บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ จัดลิงก์ภายใน และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย | |
---|---|
ดร. สุรเกียรติ์ (พ.ศ. 2567) | |
รองนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549 | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | |
ดำรงตำแหน่ง 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 | |
นายกรัฐมนตรี | บรรหาร ศิลปอาชา |
ก่อนหน้า | ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ |
ถัดไป | บดี จุณณานนท์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | |
ดำรงตำแหน่ง 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
ก่อนหน้า | สุรินทร์ พิศสุวรรณ |
ถัดไป | กันตธีร์ ศุภมงคล |
นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567 | |
ก่อนหน้า | ภิรมย์ กมลรัตนกุล |
นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 12 กันยายน พ.ศ. 2567 | |
ก่อนหน้า | เกษม วัฒนชัย |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 มิถุนายน พ.ศ. 2501 จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ไทยรักไทย (2541–2550) เพื่อแผ่นดิน (2550–2551) |
คู่สมรส | ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย (ลดาวัลย์ ณ อยุธยา) |
บุตร | ดร.สันติธาร เสถียรไทย |
บุพการี | ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุนทร เสถียรไทย คุณหญิงเกื้อกูล เสถียรไทย (สกุลเดิม สวัสดิ์-ชูโต) |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (ปร.ด.) มหาวิทยาลัยทัฟส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
อาชีพ | นักวิชาการ นักบริหาร นักการทูต |
ลายมือชื่อ | |
เว็บไซต์ | https://www.facebook.com/DrSurakiart |
ศาสตราจารย์พิเศษ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนที่ 23[1] นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คนที่ 9 เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีสมัยพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ (ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก) อีกทั้งเคยถูกเสนอชื่อเพื่อเป็นเลขาธิการสหประชาชาติในนามของ 10 ประเทศอาเซียน แต่ได้ถอนตัวในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549[2] หลังมีการรัฐประหารในประเทศไทย
ศาสตราจารย์พิเศษ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เกิดวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2501 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายคนเดียวของศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุนทร เสถียรไทย[3] (อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ และอดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง) กับศาสตราจารย์กิตติคุณ คุณหญิงเกื้อกูล เสถียรไทย (สกุลเดิม : สวัสดิ์-ชูโต) (อดีตคณบดีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย สมรสกับท่านผู้หญิง สุธาวัลย์ เสถียรไทย (ธิดาของหม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์ อดีตราชเลขาธิการและอดีตองคมนตรี กับท่านผู้หญิงหม่อมราชวงศ์บุษบา สธนพงศ์ (สกุลเดิม : กิติยากร) พระขนิษฐาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) มีบุตร 1 คน คือ ดร.สันติธาร เสถียรไทย
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เคยร่วมสอนกฎหมายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กับ ศาสตราจารย์เฟรดเดอริก สไนเดอร์ ในระดับปริญญาโท ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ริเริ่มหลักสูตรกฎหมายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการวิจัยสหสาขาระหว่างนิติศาสตร์และสาขาอื่น ๆ ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยกฎหมายและการพัฒนาเป็นคนแรก และระหว่าง พ.ศ. 2534 - 2538 ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[4] เป็นศาสตราภิชานของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5 วาระติดต่อกัน และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์พิเศษ สาขาวิชานิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553[6] เคยดำรงตำแหน่ง นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2564)[7] ประธานที่ประชุมนายกสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง (พ.ศ. 2563 - พ.ศ. 2564) เคยดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน สหรัฐอเมริกาและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง) (พ.ศ. 2561 - พ.ศ. 2567)
เคยดำรงตำแหน่งนักวิชาการอาวุโสของโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด และโรงเรียนรัฐบาลเคนเนดี้ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา เป็นศาสตราจารย์อาคันตุกะ (Visiting Professor) ของมหาวิทยาลัยบราวน์ สหรัฐอเมริกา และสมาชิกสภาที่ปรึกษา (Member of the Advisory Council), Global Law and Policy Institute, Harvard Law School, U.S.A. และ Member of Asian Advisory Group of the Fletcher School of Law and Diplomacy, Tufts University สหรัฐอเมริกา
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ "ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก" ในรัฐบาลพล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา (ครม.51) และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และรองนายกรัฐมนตรี[8] ในรัฐบาลของดร.ทักษิณ ชินวัตร (ครม.54 - ครม.55) ซึ่งได้ริเริ่มกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและในภูมิภาคเอเชีย เช่น ACMECS และ ACD
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้รับเลือกจากประเทศในเอเชียให้เป็นประธานสมาคมกฎหมายระหว่างประเทศแห่งเอเชีย (President of Asia Society of International Law (ASIL)) ระหว่างปี 2556 - 2558[9] และได้รับเลือกจากสมาชิก 24 ท่านของคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและการปรองดองแห่งเอเชีย (Asian Peace and Reconciliation Council : APRC) ให้เป็นประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพ และการปรองดองแห่งเอเชีย (พ.ศ. 2555 - ปัจจุบัน) ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยลดความขัดแย้งและส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาคเอเชีย[10][11], ได้รับเลือกเป็นกรรมการของการประชุมโบอ่าว (Boao Forum for Asia) 2 สมัยจนถึงปัจจุบัน, ได้รับเลือกเป็นกรรมการผู้นำเพื่อสันติภาพ (Leaders for Peace), ได้รับเลือกเป็นสมาชิกคณะกรรมการวิสัยทัศน์นิติธรรม 2030 และเป็นประธานร่วมกับอดีตประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ ของสหรัฐอเมริกา ในคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศเนปาล (พ.ศ. 2551, พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2560) เป็นต้น
ในปี พ.ศ. 2549 สุรเกียรติ์เคยถูกเสนอชื่อเพื่อเป็นเลขาธิการสหประชาชาติในนามของ 10 ประเทศอาเซียน แต่ได้ถอนตัวไปในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549[4][2]
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานที่ปรึกษาและประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่งมีสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นองค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ องค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ตั้งมา 29 ปี ซึ่งได้มีกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนด้านอุทกภัย การเฝ้าระวังภัยและการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน, เป็นประธานมูลนิธิส่งเสริมนักกฎหมายธุรกิจ, รองประธานมูลนิธิพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า, ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (พ.ศ. 2554 - 2559), ประธานกรรมการมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (พ.ศ. 2559 - 2562), ประธานกรรมการกองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (พ.ศ. 2554 - 2564), ประธานกิตติมศักดิ์กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (พ.ศ. 2565 ถึงปัจจุบัน) เป็นต้น
ในอดีตเคยเป็นประธานมูลนิธิสถาบันการต่างประเทศสราญรมย์, ประธานมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งอนุรักษ์พัฒนาวัฒนธรรมการแสดงโขนและวัฒนธรรมของไทย, ประธานคณะกรรมการการจัดหาทุนโครงการผ่าตัดหัวใจให้คนยากจนเทิดพระเกียรติในหลวงทั่วหล้า 84 พรรษามหาราชา (พ.ศ. 2554)
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมายสากลสยามพรีเมียร์ เมื่อปี พ.ศ. 2533 นอกจากนี้เป็นผู้มีบทบาทหลักในการเจรจาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติ (Take or Pay) ระหว่างการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยกับกลุ่มผู้ผลิตก๊าซในเมียนม่าร์ ซึ่งผลการเจรจาเป็นผลให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยไม่ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีความ นอกจากนี้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ในปี พ.ศ. 2540 ในฐานะประธานกรรมการ ได้นำบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ไป Roadshow ในต่างประเทศ จนประสบความสำเร็จในการออกหุ้นเพิ่มทุนแม้อยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ 2540 และยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจากับเจ้าหนี้ต่างประเทศเพื่อปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูกิจการให้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด ในฐานะประธานคณะผู้นำแผนและ ประธานคณะผู้บริหารแผน จนประสบความสำเร็จเป็นบริษัทแรกของไทยหลังวิกฤตเศรษฐกิจ 2540 จึงเป็นผลดีต่อบริษัทที่รัฐบาลมีหุ้นใหญ่ให้เจริญก้าวหน้าได้มั่นคง และปัจจุบันเป็นประธานที่ปรึกษาให้บริษัทเอกชนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศหลายแห่ง
นอกจากนี้ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ยังมีบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก เช่น World Bank Economic Review, Harvard Journal of International Law, Harvard Human Rights Journal, Texas International Law Journal, Far Eastern Economic Review
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้
ลำดับสาแหรกของสุรเกียรติ์ เสถียรไทย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ก่อนหน้า | สุรเกียรติ์ เสถียรไทย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ร้อยตำรวจเอก ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ พินิจ จารุสมบัติ สมศักดิ์ เทพสุทิน |
รองนายกรัฐมนตรี (ครม. 55) (11 มีนาคม พ.ศ. 2548 - 19 กันยายน พ.ศ. 2549) |
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ | ||
สุรินทร์ พิศสุวรรณ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ครม.54) (14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544-11 มีนาคม พ.ศ. 2548) |
กันตธีร์ ศุภมงคล | ||
ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ครม.51) (18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2539) |
บดี จุณณานนท์ |