วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ | |
---|---|
เกิด | 11 สิงหาคม พ.ศ. 2525[1] อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย |
สาบสูญ | 4 มิถุนายน 2020 (อายุ 37)
[2] สูญหายมาแล้ว 4 ปี 9 เดือน 21 วัน พนมเปญ ประเทศกัมพูชา |
สถานะ | ตำรวจกัมพูชาปฏิเสธการค้นหา[3] |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยรามคำแหง |
อาชีพ |
|
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ (เกิด 11 สิงหาคม พ.ศ. 2525) เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย[5] นอกจากนี้เขายังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยภายในประเทศไทย และการป้องกันเชื้อเอชไอวีในหลายประเทศ[6] เขาเป็นผู้ต้องหาคดีฐานความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ตามรายงานที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวอิศรา เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 ซึ่งระบุว่าเขาลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในประเทศกัมพูชา[5]
วันเฉลิมถูกชายมีอาวุธปืนขับรถเข้ามาลักพาตัวเขาไปจากที่พักขณะลี้ภัยการเมืองอยู่ในพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลาประมาณ 17.54 น. หลังการรายงานข่าวการถูกลักพาตัวโดยมีประชาไทเป็นผู้เผยแพร่ข่าวรายแรก ได้ก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาดำเนินการติดตามและจัดการกับการถูกบังคับสูญหายของเขา ในโลกออนไลน์ได้มีการติดแฮชแท็ก #saveวันเฉลิม ขึ้นเป็นเทรนด์อันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ของประเทศไทย[5]รวมทั้งได้แสดงความเห็นว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นการบังคับให้บุคคลสูญหายที่รัฐบาลไทยหรือกัมพูชามีส่วนรู้เห็น
วันเฉลิมพื้นเพมาจากอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยเป็นผู้ประสานงานศูนย์กิจกรรมเยาวชนเพื่อชุมชนและสังคม (Y-act) เคยทำงานกับสถาบันเยาวชนเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย ต่อมาในช่วงการประท้วงการเมือง พ.ศ. 2557 เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านเผยแพร่ข่าวสารและประชาสัมพันธ์ โดยการแต่งตั้งของรองนายกรัฐมนตรี เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ[7] ขณะทำงานอยู่พรรคเพื่อไทย วันเฉลิมเคยทำงานประชาสัมพันธ์ให้กับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และเป็นผู้ถ่ายภาพของชัชชาติขณะเดินเท้าเปล่าเข้าวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ที่ต่อมากลายเป็นอินเทอร์เน็ตมีม[8]
หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 วันเฉลิมถูกหมายจับคดีฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หมายจับคดีในฐานความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยในปี พ.ศ. 2558 และหมายจับในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 กรณีโพสต์ข้อความบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2561[5]
วันเฉลิมถูกลักพาตัวบริเวณหน้าที่พักแม่โขงการ์เดนขณะลี้ภัยในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเวลา 17:54 น. ของวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563 โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียมพยายามเข้าไปช่วย แต่ถูกสกัดด้วยกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนข่มขู่ แหล่งข่าวของ ประชาไท ระบุว่าระหว่างเกิดเหตุกำลังโทรศัพท์คุยกับวันเฉลิม โดยได้ยินเสียงสุดท้ายว่า "โอ๊ย หายใจไม่ออก" ก่อนสายจะตัดไป และหลังพยายามติดต่อกลับกว่าครึ่งชั่วโมง รวมทั้งติดต่อเพื่อนให้ช่วยตรวจสอบกับที่พักของเขาจึงทราบว่าหายตัวไป[5] สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์พี่สาวของวันเฉลิมยอมรับว่าการไปกัมพูชาของวันเฉลิมไปอย่างผิดกฎหมาย[9]แต่มั่นใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่มีประเด็น ชาวกัมพูชารายนึงที่รู้จักกับวันเฉลิม เล่าว่าหนึ่งวันก่อนสูญหาย วันเฉลิมยังสั่งช็อคโกแลตปั่นที่ไม่ใส่ฝาครอบเพราะต้องการลดโลกร้อนและดูดบุหรี่อย่างสำราญใจ อีกทั้งวันเฉลิมยังเปิดร้านส้มตำกับเพื่อนข้าง ๆ ที่พัก [10]
ตำรวจกัมพูชาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธการรู้เห็น พร้อมระบุว่าข่าวการลักพาตัวเป็นข่าวปลอม[3] ในขณะที่ตำรวจไทยก็ออกแถลงการณ์ปฏิเสธความรู้เห็น และระบุว่าไม่ได้อยู่ภายใต้ขอบเขตการดูแลของไทย[11]
หลังข่าวแพร่ออกไป มีชาวเน็ตจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นและแสดงความเป็นห่วงต่อวันเฉลิม โดยแฮชแท็ก #saveวันเฉลิม ได้ขึ้นเป็นเทรนด์อันดับหนึ่งของประเทศไทย[6] รวมทั้งได้แสดงความเห็นว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นการบังคับให้บุคคลสูญหายที่รัฐบาลไทยหรือกัมพูชามีส่วนรู้เห็น[4]
หน่วยงานสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยหรือกัมพูชารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ เช่น สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ[5], ฮิวแมนไรตส์วอทช์ และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งทั้งสองหน่วยงานมุ่งเน้นการเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาลงมือสืบสวน[12] ในขณะที่มูลนิธิกระจกเงา เผยแพร่โปสเตอร์ตามหาในฐานะ "คนหาย" และมีองค์กรนักศึกษาต่าง ๆ ออกแถลงการณ์และจัดกิจกรรมเรียกร้องความเป็นธรรม[6] เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งไปสู่การประท้วงทั่วประเทศ ในปี พ.ศ. 2563
กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แสดงภาพวันเฉลิมกับกัญชา และลือกันไปว่าอาจเป็นสาเหตุให้เขาถูกลักพาตัว[13] เนื่องจากในกฎหมายกัมพูชาไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติปลูกกัญชาภายในประเทศ[14][15]
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ซึ่งครบรอบ 1 ปีการหายสายสูญของวันเฉลิม สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิมได้ยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาทีหน้า กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ความยุติธรรม จากนั้นพี่สาววันเฉลิมและแอมแนสตี้ประเทศไทยร่วมยื่นหนังสือแก่กระทรวงยุติธรรม ถึงความคืบหน้ากรณีการหายไปของวันเฉลิม และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 12 นาที [16] ฝ่ายแอมแนสตี้ประเทศไทยเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม ปรับปรุง ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ และเร่งรัดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินการสอบสวนใหม่อีกครั้ง รวมทั้งข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) เพื่อประสานความร่วมมือร่วมใจจากประเทศในอาเซียน [17]
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ BP-20200610
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ bbc2