อเมริกา: เดอะสตอรีออฟอัส | |
---|---|
![]() | |
ประเภท | สารคดี อิงประวัติศาสตร์ |
เขียนโดย | เอ็ด ฟิลด์ส แดเนียล ฮอลล์ |
บรรยายโดย | เลียฟ ชไรเบอร์ แดนนี เวบบ์ (เวอร์ชันต่างประเทศ) |
ผู้ประพันธ์ดนตรีแก่นเรื่อง | แอนน์ นิคิติน จอห์น ฮาร์ดี (4 ตอน) สจ๊วร์ต ฟ็อกซ์ (4 ตอน) |
ประเทศแหล่งกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
ภาษาต้นฉบับ | อังกฤษ |
จำนวนตอน | 12[1] |
การผลิต | |
ผู้กำกับภาพ | จูลิโอ บิกคารี |
ความยาวตอน | 540 นาที |
บริษัทผู้ผลิต | นูโทเปีย |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | ฮิสทรี |
ออกอากาศ | 25 เมษายน ค.ศ. 2010 – 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 |
การแสดงที่เกี่ยวข้อง | |
อเมริกา: เดอะสตอรีออฟอัส (อังกฤษ: America: The Story of Us) เป็นมินิซีรีส์สารคดีโทรทัศน์ความยาว 9 ชั่วโมง จำนวน 12 ตอน[2] ซึ่งออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 2010 ทางช่องฮิสทรี[3] ผลิดโดยนูโทเปีย สารคดีนี้นำเสนอประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกามากกว่า 400 ปี (โดยเน้นถึงการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ของสหรัฐอเมริกามีผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ของประเทศและโดยนัยต่อโลกอย่างไร) ครอบคลุมช่วงเวลานับตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานในเจมส์ทาวน์ของชาวอังกฤษที่ประสบความสำเร็จโดยเริ่มต้นใน ค.ศ. 1607 จนถึงปัจจุบัน[4] บรรยายโดยเลียฟ ชไรเบอร์ (แดนนี เวบบ์ สำหรับเวอร์ชันต่างประเทศ) ซีรีส์นี้สร้างเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมายโดยใช้นักแสดงที่แต่งกายในสไตล์ของยุคนั้นและสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ แม้มินิซีรีส์นี้ได้รับกระแสวิจารณ์ผสมจากนักวิจารณ์ แต่มินิซีรีส์สามารถดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับรายการพิเศษที่ออกอากาศทางช่องจนถึงปัจจุบัน
ตอน | ชื่อ | วันที่ฉายครั้งแรก | ผู้ชมจากประเทศสหรัฐอเมริกา (ล้านคน) | |
---|---|---|---|---|
1 | "ต่อต้านและการเริ่มต้น (Rebels)" | 25 เมษายน ค.ศ. 2010 | 5.674[5] | |
ตั้งแต่เจมส์ทาวน์ไปจนถึงพลีมัธ ผู้ตั้งถิ่นฐานในยุคแรกต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ยาสูบหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งโอกาส ทางเหนือกลายเป็นแหล่งพลังงานทางการค้า ความตึงเครียด การเก็บภาษี และการต่อต้านทำให้ชาวอาณานิคมอเมริกันเริ่มทำสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ นั่นก็คือ การกบฏต่อราชบัลลังก์อังกฤษได้สำเร็จ | ||||
2 | "สู่การเปลี่ยนแปลง (Revolution)" | 25 เมษายน ค.ศ. 2010 | 5.674[5] | |
กองทัพของจอร์จ วอชิงตันใกล้จะปราชัย แต่อาวุธใหม่และยุทธวิธีการต่อสู้กลับพลิกสถานการณ์ อาณานิคมประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ ชาติใหม่ถือกำเนิดขึ้นจากการปฏิวัติ | ||||
3 | "สู่ตะวันตก (Westward)" | 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | 3.881[6] | |
ผู้บุกเบิกที่บุกเบิกได้ตั้งเป้าหมายที่จะพิชิตดินแดนทางตะวันตกในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่กลับพบว่าดินแดนถูกยึดครองไปแล้ว ขบวนเกวียนต้องเผชิญกับความยากลำบากบนเส้นทางสู่ทองคำของแคลิฟอร์เนีย เรือกลไฟนำเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการค้า อุตสาหกรรม และความมั่งคั่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน | ||||
4 | "แตกแยก (Division)" | 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | 3.881[6] | |
การค้าและอุตสาหกรรมเจริญเติบโตในประเทศใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก คลองอีรีนำมาซึ่งความเสี่ยงครั้งใหญ่และผลตอบแทนที่ใหญ่กว่า ในภาคใต้ ฝ้ายถือเป็นราชา แต่การค้าทาสกลับกระตุ้นให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น ความรุนแรงลุกลามไปทั่วดินแดนและผู้เลิกทาสได้ยืนหยัดเพื่อเสรีภาพ การเลือกตั้งเอบราแฮม ลิงคอล์นเป็นตัวเร่งให้เกิดสงคราม | ||||
5 | "สงครามกลางเมือง (Civil War)" | 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | 3.281[7] | |
สงครามกลางเมืองอเมริกายังคงดำเนินต่อไป กองทัพสมาพันธรัฐที่น่าเกรงขามไม่สามารถเทียบได้กับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของสหภาพ ทางรถไฟ กำลังการผลิต สายการผลิต และโทรเลขกลายเป็นอาวุธใหม่ในสงครามสมัยใหม่ | ||||
6 | "ม้าเหล็กสร้างชาติ (Heartland)" | 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | 3.281[7] | |
ทางรถไฟข้ามทวีปเชื่อมโยงประเทศชาติและเปลี่ยนโฉมหน้าของอเมริกา อารยธรรมของชนพื้นเมืองอเมริกันเสื่อมถอยลงเมื่อเกษตรกรตั้งถิ่นฐานในทวีปนี้ วัวควายเข้ามาแทนที่ควายป่าในฐานะราชาแห่งที่ราบอันยิ่งใหญ่ คาวบอยกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของอเมริกา | ||||
7 | "กำเนิดมหานคร (Cities)" | 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | TBD | |
ชาวอเมริกันพิชิตพรมแดนใหม่: เมืองที่ทันสมัย โดยมีอาณาจักรเหล็กของแอนดรูว์ คาร์เนกีเป็นกระดูกสันหลัง ตึกระฟ้าและเทพีเสรีภาพเป็นสัญลักษณ์ของฝันอเมริกันสำหรับผู้อพยพหลายล้านคน ชีวิตในเมืองทำให้เกิดความเจ็บป่วยทางสังคมรูปแบบใหม่ ส่งผลให้คนกล้าหลายคนแสดงจุดยืน | ||||
8 | "ความรุ่งเรือง (Boom)" | 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | TBD | |
อเมริกาเริ่มตีตลาดน้ำมันและยุคเฟื่องฟูก็เริ่มต้นขึ้น เฮนรี ฟอร์ดนำรถยนต์มาสู่มวลชนและประเทศชาติก็ออกเดินทาง โครงการวิศวกรรมขนาดใหญ่ทำให้ภาคตะวันตกของอเมริกาทันสมัยขึ้น การห้ามสุราซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อขจัดความชั่วร้ายได้จุดชนวนให้เกิดอาชญากรรมที่เป็นระบบในเมืองที่กำลังเติบโต รวมถึงการผลิตสุราเถื่อนและการค้าเถื่อนในพื้นที่ชนบทหลายแห่ง รวมถึงการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายในบริเวณเกรตเลกส์ | ||||
9 | "วิกฤติชาติ (Bust)" | 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | 2.759[8] | |
ยุคเฟื่องฟูกลายเป็นยุคตกต่ำ ตลาดหุ้นตก ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่และพายุฝุ่นปกคลุมประเทศชาติอย่างมืดมน สัญญาใหม่ของประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. โรเซอเวลต์ส่งสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่นักมวยโจ หลุยส์เอาชนะความขัดแย้งทางเชื้อชาติเพื่อช่วยนำความภาคภูมิใจของอเมริกากลับมา | ||||
10 | "ฝ่าสงครามโลก (World War II)" | 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | 2.759[8] | |
การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ทำให้สหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง ความพยายามในการทำสงครามฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ นวัตกรรมและการผลิตของอเมริกาช่วยเติมพลังให้กับฝ่ายสัมพันธมิตรในยุโรปและแปซิฟิก อาวุธนิวเคลียร์ช่วยในการยุติสงคราม มหาอำนาจโลกใหม่ก้าวขึ้นมามีบทบาท | ||||
11 | "มหาอำนาจ (Superpower)" | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | TBD | |
อเมริกาได้กลายมาเป็นมหาอำนาจของโลก เทคโนโลยีช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากร ผู้บุกเบิกชาวอเมริกันพิชิตขอบเขตใหม่ ตั้งแต่ยุคเจ็ตไปจนถึงยุคอวกาศ และรับรู้ถึงภัยคุกคามใหม่: ลัทธิคอมมิวนิสต์ | ||||
12 | "ก้าวสู่สหัสวรรษใหม่ (Millennium)" | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | TBD | |
สงครามเย็นเป็นบททดสอบแรกของมหาอำนาจใหม่ ภัยพิบัติกระสวยอวกาศแชลเลนเจอร์และวินาศกรรม 11 กันยายนเป็นโศกนาฏกรรมที่ท้าทายประเทศชาติ ตั้งแต่โทรทัศน์ไปจนถึงบัตรเครดิตและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เทคโนโลยีได้ขับเคลื่อนอเมริกาเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 21 |