เจริญ คันธวงศ์ | |
---|---|
![]() | |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ | |
ดำรงตำแหน่ง 22 กุมภาพันธ์ – 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน | |
ดำรงตำแหน่ง 22 พฤศจิกายน – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 | |
นายกรัฐมนตรี | พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ |
ก่อนหน้า | ประจวบ ไชยสาส์น |
ถัดไป | อนุวรรตน์ วัฒนพงศ์ศิริ |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | |
ดำรงตำแหน่ง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2531 – 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 | |
นายกรัฐมนตรี | พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ |
อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2506 – กรกฎาคม พ.ศ. 2531 (25 ปี) | |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | ธนู กุลชล |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 21 เมษายน พ.ศ. 2476 อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 (89 ปี) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ประชาธิปัตย์ (2518–2565) |
คู่สมรส | เพ็ญธิรา คันธวงศ์ |
เจริญ คันธวงศ์ (21 เมษายน พ.ศ. 2476 – 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2565[1]) อดีตกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์[2] อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งสิ้น 11 สมัย อดีตประธาน สส. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตอธิการบดีและกรรมการสภามหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เจริญ คันธวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2476 ที่ ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เป็นบุตรของนายคำมูล และนางน้อย คันธวงศ์ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เกียรตินิยมอันดับ 2) ปริญญาโท ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และปริญญาเอก การบริหารอุดมศึกษา จากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ สหรัฐอเมริกา[3]
เจริญ คันธวงศ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2565[4] ในการนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โกศแปดเปลี่ยม และกำหนดพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ณ วัดปริวาสราชสงคราม
ในปี พ.ศ. 2500 - 2501 รับราชการทหารเป็นนายทหารประจำศูนย์การทหารม้าจังหวัดสระบุรียศร้อยตรี
เจริญ คันธวงศ์ รับราชการเป็นอาจารย์แผนกวิชาสังคม คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อ 12 มกราคม พ.ศ.2505 ลาออกจากราชการเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2506
ดร.เจริญ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร ในเขตคลองเตย ยานนาวาและบางคอแหลมมาอย่างยาวนานต่อเนื่องถึง 8 สมัย โดยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด มีเพียงครั้งเดียวที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งคือ ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2535 ครั้งที่หนึ่ง ซึ่งกระแสพรรคพลังธรรมมาแรงในเวลานั้น และในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2548 ได้ย้ายไปลงในระบบบัญชีรายชื่อ
เขาเคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516[5]
ในปี พ.ศ. 2552 สื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งฉายาให้ ดร.เจริญ คันธวงศ์ เป็น "คนดีศรีสภาฯ" เนื่องจากได้ลงชื่อเข้าร่วมประชุมสภาถึง 88 ครั้งจากจำนวน 100 ครั้ง แม้ว่าจะต้องรักษาตัวจากอาการโรคมะเร็ง[6] และในปี พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 13[7] และได้รับเลือกตั้งอีกสมัย
เจริญ คันธวงศ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 11 สมัย
เจริญ คันธวงศ์ เคยได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อปี พ.ศ. 2531[8] ต่อมาปรับไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน[9]
ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แทนนายปราโมทย์ สุขุม ซึ่งลาออกจากตำแหน่ง
ดร.เจริญ คันธวงศ์ เป็นที่ปรึกษาอาวุโส บริษัทติลลิกี แอนด์ กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ดร.เจริญ คันธวงศ์ เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน คือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในปี พ.ศ. 2505 โดยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีคนแรกด้วยวัยเพียง 29 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และได้รับการยกย่องให้เป็น "อธิการบดีกิตติคุณก่อตั้ง" หรือ Emeritus (เอเมริตุส)[10] อีกทั้งยังมีอาคารเพื่อเป็นการรำลึกถึงคือ อาคาร ดร.เจริญ คันธวงศ์ ที่วิทยาเขตกล้วยน้ำไทด้วย
ก่อนหน้า | เจริญ คันธวงศ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ประจวบ ไชยสาส์น | ![]() |
![]() รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน (22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2533) |
![]() |
อนุวรรตน์ วัฒนพงศ์ศิริ |