ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาที่มีผู้นับถือในประเทศโอมานถึงร้อยละ 3.63 ใน ค.ศ. 2020[1] โดยมีสมณะกระทรวงในประเทศถึง 90 แห่ง[2]
มีบันทึกเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ในประเทศโอมานก่อนการเข้ามาของโปรตุเกสใน ค.ศ. 1504 อยู่น้อย แต่มีซากที่คาดว่าเป็นโบสถ์ในเมือง Suhar[3] นอกจากนี้ Chronicle of Arbela ระบุถึงมุขมณฑลที่ Bet Mazunaye ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รวมโอมาน อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิชาการยังคงถกเถียงกันในเรื่องความถูกต้องของข้อมูลในคริสต์ศตวรรษที่ 6[4]
ชาวคริสต์ในประเทศโอมานเกือบทั้งหมดมาจากประเทศอื่น[5] ส่วนใหญ่มาจากฟิลิปปินส์ อินเดีย หรือประเทศตะวันตก และอยู่รวมกันในพื้นที่เมือง คือ: มัสกัต ศุฮาร และเศาะลาละฮ์[6][7] สำหรับชาวคริสต์หลายคนที่อาศัยและทำงานอยู่นอกบริเวณเหล่านี้ การเดินทางไปที่โบสถ์ถือเป็นเรื่องลำบาก และจะไปเฉพาะในบางโอกาส[8] และมีสุสานคริสต์ในมัสกัต ซึ่งบริหารโดย Petroleum Development Oman[3]
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ แต่รัฐธรรมนูญโอมาน มาตราที่ 28 ปกป้องเสรีภาพในการนับถือศาสนาตราบเท่าที่ยังไม่ละเมิดกฎหมายอิสลาม[9] ดังนั้น ชาวคริสต์ในประเทศโอมานจึงมีเสรีภาพในการนับถือศาสนาเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดก็ตาม เช่น ชาวคริสต์ต้องทำพิธัในพื้นที่เฉพาะที่รัฐบาลจัดสรรให้ โดยยังเป็นเรื่องยากสำหรับคริสตจักรที่จะได้รับใบอนุญาตในการก่อสร้าง และการอนุญาตให้เป็นเจ้าภาพการรวมตัวทางศาสนาในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่บรรลุผลได้ยาก และห้ามรวมกลุ่มกันเป็นการส่วนตัว แม้ว่ากฎหมายนี้ไม่ได้บังคับใช้อย่างเคร่งครัดเสมอไป[10]
การเปลี่ยนศาสนาในที่สาธารณะเป็นเรื่องต้องห้าม[11] อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีที่มุสลิมหันมารับความเชื่อศาสนาคริสต์ด้วยการประกาศเปลี่ยนศาสนาในที่ลับ ทำให้พวกเขานับถือศาสนาคริสต์ แต่ตามกฎหมายยังคงเป็นมุสลิม นั่นทำให้ข้อมูลสถิติชาวโอมานที่นับถือศาสนาคริสต์ไม่ได้นับมุสลิมที่หันมานับถือศาสนาคริสต์ การสอนศาสนาอิสลามถือเป็นภาคบังคับในโรงเรียนรัฐบาล แต่ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมสามารถได้รับการยกเว้นจากสิ่งนี้[12] ผลการศึกษาใน ค.ศ. 2015 ประมาณการว่ามีผู้นับถือศาสนาคริสต์ที่มีภูมิหลังเป็นมุสลิมเพียง 200 คนอาศัยอยู่ในประเทศนี้ และใช่ว่าทุกคนเป็นพลเมืองในประเทศนี้[13]