ฮิเดอากิ โซราจิ

ฮิเดอากิ โซราจิ
เกิด25 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 (45 ปี)
กิ่งจังหวัดโซราจิ จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
สัญชาติญี่ปุ่น
อาชีพนักเขียนการ์ตูน
ปีปฏิบัติงานพ.ศ. 2545–ปัจจุบัน
ผลงานเด่นกินทามะ
ลายมือชื่อ

ฮิเดอากิ โซราจิ (ญี่ปุ่น: 空知英秋; โรมาจิ: Sorachi Hideaki; เกิด 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2522)[1] เป็นนามปากกา[2]ของนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงจากผลงานหนังสือการ์ตูนกินทามะ ซึ่งเขียนตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2546 [3] หนังสือการ์ตูนกินทามะมียอดขาย 50 ล้านเล่มในญี่ปุ่น ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 [4]

ประวัติ

[แก้]

โซราจิเริ่มสนใจการ์ตูนในวัยเด็ก อย่างไรก็ตามระหว่างที่เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โซราจิได้แสดงผลงานการ์ตูนให้กับพ่อของเขาซึ่งก็หัวเราะเยาะเขาทันที หลังจากนั้นเขาก็ละทิ้งความฝันที่จะเป็นนักเขียนการ์ตูน หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยเขาไม่สามารถหางานทำและเริ่มวาดการ์ตูนอีกครั้งเพื่อหารายได้ เขาสามารถอยู่ได้จากผลงานการ์ตูนเรื่องแรกชื่อ Dandelion ซึ่งภายหลังได้ตีพิมพ์รวมอยู่ในหนังสือการ์ตูนกินทามะเล่มแรก โดยโซราจิเรียกการ์ตูนเรื่องนี้ว่าเป็นผลงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเขา เมื่อเริ่มต้นการเขียนการ์ตูนเรื่องยาว การ์ตูนกลับไม่เป็นที่นิยมและเสี่ยงต่อการถูกตัดจบ แม้ว่าโซราจิจะพอใจกับหนังสือการ์ตูนรวมเล่มฉบับแรกที่ขายได้ทั้งหมด แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าสำนักพิมพ์ชูเอฉะกังวลเรื่องยอดขายจึงตีพิมพ์เป็นจำนวนน้อย[5] เพื่อเพิ่มความนิยมผู้เขียนแนะนำกลุ่มตัวละครใหม่คือกลุ่มชินเซ็นงุมิ ที่รู้สึกว่าน่าจดจำกับผู้ช่วยของเขา [6] โซราจิมีความหวังเล็กน้อยเกี่ยวกับความนิยมของการ์ตูน โดยเขาสังเกตเห็นว่าหลายคนเคยบอกว่าการ์ตูนไม่น่าจะได้ตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่มเกิน 2 เล่ม อย่างไรก็ตามเมื่อหนังสือการ์ตูนเล่มที่สามวางจำหน่าย โซราจิพบว่าเขาไม่มี "วัตถุดิบสดใหม่ที่จะใช้" [7] ในช่วงปีแรกของซีรีส์ โซราจิเชื่อว่าที่มาของความนิยมของกินทามะส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับละครชินเซ็นงุมิ ในขณะที่ละครออกอากาศในช่วงปีแรกของซีรีส์เมื่อการ์ตูนส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้นที่สร้างตัวละครและโลก เขารู้สึกไม่สบายใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับละคร ในปีที่สองและต่อ ๆ ไปเขาเริ่มกล้าที่จะสร้างเรื่องราวและแนวความคิดของตัวเองมากขึ้น สร้างเส้นเรื่องที่ยาวขึ้นซึ่งรวมถึงเพื่มความดราม่ามากขึ้นในขณะที่ยังคงรักษาอารมณ์ขันและการเสียดสีของญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน[8] แม้ว่าโซราจิได้วางแผนที่จะจบซีรีส์แล้ว แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่ามังงะจะไปถึงจุดนั้นเนื่องจากตัวละครที่ต้องการการพัฒนาที่จะทำตัวเหมือนที่เขาต้องการ[5]

เค็นตะ ชิโนฮาระ (ผู้เขียนการ์ตูนเรื่อง สเก็ต ดานซ์) เคยเป็นผู้ช่วยของเขา [9] เช่นเดียวกับโยอิจิ อามาโนะ (ผู้เขียนการ์ตูนเรื่อง AKABOSHI ตำนาน 108 วีรบุรุษ ) กินทามะและสเก็ตดานซ์มีบทผสานเรื่องกันในโชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ในเรื่องกินทามะตอนที่ 349 และในเรื่องสเก็ต ดานซ์ ตอนที่ 180 ซึ่งเป็น 349

โซราจิปรากฏตัวทั้งในหนังสือการ์ตูนและอนิเมะของกินทามะหลายครั้งในฐานะลิง

ผลงาน

[แก้]
  • กินทามะ -- การ์ตูนเรื่องยาว (พ.ศ. 2546-2562)
  • กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ -- ไลท์โนเวล (พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน) รับผิดชอบวาดภาพประกอบ (ไลท์โนเวลเขียนเรื่องโดยโทโมฮิโตะ โอซากิ)
  • แดนดิไลออน -- การ์ตูนสั้นจบในตอน ตีพิมพ์ร่วมในหนังสือการ์ตูนกินทามะ เล่ม 1
  • ชิโร่คุโร่ -- การ์ตูนสั้นจบในตอน ตีพิมพ์ร่วมในหนังสือการ์ตูนกินทามะ เล่ม 2
  • 13 -- การ์ตูนสั้นจบในตอน (พ.ศ. 2551) ตีพิมพ์ร่วมในหนังสือการ์ตูนกินทามะ เล่ม 24
  • บังคาระซังมาแล้ว!! -- การ์ตูนสั้นจบในตอน (พ.ศ. 2553) ตีพิมพ์ร่วมในหนังสือการ์ตูนกินทามะ เล่ม 38
  • ซามูไรเดอร์ -- หยุดงานในขั้นร่างภาพ

อ้างอิง

[แก้]
  1. ↑ Sorachi, Hideaki (2009). Gin Tama, Vol. 10. Viz Media. p. 1. ISBN 978-1-4215-1623-3.
  2. ↑ "Character Book 1 Interview". Yorozuya Soul (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 27, 2015. สืบค้นเมื่อ Sep 23, 2020.
  3. ↑ 2004年新年2号 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 5, 2008. สืบค้นเมื่อ June 18, 2009.
  4. ↑ "Gintama Manga Has 50 Million Copies in Print in Japan" (ภาษาญี่ปุ่น). Anime News Network. May 2, 2016. สืบค้นเมื่อ May 2, 2016.
  5. ↑ 5.0 5.1 Sorachi, Hideaki (2009). 銀魂公式キャラクターブック2 「銀魂五年生」. Shueisha. pp. 194–195. ISBN 978-4-08-874805-4.
  6. ↑ "Quick Japan" (ภาษาญี่ปุ่น) (86). Otashuppan. October 2009: 22–41. ISBN 978-4778311940. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |transcript= ถูกละเว้น (help)
  7. ↑ Sorachi, Hideaki (2008). Gin Tama, Vol. 3. Viz Media. p. 2. ISBN 978-1-4215-1360-7.
  8. ↑ Sorachi, Hideaki (2008). Gin Tama, Vol. 6. Viz Media. p. 26. ISBN 978-1-4215-1619-6.
  9. ↑ Tan, Kevin (24 February 2008). "Samurai sci-fi". The Star. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 June 2011. สืบค้นเมื่อ 23 November 2010.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]