีพของประชาชน และเสริมสร้างความสามัคคีภายในชาติ[19]
มีนักการเมืองและบุคคลมีชื่อเสียงเปิดตัวและสมัครสมาชิกพรรค เช่น ชัชวาลล์ คงอุดม,[20] เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์,[21][22], ธนกร วังบุญคงชนะ[23][24], อนุชา บูรพชัยศรี[25], สุชาติ ชมกลิ่น[26], ไตรรงค์ สุวรรณคีรี, ชุมพล กาญจนะ[27], เสกสรร ชัยเจริญ[28][29], ทิพานัน ศิริชนะ, มินทร์ ลักษิตานนท์, ศุข ศักดิ์ณรงค์เดช[30], รังสิมา รอดรัศมี , ยศวริศ ชูกล่อม[31], พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล[32] อนุชา นาคาศัย[33] ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์[34] และนิโรธ สุนทรเลขา[35] อนึ่ง ส.ส. บางส่วนได้ลาออกเพื่อมาสมัครสมาชิกกับ รทสช. ด้วย
เวลาต่อมา บุญญาพร นาตะธนภัทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ ซึ่งถูกขับจากพรรครวมแผ่นดินมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยถือว่าเป็น ส.ส. คนแรกของพรรคที่ทำหน้าที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร โดยเข้ามาพร้อมกับกุสุมาลวตี ศิริโกมุท และพิพิธ รัตนรักษ์[36] หลังจากนั้น สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคพลเมืองไทย ได้ตัดสินใจย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมกับศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ บุตรสาวซึ่งเป็น ส.ส. คนเดียวของพรรคพลเมืองไทยด้วย ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติมี ส.ส. ทั้งสิ้น 2 คน[37]
ในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคโดยมีพลเอกประยุทธ์เข้าร่วม ซึ่งที่ประชุมได้แต่งตั้งให้พลเอกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม[38] วันที่ 1 มีนาคม พรรคได้จัดงานทำบุญพรรคและเปิดตัวสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ อาทิ ไพโรจน์ ตันบรรจง, วัฒนา สิทธิวัง, วัชระ ยาวอหะซัน, สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล, เจือ ราชสีห์, ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข และเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข, ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู, ชุมพล จุลใส และสุพล จุลใส และสินธพ แก้วพิจิตร[39] ก่อนหน้านั้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ได้มีการเปิดตัวสมาชิกพรรคอาทิ พลตรีนายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา, พันตำรวจโท ฐนภัทร กิตติวงศา, ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์, รณเทพ อนุวัฒน์ และสาธิต อุ๋ยตระกูล[40] ในวันที่ 16 มีนาคม ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส. อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ ได้จัดแถลงข่าวที่รัฐสภาประกาศว่าหลังจากมีการประกาศยุบสภาแล้วจะลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อชาติเพื่อย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ[41] ต่อมาในวันที่ 20 มีนาคม เกรียงไกร จงเจริญ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย เขตบางแค[42] ได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ[43] และในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติได้เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ พร้อมด้วยที่ปรึกษา เพื่อรองรับการเลือกตั้ง โดยมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคือหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทยในขณะนั้น และมีสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ[44]
ต่อมาในวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติได้จัดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2566 ที่โถงนิทรรศการ 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค[45] จากนั้นได้ทำการเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตทั้ง 400 คน และเปิดตัวพลเอกประยุทธ์ในฐานะผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคในลำดับที่ 1 ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ยังประกาศให้พีระพันธุ์เป็นผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคในลำดับที่ 2 เพื่อรองรับในกรณีที่พลเอกประยุทธ์ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งจะหมดวาระและต้องพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2568[46] ส่งผลให้ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติมีผู้สมัครนายกรัฐมนตรีของพรรคจำนวน 2 คน[47]
จากนั้นในวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติได้แต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคจำนวน 4 คน ประกอบด้วย สุชาติ ชมกลิ่น, ธนกร วังบุญคงชนะ, อนุชา บูรพชัยศรี และเสกสกล อัตถาวงศ์ โดยมีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2566[48]
ภายหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้ว ในวันที่ 30 มิถุนายน พรรครวมไทยสร้างชาติได้เปิดตัวทีมโฆษกพรรคชุดแรก ซึ่งเน้นที่กลุ่มบุคคลรุ่นใหม่ของพรรคเป็นหลัก ประกอบด้วย อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ เป็นโฆษกพรรค, ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา, พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ และ รัดเกล้า สุวรรณคีรี เป็นรองโฆษกพรรค โดยมีที่ปรึกษาทีมโฆษกคือเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ , ธนกร วังบุญคงชนะ และ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ[49] และในวันเดียวกัน พีระพันธุ์ซึ่งเป็นว่าที่ สส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ได้ลาออกจาก สส. เพื่อความสะดวกในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง[50] ส่งผลให้อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ผู้ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และรองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 14 ของพรรค ได้รับการเลื่อนลำดับขึ้นเป็นว่าที่ สส. แทน[51]
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม เฟซบุ๊กของพรรคได้ออกแถลงการณ์ของพลเอกประยุทธ์ โดยระบุว่าขอประกาศวางมือทางการเมืองและลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้พ้นจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรคไปโดยปริยาย[52] จากนั้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม เสกสกลซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพรรคได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีผลทันที ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไปโดยปริยาย[53] และต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ชินภัสร์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากเห็นว่าพรรคยังทำงานแบบเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงระบบภายใน โดยมีผลทันที ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคไปโดยปริยาย[54]
ลำดับที่ | ชื่อ | เริ่มดำรงตำแหน่ง | สิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1 | ว่าที่ร้อยโท ไกรภพ นครชัยกุล | 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 | 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 | |
ประจง ประสานฉ่ำ | 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 | 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 | รักษาการหัวหน้าพรรค | |
2 | ธัญย์ธรณ์เทพ แย้มอุทัย | 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 | 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 | |
ธนดี หงษ์รัตนอุทัย | 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 | 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565 | รักษาการหัวหน้าพรรค | |
3 | พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค | 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565 | ปัจจุบัน |
ลำดับที่ | ชื่อ | เริ่มดำรงตำแหน่ง | สิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1 | วาสนา คำประเทือง | 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 | 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 | รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการพรรค |
2 | ธนดี หงษ์รัตนอุทัย | 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 | 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565 | รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าพรรค |
3 | เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ | 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565 | ปัจจุบัน |
ลำดับที่ | ชื่อ | ตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค | หัวหน้าพรรค |
2 | เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ |
|
3 | ปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ | เหรัญญิกพรรค |
4 | เกรียงยศ สุดลาภา | นายทะเบียนสมาชิกพรรค |
5 | วิทยา แก้วภราดัย | รองหัวหน้าพรรค |
6 | วิสุทธิ์ ธรรมเพชร | |
7 | เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ | |
8 | ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง | |
9 | ชื่นชอบ คงอุดม |
ลำดับที่ | ชื่อ | ตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | สุชาติ ชมกลิ่น | รองหัวหน้าพรรค |
2 | ธนกร วังบุญคงชนะ |
|
3 | อนุชา บูรพชัยศรี | รองหัวหน้าพรรค |
4 | จุติ ไกรฤกษ์ | |
5 | สยาม บางกุลธรรม | รองเลขาธิการพรรค |
6 | อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ | โฆษกพรรค |
7 | พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ | รองโฆษกพรรค |
8 | รัดเกล้า สุวรรณคีรี | |
9 | ไตรรงค์ สุวรรณคีรี | ประธานที่ปรึกษาพรรค |
10 | ปรีชา มุสิกุล | ที่ปรึกษาพรรค |
11 | ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ | ที่ปรึกษาทีมโฆษกพรรค |
ลำดับที่ | ชื่อ | ตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ลาออก)[52] | ประธานกรรมการ |
2 | พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค | รองประธานกรรมการ |
3 | ไตรรงค์ สุวรรณคีรี | กรรมการ |
4 | พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง | |
5 | ชัชวาลล์ คงอุดม | |
6 | ชุมพล กาญจนะ | |
7 | วิทยา แก้วภราดัย | |
8 | สุชาติ ชมกลิ่น | |
9 | อนุชา บูรพชัยศรี | |
10 | วิสุทธิ์ ธรรมเพชร | |
11 | พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว | |
12 | เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ | กรรมการและเลขานุการ |
การเลือกตั้ง | จำนวนที่นั่ง | คะแนนเสียงทั้งหมด | สัดส่วนคะแนนเสียง | ที่นั่งเปลี่ยน | ผลการเลือกตั้ง | ผู้นำเลือกตั้ง |
---|---|---|---|---|---|---|
2566 | 36 / 500
|
4,766,408 | 12.06% | ![]() |
ร่วมรัฐบาล | ประยุทธ์ จันทร์โอชา |
ก่อนการเลือกตั้ง ปี พ.ศ. 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติได้เผยแพร่วีดีโอของทางพรรค ซึ่งมีเนื้อหาเสียดสีนโยบายพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ในส่วนของเนื้อหานั้นประกอบด้วย อนุสาวรีย์ประธิปไตยที่ถูกปิดด้วยแผ่นผ้าประท้วง ลูกชายต่อว่ามารดาว่าทำไมไม่โหวตเลือกอาหารที่จะทาน ลูกสาวที่กลายเป็นผู้ให้บริการคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ และข้าศึกประชิดชายแดนที่ไร้การป้องกัน เพราะยกเลิกเกณฑ์ทหาร โดยทางพรรคอธิบายถึงเหตุผลการผลิตและเผยแพร่คลิปนี้ว่า หลายฉากในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และเป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นจริง ซึ่งถูกวิพากย์วิจารณ์ว่าเป็นการปลุกเร้าให้เกิดความเกลียดแบบสุดขั้ว และสะท้อนช่วงเวลาของความสิ้นหวัง และหากทางพรรคยังใช้การเมืองแห่งอารมณ์เหมือนการปล่อยคลิปดังกล่าวอีก จะเป็นวิธีการที่ล้าหลังและสุ่มเสี่ยงมากในระยะยาว ในประเทศไทยที่มีประวัติศาสตร์การแบ่งขั้วมายาวนาน เพราสื่อว่า ต้องแตกหักกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีสำหรับสังคมประชาธิปไตยที่อยากจะหาวิธีการอยู่กันอย่างสันติ[55]
15 มิถุนายน พ.ศ. 2566 มีเอกสารที่นำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ครั้งที่ 1 ปรากฏว่ามี ว่าที่ ส.ส. ที่ประกาศผลรับรอง 329 คน ขณะที่มี 71 เขต ที่มีเรื่องร้องคัดค้าน มีรายงานว่า เอกสารดังกล่าวอาจเป็นเอกสารสรุปของฝ่ายปฏิบัติการ แจ้งเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ที่ยังไม่ได้นำเสนอต่อที่ประชุม กกต.[56] โดยพรรครวมไทยสร้างชาติถูกร้องคัดค้านทั้งสิ้น 3 คน ดังนี้
ลำดับ | รายชื่อ สส. | เขตที่ลงเลือกตั้ง |
---|---|---|
1 | พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล | นครศรีธรรมราช เขต 10 |
2 | พงษ์มนู ทองหนัก | พิษณุโลก เขต 3 |
3 | พิพิธ รัตนรักษ์ | สุราษฎร์ธานี เขต 2 |
แต่ถึงกระนั้น กกต. ก็ประกาศรับรอง สส. ทั้ง 500 คนก่อน โดยได้ชี้แจงว่าจะดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)