พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 5
พระองค์เจ้าชั้นเอก
ประสูติ31 ตุลาคม พ.ศ. 2432
สิ้นพระชนม์18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 (45 ปี)
ราชวงศ์จักรี
พระบิดาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระมารดาเจ้าจอมมารดาแส ในรัชกาลที่ 5

ระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา[1] (31 ตุลาคม พ.ศ. 2432 – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478) ชาววังออกพระนามว่า เสด็จพระองค์หญิงขาว เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแส เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 12 ขึ้น 8 ค่ำ ปีฉลู เอกศก จ.ศ. 1251 ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2432

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา มีพระโสทรเชษฐาและพระโสทรขนิษฐา 2 พระองค์ คือ

พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา เป็นพระราชธิดาซึ่งเป็นที่สนิทสิเนหาและได้รับพระเมตตากรุณาจากสมเด็จพระบรมชนกนาถพระปิยมหาราชเป็นอันมาก เมื่อมีพระชันษาครบกำหนดโสกันต์ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพิธีโสกันต์ตามพระราชประเพณี และให้ทรงศึกษาวิชาหนังสือไทยบ้าง ฝรั่งบ้าง ประกอบทั้งการฝีมือเย็บปักถักร้อย ด้วยเหตุนี้พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชาจึงได้เป็นนักศึกษา มีวิชาความรู้ทันสมัย มีพระจริยามารยาทงดงาม พระทัยโอบอ้อมอารี และได้ทรงประกอบความดีไว้หลายประการ เป็นต้นว่า

  • ในพระพุทธศาสนา ทรงบำเพ็ญพระกุศลเป็นเนืองนิจได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดมัชฌันติการาม อำเภอ บางซื่อ จังหวัดพระนครซึ่งเจ้าจอมมารดาเที่ยง ในรัชกาลที่ 4 ได้สร้างไว้ และเป็นวัดของสกุลโรจนดิศ และถวายจตุปัจจัยแก่วัดนั้นเกือบทุกปี ได้ทรงบวชกุลบุตรที่มีศรัทธาจะบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาเมื่อทรงสงเคราะห์ให้ได้บวชแล้ว ก็ถวายนิจภัตต์ ประจำเดือนด้วยใครมาเรี่ยไรทำการอันใดเกี่ยวกับการศาสนาก็มักไม่ได้กลับไปมือเปล่าคงทรงร่วมการกุศลด้วยเสมอ
  • ในทางพยาบาล ก็ได้ทรงออกเงินช่วยเหลือเนือง ๆ เมื่อเจ้าจอมมารดาแสของพระองค์ท่านถึงอสัญกรรมแล้ว ก็ได้ทรงอุทิศเงินตั้งเป็นทุนไว้ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วยพระขนิษฐา เรียกว่า “ทุนพระธิดาเจ้าจอมมารดาแส” และทรงเพิ่มเติมทุนนั้นเกือบทุกปี
  • ในทางการศึกษา ทรงเก็บเงินตั้งโรงเรียนขึ้นในที่ส่วนพระองค์ ทรงยกตึก 2 ชั้น ที่เคยประทับอยู่นั้นให้เป็นโรงเรียน ภายหลังเสด็จออกไปจากสวนสุนันทา ซึ่งแต่ก่อนเคยไปประทับที่ตึกนั้นก็ไม่ได้ประทับ ไปประทับในเรือนเล็ก ๆ มอบตึกใหญ่ให้เป็นโรงเรียน โรงเรียนนี้เมื่อตั้งมาหลายปีก็เจริญยิ่งขึ้นโดยลำดับ เสนาบดีกระทรวงธรรมการครั้งนั้นเห็นว่าจะเป็นโรงเรียนที่ถาวรมั่นคงต่อไป เพราะมีนักเรียนถึง 400 เศษ และตั้งอยู่ในย่านตำบลที่ไม่มีโรงเรียนสตรี จึงได้ประทานนามว่าโรงเรียน “ขัตยาณีผะดุง” ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นโรงเรียน “อภันตรีผะดุง” ในพระนามของพระองค์ เพราะได้ทรงออกทุนรอนตั้งขึ้น และทรงทำนุบำรุงมาช้านาน
  • ในทางช่วยเหลือประเทศในยามคับขัน ก็ได้ทรงกระทำโดยการซื้อใบกู้ของรัฐบาลสยามด้วยพระองค์เอง และทรงแนะนำชักชวนให้ผู้อื่นซื้อใบกู้อีกเป็นจำนวนไม่น้อย

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา ได้ประชวรพระโรควักกะประมาณ 25 ปี มีพระอาการมากบ้างน้อยบ้างตลอดมา ครั้นถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2477 ก็เริ่มมีพระอาการมากขึ้น ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันมีพระอาการประชวรไข้หวัดใหญ่และการอักเสบที่พระทนต์และพระศอเข้าผสม พระอาการทางไตก็กำเริบขึ้นโดยลำดับ จนเป็นเหตุสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 8 เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 4 ขึ้น 5 ค่ำ ปีระกา เบญจศก จ.ศ. 1295 ตรงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 สิริพระชันษา 45 ปี

พระเกียรติยศ

[แก้]
ธรรมเนียมพระยศของ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา
ธงประจำพระอิสริยยศ
การทูลใต้ฝ่าพระบาท
การแทนตนข้าพระพุทธเจ้า
การขานรับพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ

พระราชอิสริยยศ

[แก้]
  • พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา (31 ตุลาคม พ.ศ. 2432 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453)
  • พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468)
  • พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา (26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2477)
  • พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา (2 มีนาคม พ.ศ. 2477 - 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

ราชตระกูล

[แก้]
พระราชตระกูลในสามรุ่นของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา
พระชนก:
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระอัยกาฝ่ายพระชนก:
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ
กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
หม่อมน้อย
พระชนนี:
เจ้าจอมมารดาแส ในรัชกาลที่ 5
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี:
พระยาอัพภันตริกามาตย์
(ดิศ โรจนดิศ)
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
จมื่นอินทร์ประพาส (เลี้ยง)
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ท้าวมังสี (ขำ)
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ขรัวยายบาง
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
ไม่ทราบ
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ไม่ทราบ

อ้างอิง

[แก้]
  1. ในหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงพระศพ ระบุพระนาม พระองค์เจ้าอภันตรีปชา [1]
  2. "การพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับตระกูลจุลจอมเกล้า และถวายบังคมพระบรมรูป เนื่องในวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกครั้งหลัง ตามสุริยคติ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 16 (ตอน 34): หน้า 499. 19 พฤศจิกายน ร.ศ. 118. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  3. "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๕ ฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 28 (ตอน 0 ง): หน้า 1887. 26 พฤศจิกายน ร.ศ. 130. สืบค้นเมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  4. "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบัน ฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 29 (ตอน 0 ง): หน้า 2445. 22 มกราคม ร.ศ. 131. สืบค้นเมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  5. "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 43 (ตอน 0 ง): หน้า 3116. 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)