บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล | |
---|---|
พระเจ้าวรวงศ์เธอ ชั้น 5 พระองค์เจ้าชั้นโท | |
![]() | |
ประสูติ | 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 |
สิ้นพระชนม์ | 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 (84 ปี) |
พระราชทานเพลิง | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส |
หม่อม | |
พระบุตร | |
ราชสกุล | ยุคล |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ |
พระมารดา | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล |
ศาสนา | พุทธ |
ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยศิลปากร | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2492 – 2494 | |
ก่อนหน้า | ศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) |
ถัดไป | ศาสตราจารย์ หลวงรณสิทธิพิชัย (เจือ กาญจนิทุ) |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ![]() |
แผนก/ | กองทัพไทย |
ชั้นยศ | ![]() ![]() ![]() |
พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล หรือ พระองค์ชายใหญ่ (27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 – 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538) เป็นพระโอรสองค์โตใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล และยังเป็นพระภาดา (ลูกพี่ลูกน้อง)ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นอกจากนี้ยังเป็นพระอัยกาฝ่ายพระมารดา(ตา)ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ รวมถึงยังเป็นพระปัยกา (ทวด) ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับละครและภาพยนตร์ ทรงพระนิพนธ์เรื่องและคำร้องเพลงประกอบหลายเรื่อง เป็นผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารไทยทนุ เมื่อปี พ.ศ. 2492 และโปรดการสะสมโบราณวัตถุ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ประสูติเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล มีพระอนุชา 2 พระองค์ คือ
พระบิดาเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี และ เจ้าจอมมารดาจีน พระองค์ทรงเป็นพระอรรคชายาเธอและมีศักดิ์เป็นพระภาติยะ(หลานอา)ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และส่วนพระมารดามีศักดิ์เป็นพระภาติยะ(หลานลุง)ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเป็นพระธิดาในสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระโสทรอนุชา(น้องชาย)ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เริ่มแรกทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ แล้วเสด็จไปทรงศึกษาที่โรงเรียนแฮร์โรว์ (Harrow School) ประเทศอังกฤษ แล้วเสด็จกลับมาทรงศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก
ทรงรับราชการที่กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ และทรงดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2500 - 2502[2]
ปี พ.ศ. 2473 ทรงเป็นนาคหลวง วันที่ 2 กรกฎาคม ทรงรับสมโภช ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันต่อมาเวลา 17.00 น. จึงบรรพชาและอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นพระศีลาจารย์ แลสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น สุจิตฺโต)เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เวลา 18.40 น. เสด็จโดยรถม้าพระที่นั่งไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร[3]
ในรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ในหลายประเทศ โปรดการละครและภาพยนตร์ ทรงเป็นผู้อำนวยการสร้างและกำกับภาพยนตร์หลายเรื่อง ในด้านดนตรีโปรดนิพนธ์คำร้องเพลงต่าง ๆ หลายเพลง อาทิ เพลงบัวขาว เพลงเรือนแพ เพลงลมหวน อีกทั้งโปรดการสะสมโบราณวัตถุด้วย
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 พระชันษา 85 ปี ในการนี้พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศกุดั่นใหญ่ ทรงพระศพ ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร[4] และในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พุทธศักราช 2539 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ไปในการพระราชทานเพลิงพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร[5][6]
ภายหลังสิ้นพระชนม์ ในปี พ.ศ. 2559 กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศยกย่องเชิดชูพระเกียรติ ศาสตราจารย์ พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เป็น "บูรพศิลปิน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สาขาศิลปะการแสดง" โดยมีการเชิดชูเกียรติศิลปินผู้ล่วงลับ ซึ่งมีคุณูปการต่องานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติอันเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม ควรค่าแก่การเคารพยกย่องซึ่งอนุชนรุ่นต่อมาได้พัฒนาและสืบทอดให้เจริญก้าวหน้ามาจนปัจจุบัน ซึ่งในโอกาสดังกล่าวสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อสำหรับศิลปินผู้ล่วงลับว่า “บูรพศิลปิน”[7]
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เสด็จแทนพระองค์ไปในพระราชพิธีสำคัญ ณ ต่างประเทศ ได้แก่
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลทรงจดทะเบียนสมรสกับหม่อมหลวงสร้อยระย้า ยุคล (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์; 4 ตุลาคม พ.ศ. 2452 – 28 ธันวาคม พ.ศ. 2527) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2475 และมีหม่อมคือ บุญล้อม ฐานะวร (สกุลเดิม นาตระกูล; 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455 – 19 มกราคม พ.ศ. 2517) และปริม บุนนาค (13 กันยายน พ.ศ. 2466 – 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564) ต่อมาหม่อมหลวงสร้อยระย้าถึงแก่อนิจกรรม พระองค์ทรงจดทะเบียนสมรสใหม่กับหม่อมไฉไล ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม ถาวร; เกิด 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2499) โดยมีพระโอรส-ธิดา ดังนี้
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล มีพระโอรส-ธิดา 6 องค์ โดยประสูติแต่หม่อมหลวงสร้อยระย้า ยุคล 3 องค์[8] หม่อมบุญล้อมหนึ่งองค์ หม่อมไฉไลสององค์ ปรากฏรายพระนามดังนี้
ลำดับ | พระนาม | ประสูติ | สิ้นชีพตักษัย |
มารดา | เสกสมรส | พระนัดดา |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร | 24 กันยายน พ.ศ. 2476 | หม่อมหลวงสร้อยระย้า ยุคล (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์) |
หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ หม่อมหลวงสราลี กิติยากร | |
2. | หม่อมเจ้าภูริพันธ์ ยุคล | 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477 | 20 เมษายน พ.ศ. 2557 | บุญล้อม ฐานะวร (สกุลเดิม นาตระกูล) |
หม่อมนิติมา ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม ยนเปี่ยม) |
หม่อมราชวงศ์อัครินทร์ ยุคล หม่อมราชวงศ์ทักขิญ ยุคล |
3. | หม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ยุคล | 11 ตุลาคม พ.ศ. 2478 | 27 สิงหาคม พ.ศ. 2538 | หม่อมหลวงสร้อยระย้า ยุคล (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์) |
ภรณ์พัชร ธรรมเสน วาสนา ฐวลางกุล (สกุลเดิม ไฝเครือ) โชติกา ขวัญฐิติ (สกุลเดิม รอดอ่อน) |
หม่อมราชวงศ์นิภานพดารา ยุคล หม่อมราชวงศ์จุลรังษี ยุคล หม่อมราชวงศ์สุทธิพัฒน์ ยุคล |
4. | คุณหญิงรังษีนภดล ยุคล | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2480 | 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 | หม่อมหลวงตวง สนิทวงศ์ วิเชียร ตระกูลสิน |
สายฝน ชัชกุล ดุลสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รังษิดล สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ตรรค สนิทวงศ์ ณ อยุธยา | |
5. | หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล | 1 มกราคม พ.ศ. 2521 | หม่อมไฉไล ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม ถาวร) |
หม่อมอัญวิดา ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม สง่าศิลป์) |
หม่อมราชวงศ์พริมา ยุคล หม่อมราชวงศ์นภพิมพ์ ยุคล | |
6. | ภานุมา ยุคล | 20 มิถุนายน พ.ศ. 2524 | เมธ พิพิธโภคา | ญาใจ พิพิธโภคา เปรม พิพิธโภคา |
ทรงก่อตั้ง บริษัทไทยฟิล์ม ร่วมกับนายพจน์ สารสิน และนายประสาท สุขุม สร้างภาพยนตร์ 35 มม.ขาวดำ ไวด์สกรีน เสียงในฟิล์ม เรื่องแรก ถ่านไฟเก่า ฉายในช่วงปีใหม่ (เม.ย.) พ.ศ. 2481 ตามด้วยเรื่อง แม่สื่อสาว วันเพ็ญ จุดใต้ตำตอ ปิดทองหลังพระ และเรื่องสุดท้าย ลูกทุ่ง (2483) ก่อนยุติบทบาทลงเนื่องจากประสบภาวะขาดทุนและได้ขายกิจการกับโรงถ่ายให้แก่กองทัพอากาศไปในปีนั้น อย่างไรก็ตามเพลง "บัวขาว" และ "ในฝัน" จากภาพยนตร์เรื่องแรกและอีกหลายเพลงในเรื่องต่อ ๆ มายังคงเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน
เสด็จพระองค์ชายใหญ่ทรงตั้งคณะอัศวินการละคร สัญลักษณ์ "พระอัศวเทพ" ในยุคละครเวทีเฟื่องฟู มีผลงานเด่น ที่ศาลาเฉลิมไทย เมื่อ พ.ศ. 2494 ผู้ชมเรียกร้องให้นำนวนิยายเรื่อง บ้านทรายทอง ที่กำลังดังมากเวลานั้นมาทำเป็นละครเวที ทรงให้ สวลี ผกาพันธ์ และ ฉลอง สิมะเสถียร แสดงนำ ได้รับความสำเร็จอย่างสูง ทั้งได้ทรงพระนิพนธ์คำร้องเพลงเอก ชื่อ หากรู้สักนิด ซึ่งกลายเป็นเพลงอมตะคู่บทประพันธ์, มโนราห์ ละครที่มีคำร้องของเพลงเอกงดงามในเชิงวรรณศิลป์อย่างยิ่ง นำแสดงโดย สวลี ผกาพันธ์ และ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ฯลฯ
ชื่อละครเรื่องหนึ่งคือ บุษบาริมทาง นำแสดงโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี เสด็จฯ ได้ทรงประทานชื่อละครเรื่องนี้แก่คณะผู้บริหารโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตามที่ได้ทูลขอประทานอนุญาตใช้เป็นชื่อภาษาไทยสำหรับภาพยนตร์เพลงยิ่งใหญ่จากฮอลลีวู๊ดเมื่อ พ.ศ. 2507 อีกเรื่องที่มีชื่อเสียงคือ พันท้ายนรสิงห์ ได้ทรงนำบทละครเวทีของอัศวินที่เคยได้รับความนิยมมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของบริษัทอัศวินภาพยนตร์ ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 16 มม.สี พากย์สด นำแสดงโดย ชูชัย พระขรรค์ชัย และ สุพรรณ บูรณพิมพ์ กำกับการแสดงโดย ครูมารุต ฉายที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง พ.ศ. 2493 (ฉายซ้ำในปี พ.ศ. 2501 และ พ.ศ. 2509) ภายหลังอีกหลายปีได้ขยายภาพและบันทึกเสียงลงฟิล์ม 35 ม.ม.ฉายที่โรงภาพยนตร์พาราเมาท์ ประตูน้ำ (2518)
อัศวินยังคงสร้างภาพยนตร์เรื่องยาว 16 มม. เช่นเดียวกับค่ายหนังไทยทั่วไปในสภาวะเศรษฐกิจหลังสงครามระยะแรก ๆ ขณะนั้น จนถึง นเรศวรมหาราช เป็นเรื่องสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2500
เมื่อบรรยากาศบ้านเมืองเข้าสู่สภาพปกติ จึงเดินหน้าพัฒนางานสร้างระดับมาตรฐานสากลอีกครั้ง ใช้ฟิล์มสี 35 มม.ถ่ายทำในระบบจอโค้งใหม่ล่าสุด "ซีเนมาสโคป " ด้วยกล้องและเลนส์รวมทั้งอุปกรณ์บันทึกเสียงระดับสตูดิโอฮอลลีวู๊ดมูลค่ามหาศาล ซึ่งมีเฉพาะที่อัศวินเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย ระหว่าง พ.ศ. 2504 - 2519 เริ่มจาก เรือนแพ, จำปูน, เป็ดน้อย, ละครเร่, เรารักกันไม่ได้, น้ำผึ้งขม และ ทะเลฤๅอิ่ม ตามลำดับ (สามเรื่องแรกได้ดาราของชอว์ บราเดอร์ส ร่วมแสดงด้วย) ตามด้วยโครงการสร้างภาพยนตร์อีก 3-4 เรื่องในนามอัศวินอินเตอร์เนชั่นแนล แต่ยกเลิกไป
เรื่องสุดท้าย เงาะป่า ทรงสร้างจากบทพระราชนิพนธ์ร้อยกรองในรัชกาลที่ 5 และทรงกำกับการแสดงร่วมกับเปี๊ยก โปสเตอร์ ในนาม อัศวินภาพยนตร์ - ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น พ.ศ. 2523
ทรงได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ประจำปี พ.ศ. 2540 บุคคลยอดเยี่ยมแห่งวงการภาพยนตร์ไทย (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล และ สักกะ จารุจินดา)
ไทยฟิล์ม
ภาพยนตร์ขาวดำ 35 มม.ไวด์สกรีน เทคนิคอคาเดมิค บันทึกเสียงขณะถ่ายทำ
อัศวินภาพยนตร์
ภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม.พากย์สด
ภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม. พากย์สด
ภาพยนตร์สีอัศวินอีสต์แมน 35 มม. อัศวินซูเปอร์ซีเนสโคป (เสียงพากย์ในฟิล์ม 2504-2523)
การจัดจำหน่ายของอัศวินภาพยนตร์
ศาสตราจารย์ พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์[6] ดังนี้
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
ก่อนหน้า | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) | ![]() |
ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยศิลปากร คนที่ 2 (พ.ศ. 2492 – พ.ศ. 2494) |
![]() |
พลเอก หลวงรณสิทธิพิชัย (เจือ กาญจนิทุ) |