หุบเขายาร์ลุง (ทิเบต: ཡར་ཀླུངས་, ไวลี: yar kLungs; Yarlung Valley) เป็นบริเวณทางภูมิศาสตร์ที่เกิดจากแม่น้ำยาร์ลุงชู แม่น้ำสาขาของแม่น้ำจังโป ในแคว้นชันนัน เขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน โดยเฉพาะจุดที่แม่น้ำยาร์ลุงชูบรรจบกับแม่น้ำชงเย ก่อนจะขยายออกเป็นที่ราบกว้าง 2 กิโลเมตร และไหลไปบรรจบกับแม่น้ำจังโป[1] ในอำเภอเนดง พื้นที่บริเวณนี้รวมถึงเซตัง หนึ่งในเมืองสำคัญของทิเบต ห่างไป 183 กิโลเมตรทางใต้ของลาซา[2] 29°12′N 91°46′E / 29.200°N 91.767°E พื้นที่นี้มีป่าไม้ขึ้นปกคลุมและมีความเหมาะสมแก่การกสิกรรม โดยเป็นที่รู้จักเป็นพิเศษจากผลผลิตแอปเปิลและลูกแพร์[3]
หุบเขายาร์ลุงและหุบเขาชงเยที่อยู่ติดกัน รวมกันในอดีตเป็นราชธานีของราชวงศ์ยาร์ลุงของทิเบต ซึ่งควบคุมเส้นทางการค้าสำคัญระหส่างอินเดียกับภูฏาน จักรพรรดิทิเบตองค์แรก ซงเซ็น คัมโป (605 หรือ 617? - 649) ย้ายราชธานีไปยังลาซาหลังขยับขยายอาณาเขต
หุบเขายาร์ลุงมักได้สมญาเป็น "ต้นธารของอารยธรรมทิเบต" (cradle of Tibetan civilisation) มีขนาดยาวเพียง 72 กิโลเมตร แต่เต็มไปด้วยปราสาท อาราม วัด ถ้ำพุทธ และสถูปมากมาย แหล่งำลัง (power places; ne-sum) สามแห่ง ตั้งอยู่ในยาร์ลุง ได้แก่ เชลดัก (Sheldrak), ตราดรุก (Tradruk) และ ยุมบูลากัง (Yumbu Lagang; วังยุงบูลากัง) และมีสถูปสำคัญที่ประดิษฐานพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ (ten-sum) สามองค์ คือ Takchen Bumpa, Gontang Bumpa และ Tsechu Bumpa[4]
ไม่ไกลจากเมืองเซซังในอดีตเคยมีสะพานแขวนโลหะสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 14 ข้ามแม่น้ำยาร์ลุงจังโป/แม่น้ำพรหมบุตร ก่อสร้างโดยวิศวกรขื่อดัง ทังทง คยัลโป มีความยาว 150 ถึง 250 เมตร ปัจจุบันเหลือเพียงหินใหญ่ที่ในอดีตรองรับน้ำหนักสะพานห้าก้อน สะพานใหม่มีการสร้างทดแทนในยุคปัจจุบันประมาณไม่กี่กิโลเมตรทางปลายน้ำที่งาโก (Nyago)[5] สะพานนี้พังทลายมานานแล้ว แม้แต่เมื่อครั้นสรัตทาสเดินทางมาที่นี่ในปี 1879 ยังต้องใช้เรือข้ามฟากข้ามเนื่องจากสะพานอยู่ในสภาพที่ใช้งานไม่ได้อย่างหนัก[6]