ฟุตบอลในประเทศซานมารีโน

ฟุตบอลในประเทศซานมารีโน
ประเทศซานมารีโน
องค์กรบริหารดูแลสหพันธ์ฟุตบอลซานมารีโน
ทีมชาติฟุตบอลทีมชาติซานมารีโน
การแข่งขันของสโมสร
การแข่งขันระดับนานาชาติ

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศซานมารีโน เช่นเดียวกันกับในประเทศอิตาลี รัฐเอกราชซึ่งมีพื้นที่ล้อมรอบพวกเขาอยู่[1]

การแข่งขันฟุตบอลในประเทศ

[แก้]

ในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลในประเทศ มีลีกฟุตบอลสูงสุดอย่างกัมปีโอนาโตซัมมารีเนเซดีกัลโชหรือซานมารีโนแชมเปียนชิป ก่อตั้งขึ้นโดยสหพันธ์ฟุตบอลซานมารีโน รูปแบบการแข่งขันลีกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละ 7-8 ทีม ทีมสามอันดับแรกของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟซึ่งใช้ระบบกึ่งแพ้คัดออก ในช่วงก่อน ค.ศ. 2007 แชมป์จากการเพลย์ออฟจะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรอบคัดเลือกของยูฟ่าคัพ ต่อมาใน ค.ศ. 2007 ยูฟ่าได้กำหนดการเปลี่ยนแปลงให้ทีมแชมป์เพลย์ออฟได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรอบคัดเลือกรอบแรกของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ส่งผลให้ เอส.เอส.มูราตา แชมป์ลีกในปี 2007 กลายเป็นสโมสรแรกจากซานมารีโนที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ก่อนที่จะไปพ่ายแพ้ให้กับทัมเพอร์ยูไนเต็ดจากฟินแลนด์ ซานมารีโนมีสโมสรฟุตบอลที่แข่งขันในลีกของอิตาลี นั่นคือ ซานมารีโนกัลโช ซึ่งปัจจุบันลงเล่นในเซเรียดี

การแข่งขันฟุตบอลถ้วยในประเทศมีทั้งหมดสองรายการ ได้แก่ โกปปาติตาโน ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1937 เป็นฟุตบอลถ้วยที่เปิดโอกาสให้ทุกทีมในลีกเข้าร่วมแข่งขัน อีกรายการหนึ่งคือซูแปร์โกปปาซัมมาริเนเซ เป็นซูเปอร์คัพที่เป็นการพบกันระหว่างแชมป์คัพกับแชมป์ลีก

ระบบลีกฟุตบอลซานมารีโน
ระดับ ลีก
1 กัมปีโอนาโตซัมมารีเนเซดีกัลโช
กลุ่ม เอ - 8 ทีม
กลุ่ม บี - 7 ทีม

ฟุตบอลทีมชาติ

[แก้]

ฟุตบอลทีมชาติซานมารีโนลงเล่นนัดแรกอย่างไม่เป็นทางการใน ค.ศ. 1986 ในนัดที่พ่ายแพ้ต่อทีมชาติแคนาดาชุดโอลิมปิกไป 0–1 ส่วนการแข่งขันอย่างเป็นทางการนัดแรกเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990 ในนัดที่พ่ายแพ้ต่อสวิตเซอร์แลนด์ 0–4 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซานมารีโนเคยมีช่วงเวลาอันน่าจดจำในนัดที่พบกับอังกฤษในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1993 ซึ่งในนัดนั้น ดาวิเด กวลเตียรี ทำประตูขึ้นนำในเวลาเพียง 8.3 วินาที เป็นประตูที่เร็วที่สุดในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก[2] แม้ว่าจะขึ้นนำได้ก่อน แต่สุดท้ายซานมารีโนก็พ่ายแพ้ต่ออังกฤษ 7–1

ซานมารีโนมีสถิติการแข่งขันที่ไม่ดีโดยพ่ายแพ้มากกว่า 70 นัด และเคยเสมอกับตุรกีและลัตเวีย ทว่าในวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2004 ซานมารีโนคว้าชัยชนะได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีมชาติ โดยสามารถเอาชนะลิกเตนสไตน์ในนัดกระชับมิตรไปได้ 1–0 ผู้ทำประตูชัยในนัดนั้นคือ แอนดี ซีลวา[3]

ในวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2006 ซานมารีโนพ่ายแพ้แบบขาดลอยที่สุด โดยพ่ายแพ้ให้กับเยอรมนีถึง 13-0 นับเป็นผลต่างประตูที่มากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือก นักฟุตบอลทีมชาติที่มีชื่อเสียงได้แก่ มัสซิโม โบนีนี ในตำแหน่งกองกลาง เขาเคยเล่นให้กับยูเวนตุสระหว่าง ค.ศ. 1981–1988[4] และ แอนดี ซีลวา ผู้ทำประตูสูงสุดในนามทีมชาติที่ 8 ประตู

อ้างอิง

[แก้]
  1. "One Win, 106 Losses, No Traffic Lights". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 5 December 2013.
  2. England. "England v San Marino: Davide Gualtieri never tires of reliving the World Cup night in 1993". Telegraph. สืบค้นเมื่อ 13 October 2012.
  3. "San Marino vs. Liechtenstein - Football Match Report - April 28, 2004 - ESPN". ESPN.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 24 June 2019.
  4. "Bonini, San Marino's unsung hero". Union of European Football Associations. สืบค้นเมื่อ 14 January 2015.