พระกกุสันธพุทธเจ้า | |
---|---|
พระกกุสันธพุทธเจ้า จิตรกรรมฝาผนังของวัดหอเชียง เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว | |
สันสกฤต | क्रकुच्छंद |
บาลี | กกุสันธพุทฺธ |
พม่า | ကကုသန် (Kakusandha) |
จีน | 拘留孙佛 |
ญี่ปุ่น | 拘留孫 (Kuruson) |
เกาหลี | 구류손불 |
มองโกเลีย | Кракучандра |
ไทย | พระกกุสันธพุทธเจ้า |
ทิเบต | Khorvadjig |
เวียดนาม | Phật Câu Lưu Tôn |
ข้อมูล | |
นับถือใน | เถรวาท, มหายาน, วัชรยาน |
สถานีย่อยพระพุทธศาสนา |
พระกกุสันธพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 22 ในพุทธวงศ์ แต่เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกในภัทรกัปนี้
พระกกุสันธพุทธเจ้าเสด็จอุบัติในตระกูลพราหมณ์ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่าอัคคิทัตต์ ส่วนพระพุทธมารดาคือนางวิสาขาพราหมณี พระองค์ทรงมีปราสาทอันประเสริฐ 3 หลัง ชื่อกามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ มีพระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า "โรปินี" มีพระโอรสพระนามว่า "อุดร" มีนางสนมนารีกำนัลใน 3 หมื่น ทรงครองเพศฆราวาสวิสัยอยู่ 4 พันปี เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ทรงทำความเพียรอยู่ 8 เดือนจึงสำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิยาน ณ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) หลังจากตรัสรู้แล้ว ประทับอยู่ที่ใต้โพธิพฤกษ์ ได้ทรงประกาศพระธรรมจักรอันยอดเยี่ยมที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันใกล้ลัมกิลนคร[1] ทรงแสดงธรรมครั้งใหญ่ ๆ 3 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 สัตว์ 40,000 โกฏิ เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จไปแสดงธรรมโปรดภิกษุ 40,000 รูปที่บวชตามพระองค์แล้ว ยังภิกษุเหล่านั้นให้บรรลุพระอรหันต์
ครั้งที่ 2 สัตว์ 30,000 โกฏิ เมื่อคราวที่พระองค์ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ เพื่อย่ำยีความมัวเมา และมานะของพวกเดียรถีย์ ณ โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูกัณณกุชชนคร
ครั้งที่ 3 สัตว์หาประมาณมิได้ เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จไปแสดงธรรมโปรดนรเทพยักษ์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่เทวาลัยแห่งหนึ่ง ใกล้เขมวดีนคร แล้วประกาศจตุราริยสัจแก่มหาชน
ทรงมีการประชุมพระสงฆ์สาวกขีณาสพ ผู้ปราศจากมลทิน ผู้สงบ ผู้คงที่ ครั้งเดียวเท่านั้น มีพระสงฆ์สาวกขีณาสพ 4 หมื่นรูป เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จไปประกาศพระธรรมจักร แก่ภิกษุผู้ที่บวชตามพระองค์ ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้ลัมกิลนคร จนสำเร็จพระอรหันต์ทุกรูป แล้วทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์สาวกขีณาสพ ในวันเพ็ญเดือนมาฆมาส พระองค์มีพระวิธูรเถระและพระสัญชีวเถระเป็นพระอัครสาวก พระพุทธิชเถระเป็นพุทธอุปัฏฐาก พระสามาเถรีและพระจัมปาเถรีเป็นคู่พระอัครสาวิกา อัจจุคคคอุบาสกและสุมนอุบาสกเป็นคู่อัครอุบาสก นันทาอุบาสิกาและสุนันทาอุบาสิกาเป็นคู่อัครอุบาสิกา พระองค์มีพระวรกายสูง 40 ศอก มีพระรัศมีสีทอง แผ่ซ่านออกจากพระวรกายของพระองค์ สว่างไสวไปได้ 11 โยชน์โดยรอบ มีพระชนมายุได้ 40,000 ปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวกขีณาสพทั้งหลายที่เขมารามวิหาร พระสถูปของพระองค์ สูงจรดฟ้าประมาณคาวุตหนึ่ง ประดิษฐานอยู่ ณ เขมารามวิหาร พระศาสนาของพระองค์ดำรงอยู่ 4 หมื่นปี จึงอันตรธานไป
ในสมัยพระกกุสันธพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้าในปัจจุบันได้เสด็จอุบัติในตระกูลกษัตริย์พระนามว่า เขมะ ในเขมวดีนคร ได้ถวายบาตรและจีวรเป็นมหาทาน และถวายเภสัชทุกอย่าง มียาหยอดตาเป็นต้น พร้อมด้วยสมณบริขารอย่างอื่นอีกเป็นจำนวนมาก แก่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระองค์ แล้วมีพระหฤทัยเลื่อมใส ได้ตั้งมั่นอยู่ในสรณคมน์ และเบญจศีลอย่างมั่นคง ในเวลาสิ้นสุดแห่งการถวายมหาทาน พระพุทธองค์ทรงทำการอนุโมทนา แล้วได้พยากรณ์ว่า
"ในอนาคตกาล ในภัทรกัปนี้แล พระเจ้าเขมราชพระองค์นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลกเหมือนดั่งตถาคต มีนามว่า พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า"
พระองค์ได้ฟังพุทธพยากรณ์นั้นแล้ว ก็ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง เมื่อจะยังประโยชน์นั้นให้สำเร็จ จึงได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมีให้ยิ่งขึ้นไป ทรงบริจาคราชสมบัติทั้งหมดไว้ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ แล้วผนวชในสำนักของพระพุทธเจ้า ทรงยังพระศาสนาของพระชินเจ้าพระองค์นี้ให้งดงามแล้ว ทรงเป็นผู้ไม่ประมาทเจริญพรหมวิหารภาวนา จนได้สำเร็จอภิญญา[1] เมื่อสิ้นอายุขัยจึงได้ไปบังเกิดเป็นพรหมครองพรหมโลก
ก่อนหน้า | พระกกุสันธพุทธเจ้า | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเวสสภูพุทธเจ้า (๖๐,๐๐๐ ปี) |
พระพุทธเจ้าในอดีต องค์ที่ ๒๕ (๔๐,๐๐๐ ปี) |
พระโกนาคมนพุทธเจ้า (๓๐,๐๐๐ ปี) |