เรือประมงเอกวัฒน์นาวา 5

ประวัติ
ประเทศคิริบาสประเทศคิริบาส
ชื่อเอกวัฒน์นาวา 5
เจ้าของบริษัทศิริชัยการประมง
ผู้ให้บริการบริษัทศิริชัยการประมง
ท่าเรือจดทะเบียนประเทศไทย
ถูกยึด18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008
ความเป็นไปซุ่มยิงโดยการยิงปืนเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008

เรือประมงเอกวัฒน์นาวา 5 (อังกฤษ: FV Ekawat Nava 5) เป็นเรือประมงทางทะเลประดับธงคิริบาส ที่มีเจ้าของเป็นคนไทย ซึ่งถูกปล้นชิงเรือ และจมลงโดยเรือของกองทัพเรืออินเดีย ไอเอ็นเอส ทาบาร์ (เอฟ 44) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008[1] เรือประมงจมลงเมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้นบนเรือหลังจากไอเอ็นเอส ทาบาร์ ตอบโต้กับการถูกยิงโดยโจรสลัดที่อยู่บนเรือ โดยเชื่อว่าลูกเรือทั้งหมดของเรือประมงถูกฆ่าตาย

เรื่องราวของเหตุการณ์

[แก้]

เรือประมงเอกวัฒน์นาวา 5 มีลูกเรือเป็นชาวไทย 15 คนและชาวกัมพูชา 1 คน ซึ่งกำลังมุ่งหน้าจากประเทศโอมานไปยังประเทศเยเมนกระทั่งถูกแย่งชิงเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008[1]

ในตอนเย็นของวันที่ 18 พฤศจิกายน เรือรบอินเดีย ไอเอ็นเอส ทาบาร์ อยู่ในตระเวน 285 ไมล์ทะเล (528 กม.) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเศาะลาละฮ์ ประเทศโอมาน (ใกล้ 14°17.15′N 50°15.7′E / 14.28583°N 50.2617°E / 14.28583; 50.2617) เมื่อเห็นเรือประมงที่ถูกแย่งชิง[2] โดยถูกนำมาใช้เป็นเรือแม่โจรสลัด รวมถึงมีเรือเร็วสองลำกับชายติดอาวุธด้วยเครื่องยิงจรวด (อาร์พีจี) และปืนไรเฟิลจู่โจมบนดาดฟ้า ซึ่งฝ่ายเรือรบอินเดียได้สั่งให้ทำการตรวจสอบ ทว่าถูกปฏิเสธและข่มขู่โดยโจรสลัด เรือรบอินเดียจึงไล่กวดเรือลากอวนดังกล่าว

บันทึกอย่างเป็นทางการของกองทัพเรืออินเดียระบุว่าโจรสลัดยิงเรือรบด้วยเครื่องยิงจรวด เรือรบอินเดียจึงยิงกลับไปเพื่อเป็นการตอบโต้ เมื่อได้ยินเสียงระเบิดบนเรือลากอวน อาจเป็นเพราะกระสุนหรือเชื้อเพลิงที่เก็บอยู่บนดาดฟ้าเรือ เรือลากอวนจึงจมลงอันเป็นผลมาจากการเกิดเพลิงไหม้[2][3]

กองทัพเรืออินเดียรายงานว่าหลังจากเกิดไฟไหม้ขึ้นบนเรือ ก็เห็นเฉพาะเรือเร็วสองลำหนีจากที่เกิดเหตุ จึงได้ติดตามเรือดังกล่าว โดยพบเรือหนึ่งลำที่ถูกทิ้ง และไม่สามารถติดตามเรือลำที่เหลือได้ในความมืด[4]

ส่วนรายงานเหตุการณ์ที่เล่าเรื่องโดยศิริชัยการประมง ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนเจ้าของชาวไทย ได้อิงจากข้อมูลจากลูกเรือชาวกัมพูชาคนหนึ่งที่รอดชีวิต โดยกล่าวว่าโจรสลัดโซมาเลียได้ขึ้นเรือและเข้าควบคุมเรือลากอวน เมื่อเรือรบอินเดีย ไอเอ็นเอส ทาบาร์ มาถึงที่เกิดเหตุ รายงานลูกเรือระบุว่าเรือประมงไม่ได้ถูกใช้เป็นเรือแม่โจรสลัด[1][2][5]

จากลูกเรือเดิมของเรือประมง มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวที่ได้รับการพาขึ้นมาโดยเรือเดินสมุทร มีหนึ่งคนที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิต ขณะที่อีก 14 รายได้รับการรายงานว่าหายไปโดยบริษัทเจ้าของเรือ ซึ่งลูกเรือของ ไอเอ็นเอส ทาบาร์ รายงานว่าเห็นเฉพาะเรือยนต์สองลำที่หลบหนีจากที่เกิดเหตุในที่มืดเท่านั้น พวกเขาไม่ได้เบาะแสใด ๆ ของลูกเรือชุดเดิม จึงไม่ทราบชะตากรรมของพวกเขา[6]

ส่วนรายงานของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ อาจกล่าวได้ในเบื้องต้นว่ากองทัพเรืออินเดียได้จับโจรสลัดบางส่วน[7] อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้รับการยืนยันโดยกองทัพเรืออินเดีย

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 "Indian Navy sank our vessel, says Thai fishing firm". The Indian Express. 26 November 2008. สืบค้นเมื่อ 16 September 2011.
  2. 2.0 2.1 2.2 "Indian navy 'sank Thai trawler'". BBC News. 25 November 2008. สืบค้นเมื่อ 16 September 2011.
  3. "INS Tabar sinks pirate mother ship". The Economic Times. 20 November 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-03. สืบค้นเมื่อ 16 September 2011.
  4. Sam Dolnick (19 November 2008). "Indian navy sinks suspected pirate "mother" ship". Agence France-Presse. สืบค้นเมื่อ 19 November 2008. [ลิงก์เสีย]
  5. "Indian navy foils another attack by Somali pirates". The Times of India. 18 November 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-22. สืบค้นเมื่อ 16 September 2011.
  6. Dolnick, Sam (19 November 2008). "Somali pirates hijack Thai fishing boat, 16 crew". Associated Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 December 2008. สืบค้นเมื่อ 20 November 2008.
  7. Sean McCormack (19 November 2008). "Daily Press Briefing". US Dept. of State. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 December 2008. สืบค้นเมื่อ 19 November 2008.