อี-โฟร์ (อังกฤษ: E-Four; ย่อมาจาก Electrical 4WD System)[1] หรือมีชื่ออื่นคือ eFour, AWD-i หรือ AWD-e ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยโตโยต้า หลักการทำงานคือล้อหน้าจะถูกให้กำลังโดยระบบไฮบริด ส่วนล้อหลังถูกให้กำลังโดยมอเตอร์ไฟฟ้าเฉพาะที่มีชุดควบคุมกำลังของตัวมันเองกับเกียร์ทดรอบและเฟืองท้าย ปริมาณของแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหลังจะถูกปรับโดยชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ของรถตามสภาพการขับขี่โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้อี-โฟร์ยังมีระบบเบรกที่คืนกำลังไฟฟ้าระหว่างการเบรกด้วย[2] ในทวีปอเมริกาเหนือ โตโยต้าจะใช้คำว่า AWD-i (ย่อมาจาก All-Wheel Drive with Intelligence) แทนที่คำว่าอี-โฟร์[3][4][5] ระบบนี้จะไม่ส่งกำลังจากเครื่องยนต์สันดาปจากหน้ารถไปยังล้อหลัง แต่จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการส่งกำลังและแรงบิดไปยังล้อหลังเท่านั้น[6][7][8]
รถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ระบบอี-โฟร์คือโตโยต้า เอสติมา ไฮบริดรุ่นปี 2001[9] จากนั้นก็ได้ถูกใช้โดยรถโตโยต้าและเล็กซัสหลายรุ่นต่อมา เช่น โตโยต้า ราฟโฟร์รุ่นปี 2016[10] เล็กซัส เอ็นเอ็กซ์ 300h, เล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 450h[11] โตโยต้า พริอุส ออลวีลไดร์ฟ-อี (AWD-e)[12] และโตโยต้า พริอุสรุ่นที่ห้าก็ได้มีการติดตั้งระบบนี้เป็นมาตรฐานในเครื่องยนต์ไฮบริด[13] ในประเทศญี่ปุ่น โตโยต้า พริอุสที่ขับเคลื่อนสี่ล้อมีการจำหน่ายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2558 แล้วโดยเพิ่มราคาจากรุ่นขับเคลื่อนสองล้อไปจำนวน 1,700 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยอี-โฟร์ที่ใช้ในพริอุสนั้นทำให้รถมีน้ำหนักขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ได้ลดการประหยัดน้ำมันหรือลดพื้นที่ในห้องโดยสารเลย และในไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแสดงรถยนต์ลอสแองเจลิสในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 โตโยต้าออกข่าวประชาสัมพันธ์พร้อมข้อความและรูปภาพที่แสดงรถในสภาพแวดล้อมที่มีหิมะ พร้อมกับกล่าวว่าระบบอี-โฟร์จะเปิดตัวพร้อมกับรถยนต์รุ่นปี 2019 ในนำมาแสดงในงาน[14]