King Mongkut's University of Technology Thonburi | |
![]() | |
ชื่อเดิม | สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี |
---|---|
ชื่อย่อ | มจธ. / KMUTT |
คติพจน์ | The trained man wins ทนโต เสฏโฐ มนุสเสสุ (ในหมู่มนุษย์ ผู้ที่ฝึกตนดีแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด) |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ |
สถาปนา | 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 |
สังกัดการศึกษา | กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม |
สังกัดวิชาการ |
|
งบประมาณ | 1,528,935,900 บาท (พ.ศ. 2568)[1] |
นายกสภาฯ | ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ยงยุทธ ยุทธวงศ์ |
อธิการบดี | รองศาสตราจารย์ สุวิทย์ แซ่เตีย |
อาจารย์ | 883 คน (พ.ศ. 2566) |
บุคลากรทั้งหมด | 2,569 คน (พ.ศ. 2566) |
ผู้ศึกษา | 14,933 คน (พ.ศ. 2566) |
ที่ตั้ง |
|
วิทยาเขต | วิทยาเขต |
ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย | ดอกธรรมรักษา |
สี | |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย |
![]() |
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (อังกฤษ: King Mongkut's University of Technology Thonburi; อักษรย่อ: มจธ. – KMUTT) หรือนิยมเรียกโดยทั่วไปว่า บางมด (Bangmod) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสถาปัตยกรรมศาสตร์ และได้รับเลือกจากรัฐบาลให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ (National Research University) รวมทั้งเป็นมหาวิทยาลัยที่ปรับเปลี่ยนสถานะจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐเป็น สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ แห่งแรกของประเทศไทย
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีเปิดสอนใน 8 คณะ, บัณฑิตวิทยาลัย 2 แห่ง สถาบันซึ่งดูแลและจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรเฉพาะทาง 1 แห่ง และวิทยาลัย 1 แห่ง โดยเปิดสอนทั้งหลักสูตรปกติ หลักสูตรสองภาษา และหลักสูตรนานาชาติ ครอบคลุมในระดับปริญญาตรี, โท และเอก จัดการเรียนการสอนใน 3 พื้นที่การศึกษา และ 1 อาคาร คือ มจธ.บางมด, มจธ.บางขุนเทียน, มจธ.ราชบุรี และสำนักเคเอกซ์ (KX - Knowledge Exchange for Innovation)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ประกอบด้วยพระนาม "พระจอมเกล้า" ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานตามพระบรมนามาภิไธย แห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และมีพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตรา "พระมหามงกุฎ" มาเป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน
มจธ. เป็นมหาวิทยาลัยไทยที่ติดอันดับโลก โดยเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี 5 ปีซ้อน ในปี 2561 ถึง 2565 โดยสถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก Times Higher Education[2] และถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยทางเทคโนโลยีอันดับที่ 1 ของประเทศไทย 2 ปีซ้อน ในปี 2562 และ 2563 โดยการจัดอันดับของ U.S. News & World Report[3]
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เดิมใช้ชื่อว่า "วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี " ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 126 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140
สาเหตุในการก่อตั้งเนื่องมาจากในช่วงปี 2500 ประเทศไทยได้มีการขยายตัวอย่างมาก ประกอบกับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ (เทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบัน) ไม่มีที่ศึกษาต่อ เพราะมีมหาวิทยาลัยอยู่เพียง 5 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทางกระทรวงศึกษาธิการเห็นถึงความจำเป็นในการจัดตั้งวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้จัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ณ ตำบลบางมด อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี เป็นสถาบันที่เปิดสอนระดับอุดมศึกษา (เทียบเท่าปริญาตรี) เป็นลำดับที่ 7 ในประเทศไทย รองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และวิทยาลัยวิชาการศึกษา ตามลำดับ
แบ่งได้เป็น 4 ช่วง ดังนี้
วิทยาลัยเทคนิคธนบุรีได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 ในสังกัดกองวิทยาลัยเทคนิค กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งในระยะเริ่มแรก วิทยาลัยรับนักศึกษาโดยสอบตรงจากผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ (เทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบัน) เข้าศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) โดยมีหลักสูตร 3 ปี ใน 4 สาขาวิชา คือ
วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี เป็นวิทยาลัยเทคนิคแห่งที่ 5 ของประเทศ ก่อตั้งขึ้นหลังจากวิทยาลัยเทคนิค 4 แห่งแรก อันประกอบไปด้วยวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ (พ.ศ. 2495), วิทยาลัยเทคนิคภาคใต้ (พ.ศ. 2497), วิทยาลัยเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (พ.ศ. 2499) และวิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ (พ.ศ. 2500) ซึ่งเป็นวิทยาลัยเทคนิคแห่งแรกและแห่งเดียวที่รับเฉพาะผู้สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ มาเรียนต่อในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
เมื่อ พ.ศ. 2505 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรีได้รับความช่วยเหลือจากยูเนสโก (UNESCO) และกองทุนพิเศษสหประชาชาติ โครงการมีระยะเวลา 5 ปี ในการจัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ให้มาช่วยดำเนินการสอน รวมทั้งให้ทุนการศึกษาเพิ่มเติมแก่อาจารย์ และจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษาให้แก่วิทยาลัย รวมทั้งวิทยาลัย จะรับนักศึกษาโดยได้เข้าร่วมกับ สภาการศึกษาแห่งชาติ ในการใช้ วิธีสอบคัดเลือกรวมเพื่อรับนักศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ (การสอบเอนทรานซ์) (โดยมี สถาบันการศึกษา จำนวน 6 แห่ง คือ มหาวิทยาลัย 5 แห่ง ที่มีอยู่ในขณะนั้น ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ วิทยาลัย 1 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้จัดสอบร่วมกัน)
พ.ศ. 2506 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้แบ่งการบริหารเป็น 4 คณะวิชา คือ
พ.ศ. 2507 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้ปรับปรุงหลักสูตรที่เปิดสอน คือ
พ.ศ. 2508 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้รับความช่วยเหลือจาก ยูเนสโก (UNESCO) และ กองทุนพิเศษ สหประชาชาติ ต่ออีก โครงการมีระยะเวลา 4 ปี ในรูปแบบเดียวกับโครงการแรก คือมี ผู้เชี่ยวชาญ ทุนการศึกษา อบรมแก่อาจารย์ และอุปกรณ์การศึกษา ซึ่งได้ขยายเพิ่มการสอนในหลักสูตร ปทส. ต่อจาก ปวส. เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2508 ในสาขาช่างยนต์,ช่างโลหะ และปี พ.ศ. 2509 ในสาขาช่างโยธา,ช่างไฟฟ้า โดยความเห็นชอบของ กระทรวงศึกษาธิการ และ คณะรัฐมนตรี ให้ทำการเปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรเทคนิคชั้นสูง (ปทส.) หลักสูตร 2 ปี ต่อจากประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตร 3 ปี รวมมีระยะเวลาศึกษา 5 ปี (เทียบเท่าปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ ใน 4 สาขา (โยธา,ไฟฟ้า,เครื่องกล,อุตสาหการ) ) รวมทั้งจัดตั้ง คณะวิชาฝึกหัดครูเทคนิคชั้นสูง เป็นคณะที่ 5 ของ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี
พ.ศ. 2510 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี เสนอโครงการ สถาบันเทคโนโลยีธนบุรี (Thonburi Institute of Technology) หรือ ( T I T ) และกระทรวงศึกษาธิการ อนุมัติในหลักการ เมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ให้ขยายหลักสูตรการเรียนการสอนเป็น 5 ปี ต่อจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ (ม.ศ.5)
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าถูกสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2514 จากการรวมวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ และวิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี โดยวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี มีสถานะเป็นวิทยาเขตหนึ่งของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ใช้ชื่อว่า "สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี" และเปลี่ยนจากหลักสูตรประกาศนียบัตรเทคนิคชั้นสูง (ปทส.) มาเป็นหลักสูตรปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตร 5 ปี ใน 4 สาขา (โยธา, ไฟฟ้า, เครื่องกล, อุตสาหการ) และให้เลิกรับนักศึกษาสาขาวิชาสถาปัตยกรรมในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2515 และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี ได้แบ่งการบริหารเป็น 7 ภาควิชา คือ
พ.ศ. 2515 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 1 ให้กับผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2510-2514 ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2515 โดย สำนักงาน ก.พ. ได้รับรอง ปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (สาขา โยธา, ไฟฟ้ากำลัง, ไฟฟ้าสื่อสาร, เครื่องกล และ อุตสาหการ) ของ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี
พ.ศ. 2517 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ย้ายสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการมาสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาและวิจัยระดับอุดมศึกษา เป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นกรมสังกัด และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี ได้แบ่งการบริหารเป็น 2 คณะ 8 ภาควิชา คือ
พ.ศ. 2529 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการสถาปนาขึ้น เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529
พ.ศ. 2532 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปรับหลักสูตรปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตร 5 ปี มาเป็นหลักสูตร 4 ปี
พ.ศ. 2541 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการสถาปนาขึ้น เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2541 และได้เปลี่ยนสภาพเป็น สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ
พ.ศ. 2552 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการประกาศรายชื่อจาก กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ให้เป็น 1 ใน 9 แห่ง ของ มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
การค้นพบสุริยุปราคามืดหมดดวงของพระองค์ท่าน เป็นการแสดงพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ของคนไทยให้ชาวโลกประจักษ์ว่า ทรงมีพระปรีชาสามารถในการคำนวณ ทรงกระทำตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง และการที่พระองค์ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาได้เช่นนี้นั้น แสดงว่าประเทศไทยจะต้องมีระบบเวลามาตรฐานและมีวิธีการรักษาเวลามาตรฐานแบบอารยประเทศที่เชื่อถือได้ ถึงขั้นนำมาวัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของโลกได้ การศึกษาในพระราชสำนัก จากบันทึกของหมอบรัดเลย์ (สยามสามสมัยจากสายตาหมอบรัดเลย์) วันก่อนที่เจ้าฟ้าจะทรงลาผนวช พระองค์โปรดให้มิชชันนารีโปรเตสแตนต์ที่ทรงสนิทสนมมาเป็นปีๆ เข้าเฝ้า ในระหว่างการเข้าเฝ้า พระองค์ตรัสอย่างไม่ถือพระองค์และให้รู้เป็นการภายใน สิ่งที่พระองค์ตรัสทำให้ความหวังที่จะเห็นสยามรุ่งเรืองในอนาคตฟื้นคืนมาอีก พระราชดำรัสที่ทำให้เราหูผึ่งก็คือ พระราชดำรัสที่จะให้มีชั้นเรียนขนาดใหญ่ให้หนุ่มสยามได้ศึกษาภาษาอังกฤษอย่างดี และจะทรงโปรดให้มีโรงเรียนมัธยมขึ้นในบางกอก ที่สอนทั้งภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์จากตะวันตกด้วย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชทานที่ดินแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ ตำบล ราชบูรณะ เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ร.ศ. ๑๒๓ ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๔๗ ที่ดินเลขที่ ๑๐๘ โฉนดเลขที่ ๑๒๘๖ พื้นที่ตามโฉนด ๒๕๖ ไร่ ๑ งาน ๙๖ ตารางวา
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระนาม "พระจอมเกล้า" เป็นชื่อของสถาบัน มีนามภาษาอังกฤษว่า “ King Mongkut's Institute of Technology Thonburi” 24 ตุลาคม 2534 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ พระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการนิทรรศการเทคโนโลยี ครั้งที่ 6
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ
ทรงพระเมตตามาก ได้ฉลองพระเดชพระคุณสนิทมากยิ่งกว่าพระองค์อื่น ๆ ด้วยพระปรีชาว่องไว ในราชกิจทั้งปวง และมีอัธยาศัยโอบอ้อมอารีกว้างขวางในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ และทรงพระอุตสาหะดูแล บังคับบัญชาการฝ่ายใน ให้สำเร็จไปตามพระราชประสงค์ และราชประเพณี ทรงพระปรีชาสามารถในราชกิจเก่าใหม่ ตั้งพระราชหฤทัยจงรักภักดีเป็นอันมาก จึงมีพระบรมราชโองการทรงสถาปนา พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา เป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายใน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ และทรงเททองหล่อพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเปิดงานนิทรรศการเทคโนโลยี ครั้งที่ 4 ทรงเปิดอาคารคณะพลังงานและวัสดุ อาคารภาควิชาเคมี และอาคารห้องสมุด ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดหอบรรณสารสนเทศ ทอดพระเนตรนิทรรศการ มจธ. กับมิติด้านชุมชนแห่งการเรียนรู้และอยู่อาศัย และทรงวางศิลาฤกษ์อาคาร ปฏิบัติการทางวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แขวงบางมด เขตทุ่งครุ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิดอาคารคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และงานครบรอบ 20 ปี ของสถาบันฯ เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์ ทรงเปิดงานนิทรรศการเทคโนโลยี ครั้งที่ 5 และทรงเปิดสำนักงานโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป ภายใต้โครงการหลวง และโครงการพระราชดำริในความรับผิดชอบของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
18 สิงหาคม 2541 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสด็จมาทรงเป็นประธานเปิดแพรคลุมป้าย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล ประกาศตั้ง “ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ” เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 รับผู้จบเตรียมอุดมศึกษา (ม.6 ปัจจุบัน) เฉพาะสาย วิทยาศาสตร์ ศึกษาต่อ 3 ปี ได้วุฒิ ปว.ส. นับเป็นวิทยาลัยเทคนิค แห่งแรก ในประเทศไทย ณ ตำบลบางมด อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระนาม “ พระจอมเกล้า ” เป็นชื่อของสถาบัน มีนามภาษาอังกฤษว่า “ King Mongkut's Institute of Technology ” เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2513
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินชลมารคและสถลมารค ทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ทรงคำนวณพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า 2 ปี ว่าจะเกิดในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศักราช 1230 โดยจะเห็นหมดดวงที่หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงเกาะจานขึ้นไปถึงปราณบุรี และลงไปถึง จ.ชุมพร พระองค์ทรงรับเอาศิลปวิทยาการ และความคิดสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการปกครองประเทศ ด้วยเหตุนี้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จึงได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้วยพระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณนานัปการ โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจด้านดาราศาสตร์ ทั้งนี้ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีแนวคิดว่าน่าจะถือเอาวันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์ไทย ต่อมาวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2525 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" และต่อมาได้มีการสร้าง "อุทยานวิทยาศาสตร์"
เสด็จพระราชสมภพในวันพฤหัสบดี ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีชวด ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347 ในสมัยรัชกาลที่ 1 ณ นิวาสสถานในพระราชนิเวศน์เดิม ด้านใต้ของวัดอรุณราชวราราม เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 43 และเป็นลำดับที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
เสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง เวลาทุ่มเศษ ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 พิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บวงสรวงพระอริยพรหม และพระบรมราชานุสาวรีย์ ,ถวายบังคม และวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ ,หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์,พระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์
ลักษณะของตราเชิญมาจากพระราชลัญจกรประจำพระองค์ (ตราประจำพระองค์) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
ลักษณะของตรา ประกอบด้วยลายกลางเป็นตราพระมหามงกุฎ ซึ่งนำมาจากพระบรมนามาภิไธยเดิม "มงกุฎ" และเป็นศิราภรณ์สำคัญหนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์ มีฉัตรบริวารขนาบอยู่บริเวณด้านข้างทั้งสอง โดยสัญลักษณ์ทั้งหมดจะอยู่ภายในวงกลม 2 ชั้น มีอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษซึ่งแสดงนามมหาวิทยาลัย กำกับอยู่ภายในโค้งด้านล่างของวงกลม
เริ่มใช้ในปี พ.ศ. 2552 ประกอบด้วยสองส่วนคือ สัญลักษณ์วิสัยทัศน์ (Vision Mark) และตัวอักษรสัญลักษณ์ (Wordmark)
สัญลักษณ์วิสัยทัศน์ (Vision Mark) สื่อถึงความชัดเจนในวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย (Framing Vision) ที่จะก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาว มจธ. โดยรูปแบบของจุด หรือ Pixel ที่เรียงกันสามารถสื่อถึงความเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีได้อย่างร่วมสมัย ในขณะเดียวกันการเรียงกันเป็นเลขสี่ยังสามารถสื่อถึงความภาคภูมิใจในนามพระราชทาน
ตัวอักษรสัญลักษณ์ (Wordmark) เป็นการเรียงตัวกันอย่างสร้างสรรค์ (Creative & Constructive) สื่อถึงการไม่หยุดนิ่งและการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ การใช้ชื่อย่อตัวอักษรภาษาอังกฤษยังสื่อถึงวิสัยทัศน์ที่จะนำมหาวิทยาลัยก้าวไปสู่สากลอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยตราวิสัยทัศน์ เป็นตราที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดทอนรายละเอียดของตราสัญลักษณ์ (LOGO) ให้ง่ายต่อการจดจำ, สร้างเอกลักษณ์ให้กับมหาวิทยาลัย และเป็นตราสัญลักษณ์ที่สามารถใช้ได้ในทุก ๆ ที่ เช่น ขวดน้ำ มจธ., ใบปลิว, แก้วน้ำ, ของที่ระลึก รวมทั้งที่ ๆ ไม่เหมาะสมที่จะใช้ตราพระลัญจกรซึ่งเป็นตราประจำพระองค์พระมหากษัตริย์
สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีแสดและสีเหลือง
โดยสีแสดเป็นสีประจำพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ของไทย พระผู้ทรงริเริ่มแนวคิดสมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย
ส่วนสีเหลืองเป็นสีประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย พระผู้ทรงพระราชทานนามมหาวิทยาลัย
และเมื่อรวมกันจึงเป็นสีที่แสดงถึงความจงรักภักดี และเป็นสีที่แสดงถึงความเคลื่อนไหว ความไม่หยุดนิ่ง ความแข็งแรง ทั้งเป็นสีที่กระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นเปรียบเทียบได้กับเครื่องมือเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเครื่องมือเครื่องจักรทั้งหลาย ถือเป็นส่วนสำคัญในการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย
ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกธรรมรักษา เป็นไม้ดอกที่พบมากในบริเวณที่ตั้ง มหาวิทยาลัยนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งวิทยาลัย และมีสีของดอกที่คล้องกับสีประจำมหาวิทยาลัยฯ นอกจากนี้ยังมีนามที่เป็นมงคลต่อนักศึกษาและบุคลากรในด้านจริยธรรม กล่าวคือ สอดคล้องกับคติธรรมที่ว่า "ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"
ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี | |||||
---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รูป | รายนามผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง | ||
เริ่มต้น | สิ้นสุด | ระยะเวลา (วัน) | |||
1 | ![]() |
อาจารย์ประภา ประจักษ์ศุภนิติ | 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 | 10 กันยายน พ.ศ. 2512 | 8 ปี 219 วัน |
อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า | |||||
ลำดับ | รูป | รายนามอธิการบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง | ||
เริ่มต้น | สิ้นสุด | ระยะเวลา (วัน) | |||
2 | ![]() |
ศาสตราจารย์ ดร.พงศ์ศักดิ์ วรสุนทโรสถ | 22 ธันวาคม พ.ศ. 2514 | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2521 | 6 ปี 283 วัน |
3 | ![]() |
ศาสตราจารย์ ดร.บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ | 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 | 22 สิงหาคม พ.ศ. 2526 | 4 ปี 292 วัน |
อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) | |||||
ลำดับ | รูป | รายนามอธิการบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง | ||
เริ่มต้น | สิ้นสุด | ระยะเวลา (วัน) | |||
4 | ![]() |
รองศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ หังสพฤกษ์ | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 | 5 ปี 365 วัน |
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 | ||||
5 | ![]() |
รองศาสตราจารย์ ดร.หริส สูตะบุตร | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 | 5 ปี 364 วัน |
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | ||||
6 | ![]() |
อาจารย์ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 | 8 ปี 0 วัน |
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 | ||||
7 | ![]() |
รองศาสตราจารย์ ดร.ไกรวุฒิ เกียรติโกมล | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 | 3 ปี 364 วัน |
8 | ![]() |
รองศาสตราจารย์ ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 | 8 ปี 158 วัน |
22 ธันวาคม พ.ศ. 2557 | 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561 | ||||
9 | ![]() |
รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561 | 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565 | 6 ปี 120 วัน |
18 มีนาคม พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน |
นายกสภา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า | |||||
---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รูป | รายนามนายกสภา | วาระการดำรงตำแหน่ง | ||
เริ่มต้น | สิ้นสุด | ระยะเวลา (วัน) | |||
1 | ![]() |
นายสุกิจ นิมมานเหมินทร์ | 4 กุมภาพันธ์ 2514 | 16 พฤศจิกายน 2514 | 285 วัน |
2 | ![]() |
บุญถิ่น อัตถากร | 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 | 18 ธันวาคม พ.ศ. 2515 | 1 ปี 31 วัน |
3 | ![]() |
นายอภัย จันทวิมล | 19 ธันวาคม พ.ศ. 2515 | 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 | 1 ปี 161 วัน |
4 | ![]() |
นายเกรียง กีรติกร | 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 | 28 มิถุนายน พ.ศ. 2517 | 29 วัน |
5 | ![]() |
นายเกษม สุวรรณกุล | 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 | 25 มกราคม พ.ศ. 2518 | 210 วัน |
6 | ![]() |
พลเรือตรี ชลี สินธุโสภณ | 26 มกราคม พ.ศ. 2518 | 13 มกราคม พ.ศ. 2521 | 2 ปี 352 วัน |
7 | จำรัส ฉายะพงศ์ | 14 มกราคม พ.ศ. 2521 | 31 มกราคม พ.ศ. 2530 | 9 ปี 17 วัน |
นายกสภา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) | |||||
---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รูป | รายนามนายกสภา | วาระการดำรงตำแหน่ง | ||
เริ่มต้น | สิ้นสุด | ระยะเวลา (วัน) | |||
7 | จำรัส ฉายะพงศ์ | 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 | 30 มิถุนายน พ.ศ. 2531 | 1 ปี 150 วัน | |
8 | ![]() |
บุญเยี่ยม มีศุข | 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 | 1 กันยายน พ.ศ. 2541 | 10 ปี 62 วัน |
9 | ![]() |
นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา | 2 กันยายน พ.ศ. 2541 | 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 | 3 ปี 179 วัน |
10 | ![]() |
ทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ | 1 มีนาคม พ.ศ. 2545 | 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 | 17 ปี 87 วัน |
11 | ![]() |
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ | 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 | ปัจจุบัน | 5 ปี 331 วัน |
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเปิดสอนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มี 12 หน่วยงานที่จัดทำการเรียนการสอน แบ่งเป็น 8 คณะ 1 สถาบัน 2 บัณฑิตวิทยาลัยและ 1 วิทยาลัยสหวิทยาการ ดังนี้
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2503 ถือว่าเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีสาขาวิชาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็น 1 ใน 8 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เรียงลำดับตามการก่อตั้งดังนี้
1.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
4.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
5.มหาวิทยาลัยขอนแก่น
6.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
7.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
8.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถือว่าเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เปิดสอนมีสาขาวิชาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ในระดับปริญญาตรีมากที่สุด 1 ใน 3 ของประเทศไทย และในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกมากที่สุดในประเทศไทย
หลักสูตรทั้งหมดของคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวมทั้งสิ้น 57 สาขา สอนทั้งในหลักสูตรปกติ หลักสูตรนานาชาติ และหลักสูตร Residential College ของมหาวิทยาลัย Cambridge และ Oxford จากประเทศอังกฤษ อีกทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. คว้าอันดับ 1 ด้านวิศวกรรมศาสตร์ของไทย จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย โดย U.S. News & World Report ประจำปี 2020 อีกด้วย
ประกอบด้วย 11 ภาควิชา
|
|
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[4] | ||||
---|---|---|---|---|---|
อนุปริญญา |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
ปริญญาตรี |
หลักสูตรปกติ
| ||||
ปริญญาโท |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
ปริญญาเอก |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
คณะวิทยาศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดสอนในหลักสูตรปกติ สองภาษาและนานาชาติ ในระดับปริญญาตรี โท และเอก และได้รับการจัดอันดับใหเป็น
ประกอบด้วย 4 ภาควิชา
หลักสูตร
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[7] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาตรี |
| ||
ปริญญาโท |
หลักสูตรนานาชาติ
หลักสูตรภาษาอังกฤษ
| ||
ปริญญาเอก |
หลักสูตรนานาชาติ
หลักสูตรภาษาอังกฤษ
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นคณะทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่จัดการเรียนการสอนหลักสูตรนานาชาติทุกสาขาวิชา ในระดับปริญญาตรี โท และเอก ครอบคลุมด้านสถาปัตยกรรมหลัก สถาปัตยกรรมภายใน ภูมิสถาปัตยกรรม ออกแบบอุตสาหกรรม ออกแบบนวัตกรรม รวมถึงออกแบบนิเทศน์ศิลป์
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[8] | ||||
---|---|---|---|---|---|
ปริญญาตรี |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
ปริญญาโท |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
ปริญญาเอก |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2517 เดิมมีชื่อว่า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์
ภาควิชา
หลักสูตร
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[9] | ||||
---|---|---|---|---|---|
ปริญญาตรี |
หลักสูตร 5 ปี
| ||||
ปริญญาโท |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
ปริญญาเอก |
| ||||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2538 ซึ่งปีแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศไทยด้วย
SIT KMUTT เป็นคณะเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของประเทศไทย และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดสอนสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศครบถ้วนทั้ง ปริญญาตรี โท และเอก ทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[10] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาตรี |
หลักสูตรภาษาอังกฤษ
| ||
ปริญญาโท |
| ||
ปริญญาเอก |
หลักสูตรภาษาอังกฤษ
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2519 เดิมมีชื่อว่า คณะพลังงานและวัสดุ นับเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เปิดหลักสูตรที่มีลักษณะเป็นสหวิทยาการ (Interdisciplinary) ปัจจุบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[11] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาโท |
| ||
ปริญญาเอก |
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[12] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาโท |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||
ปริญญาเอก |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
คณะศิลปศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[13] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาโท |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||
ปริญญาเอก |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2538 ตามแผนพัฒนาการศึกษาฉบับที่ 7 เพื่อวิจัยพัฒนาการศึกษาระดับสูงทางด้านวิชาการหุ่นยนต์ และงานวิจัยทางด้านระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการให้บริการรับปรึกษาด้านอุตสาหกรรมต่างๆภายในประเทศ
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[14] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาตรี |
| ||
ปริญญาโท |
| ||
ปริญญาเอก |
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี 2546 เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตและบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ใน 4 สาขาวิชา ดังนี้
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[15] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาโท |
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
เปิดสอนระดับปริญญาโทและเอก
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[16] | ||
---|---|---|---|
ปริญญาโท |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||
ปริญญาเอก |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
เปิดสอนระดับปริญญาตรี
ระดับปริญญา | สาขาวิชา[17] | ||||
---|---|---|---|---|---|
ปริญญาตรี |
หลักสูตรนานาชาติ
| ||||
ปริญญาโท |
| ||||
ปริญญาเอก |
| ||||
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา |
สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวท) จัดตั้งขึ้นตามประกาศพระราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 114 ตอนที่ 16 ก. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้ คือ ให้สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ เพื่อเป็นแหล่งดำเนินการวิจัย การพัฒนาและการวิศวกรรม ถ่ายทอดเทคโนโลยีสหวิทยบริการ เพื่อสนองนโยบายด้านการพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และเน้นนโยบายการพึ่งพาตนเอง สร้างขีดความสามารถของภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาวิชาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ประกอบด้วยศูนย์ต่างๆ ดังนี้