![]() | |
คติพจน์ | อังกฤษ: Light Liberty Learning ไทย: แสงสว่าง อิสรภาพ และการเรียนรู้ |
---|---|
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐบาล |
สถาปนา | พ.ศ. 2535 - ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2513 - วิทยาลัยเทคนิคบริสตอล |
ที่ตั้ง | , 51°30′01″N 2°32′51″W / 51.50021°N 2.54749°W |
วิทยาเขต | ชานเมืองหนาแน่น |
สี | ขาว ดำ แดง |
เครือข่าย | EUA AMBA ยูนิเวอร์ซิตียูเค สมาคมมหาวิทยาลัยเครือจักรภพ |
เว็บไซต์ | www |
![]() |
มหาวิทยาลัยเวสต์ออฟอิงแลนด์ หรือ มหาวิทยาลัยอังกฤษภาคตะวันตก (University of the West of England, ชื่อย่อ: UWE Bristol หรือ UWE) เป็นสถาบันอุดมศึกษาขนาดใหญ่ในสหราชอาณาจักร มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่ต้องปฏิบัติและการจัดการ วิทยาเขตหลักตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองบริสตอล ใกล้กับทางหลวงพิเศษหมายเลข M32 และมีวิทยาเขตรองในเขตเมืองบริสตอล และเทศมณฑลกลอสเตอร์เชอร์ มหาวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง โดยมีจำนวนนักศึกษามากกว่ามหาวิทยาลัยบริสตอลที่อยู่ใกล้เคียง[1][2]
มหาวิทยาลัยเวสต์ออฟอิงแลนด์ยกฐานะจากวิทยาลัยเทคนิคบริสตอลเมื่อ พ.ศ. 2535 ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษาชั้นสูงและการศึกษาต่อเนื่องที่ให้ยุบสภาทุนอุดหนุนวิทยาลัยเทคนิคเสีย มหาวิทยาลัยเป็นผู้ให้บริการรถบัส U+WE นอกเหนือจากที่บริษัทเฟิสต์จัดการเดินรถเป็นประจำอยู่แล้วเพื่อเป็นสวัสดิการแก่นักศึกษา คณาจารย์ พร้อมกับให้บริการกับบุคคลทั่วไปด้วย[3]
มหาวิทยาลัยเวสต์ออฟอิงแลนด์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2513 ในฐานะวิทยาลัยเทคนิคบริสตอล โดยอาศัยรากฐานจากโรงเรียนสมาคมพ่อค้าบริสตอล ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2138 ต่อมามหาวิทยาลัยบริสตอลและมหาวิทยาลัยบาธได้เข้ามาร่วมมือในการจัดการศึกษาของโรงเรียน จนสามารถแปรสภาพเป็นวิทยาลัยเทคนิคในเวลาต่อมา พื้นที่ของวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ทุ่งแอชลีย์ (Ashley Down) ซึ่งปัจจุบันได้ยกให้วิทยาลัยนครบริสตอลไปแล้ว[4] นอกจากวิทยาลัยเทคนิคแล้ว ยังมีวิทยาลัยศิลปกรรมอังกฤษตะวันตก (West of England College of Art) ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งตั้งที่ตำบลแอชตันเกต ทางตอนใต้ของแม่น้ำเอวอน และวิทยาลัยสาธารณสุขเอวอนและกลอสเตอร์เชอร์ ซึ่งตั้งที่ตำบลเกลนไซด์ สถาบันทั้งหมดเหล่านี้ได้ยุบรวมเข้ากับวิทยาลัยเทคนิคราว ๆ พ.ศ. 2519
ต่อมาตามนัยแห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษาชั้นสูงและการศึกษาต่อเนื่อง พ.ศ. 2535 (Further and Higher Education Act, 1992)[5] ทำให้วิทยาลัยต้องแปรสภาพมาเป็นมหาวิทยาลัย โดยใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยอังกฤษภาคตะวันตก หรือ มหาวิทยาลัยเวสต์ออฟอิงแลนด์
มหาวิทยาลัยทำการเรียนการสอนเป็นหลักในด้านการออกแบบและการจัดการ ซึ่งเป็นส่วนที่มหาวิทยาลัยบริสตอลไม่ได้เปิดสอน โดยมีคณะวิชา 4 คณะ ดังนี้[6]
มหาวิทยาลัยมีวิทยาเขตหลักที่ทางตอนเหนือของเมืองบริสตอล อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟิลตันแอบบีย์วูดและบริสตอลพาร์กเวย์ มีรถบัสเข้าถึงสะดวกและมหาวิทยาลัยได้จัดให้มีรถบัส U+WE ระหว่างวิทยาเขตและเขตเมือง ดำเนินการโดยบริษัทเวสเซกส์บัส นอกเหนือจากที่บริษัทเฟิสต์จัดการเดินรถอยู่แล้ว[7] เพื่อเป็นสวัสดิการแก่นักศึกษาและคณาจารย์ด้วย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีวิทยาเขตรองที่บาวเวอร์แอชตัน ติดเขตเทศมณฑลซัมเมอร์เซต ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งของคณะศิลปะ แต่เดิมเป็นวิทยาลัยศิลปกรรมอังกฤษตะวันตก ซึ่งย้ายมาบริเวณนี้เมื่อ พ.ศ. 2512 จากที่ตั้งเดิมที่สะพานคลิฟตัน (ปัจจุบันกลายเป็นหอศิลป์)[8][9] มหาวิทยาลัยมีโครงการปรับปรุงทั้งวิทยาเขตรอง และขยายพื้นที่วิทยาเขตหลักให้กว้างขึ้น โดยซื้อที่ดินของบริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด ขนาด 177 ไร่ เพื่อขยายที่ดินที่มีอยู่เดิม 202 ไร่ และรองรับการเรียนการสอนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังวางแผนจะย้ายคณะเวชศาสตร์จากโรงพยาบาลเกลนไซด์มาสอนที่นี่แทนหากการก่อสร้างแล้วเสร็จ[10] ณ ปัจจุบัน การเรียนการสอนสายสุขภาพของมหาวิทยาลัย ปัจจุบันยังดำเนินการที่โรงพยาบาลเกลนไซด์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลาง มีงานวิจัยหลักด้านตัวรับรู้ชีวภาพ (biosensor) และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม[11]
วิทยาเขตเซนต์มัทเทียส (St Mathhias Campus) เดิมเคยเป็นของมหาวิทยาลัย เคยใช้ทำการเรียนการสอนสาขาวิชาศิลปะและการศึกษา อาคารหลักสร้างขึ้นในยุคสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย แต่ป้จจุบันมหาวิทยาลัยได้ขายที่ดินส่วนนี้ให้แก่โรงเรียนสไตเนอร์[12] แล้วย้ายอาคารเรียนไปสร้าง ณ วิทยาเขตรอง ณ ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมีแผนสร้างสนามกีฬาเป็นของตนเองแต่ยังมิได้ดำเนินการใด ๆ[13]
มหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานตราอาร์มซึ่งออกแบบโดยสำนักมุรธาธรแห่งสหราชอาณาจักร (College of Arms)[14] ประกอบด้วยโล่ขอบสีขาว แบ่งเป็นสองซีกด้วยเส้นสลับฟันปลาเป็นสำคัญหมายถึงแม่น้ำเอวอนและแม่น้ำเซเวิร์น ซีกซ้ายพื้นสีดำ มีกุญแจไขว้กัน ซีกขวาพื้นสีแดง มีพระมหามงกุฎสีเงิน 3 องค์ วางเรียงจากบนลงล่าง โล่นี้ตกทอดมาจากวิทยาลัยเซนต์มัทเทียส ที่เหนือโล่เป็นหมวกเกราะพร้อมพู่ เหนือหมวกเกราะขึ้นไปเป็นใบเรือและเสากระโดง แทนต้นกำเนิดของมหาวิทยาลัยที่แต่เดิมมาจากวิทยาลัยพาณิชยนาวี บนยอดเสาเป็นกระบะมีเปลวเพลิง แทนความโชติช่วงและความปรารถนาที่จะศึกษาเล่าเรียน ด้านซ้ายและขวาของตราเป็นม้าเขาเดียว (ยูนิคอร์น)และกวางหางปลาตามลำดับ ที่ไหล่หน้ามีวงกลมและเส้นหยักเป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้ ขาหน้าข้างหนึ่งถือโล่ไว้ อีกข้างถือต้นแอปเปิล อันเป็นต้นไม้แห่งวิชาการ และที่คอมีจุลมงกุฎสวมครอบไว้ แทนพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบ ซึ่งขึ้นครองราชย์ที่บาธ ใกล้ ๆ กับเมืองบริสตอล ทั้งม้าและกวางนำมาจากตราประจำเทศมณฑลบริสตอล และตราประจำเทศมณฑลเอวอนเดิม ด้านใต้ตราเป็นแพรแถบจารึกภาษิตของมหาวิทยาลัย[15]
All activities at UWE Bristol’s St Matthias and Glenside campuses will be moved to Frenchay as part of the project. Bower Ashton is likely to be retained for at least 15 years.