ภาษาแอราเมอิกพระเยซู (Aramaic of Jesus) เป็นภาษาแอราเมอิกที่นักวิชาการเชื่อว่าพระเยซูเคยใช้พูด[1] ควบคู่ไปกับภาษาฮีบรูและภาษากรีก[2] เมืองนาซาเร็ธและคาร์เปอร์เนียมที่พระเยซูเคยอยู่ เป็นชุมชนที่เคยพูดภาษาแอราเมอิก ส่วนภาษากรีกเป็นภาษาที่ใช้พูดอย่างกว้างขวางในจักรวรรดิโรมันตะวันออก เป็นที่ทราบกันดีว่าพระเยซูทรงรู้ภาษาฮีบรูและอภิปรายเกี่ยวกับไบเบิลภาษาฮีบรูได้
ภาษาแอราเมอิกเป็นกลุ่มภาษาเซมิติกที่ใกล้เคียงกับภาษาฮีบรูที่เป็นภาษาในเขตเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกในช่วงเวลาระหว่างจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ บาบิโลเนียใหม่ และอาแคมินิดรวมทั้งช่วงเวลาหลังจากนั้น (179 ปีก่อนพุทธศักราช - พ.ศ. 213) หลังจากการรุกรานของกรีก พ.ศ. 212 และโรมัน พ.ศ. 480 เป็นที่รู้กันว่าภาษาแอราเมอิกยังคงเป็นภาษาที่ใช้ทั่วไปในอิสราเอลในช่วงต้นคริสตกาล พระเยซูน่าจะพูดสำเนียงกาลิลีซึ่งเข้าใจกันได้กับสำเนียงในเยรูซาเล็ม
ในช่วงเวลาเดียวกัน มีการบันทึกมิซนะห์ด้วยภาษาฮีบรู โยเซฟัสเขียนด้วยภาษาแอราเมอิก ฟิโลและปอลแห่งตาร์ซุสเขียนด้วยภาษากรีก ถ้าพระเยซูทรงเข้าใจไบเบิลภาษาฮีบรู ก็น่าจะเข้าใจตาร์คุมและไบเบิลภาษาแอราเมอิกที่ใช้ในขณะนั้นได้ และจาการที่ทรงเกิดในตระกูลช่างไม้ก็น่าจะเข้าใจภาษากรีกที่เป็นภาษากลางทางการค้าในเมดิเตอร์เรเนียนตั้งแต่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเข้ามาครอบครองดินแดนแห่งนี้ และยังมีหลักฐานจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าภาษาแอราเมอิกเคยเป็นสื่อกลางสำคัญในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์จากปาเลสไตน์ ซีเรียเมโสโปเตเมียไปจนถึงรัฐเกรละในอินเดีย
เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าพระเยซูประสูติเป็นชาวยิวและเติบโตขึ้นในครอบครัวชาวยิวในกาลิลี ในช่วงเวลาดังกล่าว ภาษาแอราเมอิกเป็นภาษาของชาวยิวภาษาหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จักรวรรดิอัสซีเรียใหม่รุกรานอาณาจักรทางเหนือเมื่อ 179 ปีก่อนพุทธศักราช และการรุกรานอาณาจักรยูดาห์ของบาบิโลเนียเมื่อ 43 ปีก่อนพุทธศักราช ซึ่งทำให้เกิดภาษาแอราเมอิกสำเนียงตะวันตก และเป็นรูปแบบมาตรฐานของภาษาแอราเมอิกที่เคยเป็นภาษาพูดในดามัสกัส และมีศัพท์ภาษาฮีบรูเข้าไปผสมเป็นจำนวนมากเมื่อใช้พูดในหมู่ชาวยิว แต่ก็ยังมีชาวยิวบางส่วนใช้ภาษาฮีบรูเป็นภาษาแรกจนถึงราว พ.ศ. 843 ซึ่งยุคนั้นเป็นยุคที่เริ่มเขียนไบเบิลภาษาฮีบรู ในยุคมหาวิหารครั้งที่สองและอื่นๆ บางส่นของไบเบิลภาษาฮีบรูได้นำมาเขียนไว้ในไบเบิลภาษาแอราเมอิกด้วย และเริ่มใช้อักษรทรงเหลี่ยมที่ได้รับอิทธิพลมาจากอักษรแอราเมอิก ต่างจากการการเขียนในยุคคลาสสิก (เช่นยุคมหาวิหารครั้งที่ 1) เช่น จารึกโซโลมอนที่ใช้อักษรปาเลียว-ฮีบรู ในยุคนี้มีตาร์คุมซึ่งเป็นการแปลไบเบิลภาษาฮีบรูเป็นภาษาแอราเมอิก
ตั้งแต่ พ.ศ. 343 เป็นต้นมา ดินแดนยูเดียได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมกรีกมากและภาษากรีกเข้ามาเป็นภาษากลางในเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกแทนที่ภาษาแอราเมอิกและกลายเป็นภาษาของพ่อค้าไปในที่สุด จึงเป็นไปได้ที่พระเยซูจะรู้ภาษากรีก
มาร์ก 5:41
วลีนี้เป็นวลีในภาษาแอราเมอิก ใช้เมื่อพระเยซูชุบชีวิตเด็กหญิงคนหนึ่ง ปริวรรตเป็นอักษรกรีกเป็น ταλιθα κουμ เอกสารภาษากรีกของGospel of Mark มีคำในรูปนี้ แต่ในเล่มอื่นๆเขียนว่า κουμι (koumi) แทน ภาษาแอราเมอิกของวลีนี้คือ ţlīthā qūm คำว่าţlīthā เป็นรูปเพศหญิงของคำţlē หมายถึง "หนุ่มสาว" Qūm เป็นคำกริยาภาษาแอราเมอิกหมายถึง "ยืนขึ้น ลุกขึ้น" ถ้าเป็นรูปเพศหญิงพหูพจน์เป็น 'qūmī' แต่ในการพูด เสียง i ท้ายคำมักจะหายไปทำให้ไม่มีความแตกต่างระหว่างรูปเพศชายและรูปเพศหญิง ถ้าเขียนในภาษาแอราเมอิกจะเป็น טליתא קומי or טלתא קומי (อ่านจากขวาไปซ้าย)
มาร์ก 7:34
ภาษาแอราเมอิกถูกปรับแต่งเป็นภาษากรีก εφφαθα ซึ่งอาจจะมาจาก 'ethpthaḥ' ซึ่งเป็นรูปถูกกระทำของกริยา 'pthaḥ' "เปิดออก" เพราะเสียง 'th' มักจจะหายไปในภาษาแอราเมอิกตะวันตก เสียง ḥ มักจะหายไปเมื่อปริวรรตเป็นภาษากรีก [3]ในภาษาแอราเมอิกอาจจะเขียนเป็น אתפתח หรือ אפתח
มาร์ก 14:36
Abba เป็นคำภาษาแอราเมอิกที่ถูกยืมมาใช้ในภาษาฮีรูสมัยใหม่[4] (เขียนเป็น Αββα ในภาษากรีกและ'abbā ในภาษาแอราเมอิก) ซึ่งจะตามด้วยคำภาษากรีกที่มีความหมายตรงกัน(Πατηρ) โดยจะไม่แปลคำที่มาจากภาษาแอราเมอิก จะใช้เป็น Abba, Father ในภาษาอังกฤษ เขียนเป็นภาษาแอราเมอิกเป็น אבא คำว่า Barabbas เป็นรูปที่ถูกทำให้เป็นภาษากรีกของคำภาษาแอราเมอิก Bar Abba (בר אבא) แปลว่า "ลูกชายของพ่อ"
แมทธิว 5:22
Raca หรือ Raka ในภาษาแอราเมอิกในทัลมุดหมายถึงว่างเปล่า โง่ เขียนเป็น ריקא หรือ ריקה
Gospel of Matthew 6:24
ในภาษาแอราเมอิกและภาษาฮีบรูอาจจะเป็น ממון (หรือ ממונא)จัดว่าเป็นคำยืมจากภาษาแอราเมอิกที่พบในภาษาฮีบรู แต่พบในไบเบิลภาษาฮีบรูรุ่นหลังในราวพุทธศตวรรษที่ 9 ในปูนิก[5] ในพันธสัญญาใหม่ Μαμωνᾶς — Mamōnâs — จะจัดรูปคล้ายคำในภาษากรีก ในขณะที่คำที่มาจากภาษาแอราเมอิกและภาษาฮีบรูอื่นๆไม่ลดรูป ยังคงลักษณะของคำยืมอยู่
Didache 10 (Prayer after Communion)
1 Corinthians 16:22
ในภาษาแอราเมอิก(מרנא תא or מרן אתא) หมายถึง เจ้านายมา หรือ เจ้านายของเรามา
แมทธิว 27:46
มาร์ก 15:34
วลีนี้มาจากการตะโกนของพระเยซูที่สี่แยก แสดงออกมาได้สองรูปแบบ รูปแบบของแมทธิวปริวรรตเป็นภาษากรีกว่า ηλει ηλει λεμα σαβαχθανει รูปแบบของมาร์กเป็น ελωι ελωι λαμα σαβαχθανει (elōi มากกว่า ēlei และ lama มากกว่าlema)
It is generally agreed that Aramaic was the common language of Israel in the first century A.D. Jesus and his disciples spoke the Galilean dialect, which was distinguished from that of Jerusalem (Matt. 26:73).
{{cite journal}}
: Cite journal ต้องการ |journal=
(help)