เหตุการณ์โกก้าง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ความขัดแย้งภายในพม่า | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
MNDAA NDAA UWSA |
สหภาพพม่า กบฏ MNDAA | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เฟือง คยาชิน | พลเอกอาวุโส มี่นอองไลง์[1] | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ตามรายงานของรัฐบาลทหาร:[2] เสียชีวิต 8 คน ยึดอาวุธได้ 640 ชิ้น[3] |
ตามรายงานของรัฐบาลทหาร:[2] เสียชีวิต 26 คน บาดเจ็บ 47 คน | ||||||
พลเรีอนชาวจีนเสียชีวิต 1 คน[4] ผู้คนพลัดถิ่น 30,000 คน[2] |
เหตุการณ์โกก้าง เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 ในพื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง ในพม่าที่อยู่ทางเหนือของรัฐฉาน[5] มีการปะทะกันระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังของชนกลุ่มน้อย ผลจากความขัดแย้งทำให้มีผู้อพยพ 30,000 คนเข้าไปในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน
ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ กองทัพพม่าได้มีการเจรจาสงบศึกกับกองทัพของชนกลุ่มน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2532 แต่ตั้งแต่ พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา กองทัพพม่าได้เสนอที่จะนำกองกำลังของชนกลุ่มน้อย[6]เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพในฐานะกองกำลังพิทักษ์ชายแดน แต่กองกำลังของชนกลุ่มน้อยส่วนใหญ่ต่อต้านแนวคิดนี้
เขตพิเศษโกก้างเป็นเขตปกครองตนเองทางภาคเหนือของรัฐฉาน[7] ปกครองโดยเฟือง คยาชินหรือเปง เจียเซง ( 彭家声) ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2532[8] ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวโกก้าง (果敢) ซึ่งเปนชาวจีนฮั่นที่อาศัยในพม่า ชาวโกก้างมีความเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน
โกก้างมีกองทัพเป็นของตนเองคือกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์ มีทหารประมาณ 1,000 - 1,500 คน และมีการแบ่งเป็นกลุ่มย่อยภายในกองทัพ โดยเฟืองอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรองประธาน ไป๋ เซาเกวียน โดยเฟืองต่อต้านการรวมกองทัพเข้ากับกองทัพพม่าแต่ไป๋สนับสนุน กองทัพพม่าได้กล่าวหาว่าเฟืองอยู่เบื้องหลังการค้าอาวุธและยาเสพติด
ความตึงเครียดเกิดขึ้นเมื่อ 8 สิงหาคม ได้มีกองทัพพม่าเคลื่อนที่เข้ามาในโรงงานผลิตปืนซึ่งต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการค้ายา และบริเวณบ้านของเฟือง แม้จะไม่มีการยิงปะทะ แต่ก็มีผู้อพยพออกจากพื้นที่เพราะกลัวความรุนแรง
ในวันที่ 20 สิงหาคม กองทัพพม่าเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้เมืองลวกไก เมืองหลวงของเขตพิเศษโกก้าง และโกก้างได้เตรียมประชาชนให้พร้อมอพยพ ในวันที่ 24 สิงหาคม กองทัพพม่าได้เข้ายึดเมืองลวกไก หนังสือพิมพ์กะชีนนิวส์ที่ต่อต้านกองทัพพม่าได้กล่าวว่าการเข้ายึดครองครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากทหารโกก้างที่จงรักภักดีต่อกองทัพพม่า
ในวันที่ 27 สิงหาคม[9] กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่าได้เริ่มเปิดการสู้รบกับกองทัพพม่านอกเมือง ต่อมา ทหารว้าและกะชีนและกลุ่มของชนกลุ่มน้อยอีก 9 กลุ่มเข้าร่วมในการสู้รบ กองทัพสหรัฐว้าซึ่งเป็นกองทัพของชนกลุ่มน้อยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของพม่าเข้าร่วมรบด้วย ในวันที่ 27 – 28 สิงหาคม มีการต่อสู้ที่หมู่บ้านใกล้แนวชายแดนจีน ทำให้จีนต้องเพิ่มกองกำลังเพื่อความมั่นคงตามแนวชายแดน
ในวันที่ 29 สิงหาคม สหรัฐกล่าวว่ามีทหารโกก้างราว 700 คน ได้ข้ามพรมแดนและมอบตัวกับทางการจีน[2][10] โดยให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาพ่ายแพ้[11] ในขณะที่กองทัพโกก้างมีแนวโน้มจะพ่ายแพ้ กองทัพสหรัฐว้ายังคงสู้รบ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์รายงานว่ากองทัพสหรัฐว้าถอนตัวออกเมื่อ 28 สิงหาคม[12] รัฐบาลพม่าได้ประกาศว่าการสู้รบสิ้นสุดลงเมื่อ 30 สิงหาคม และมีการจัดตั้งคณะกรรมการผู้นำเฉพาะกาลเขตโกก้างขึ้นใหม่ในลวกไก[13]
ไม่มีรายงานความเสียหายที่ชัดเจน เฟือง คยาชินกล่าวอ้างว่าทหารโกก้างของเขาฆ่าทหารพม่าได้มากกว่า 30 คน[14] มีชาวจีน 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดที่ข้ามชายแดนเข้ามา กองทัพพม่าได้ออกประกาศว่ากองทัพพม่าเสียชีวิต 26 คน และบาดเจ็บ 47คน และพบศพของฝ่ายกบฏ 8 ศพ
ในช่วง 8-12 สิงหาคม มีประชาชนราว 10,000 คนอพยพเข้าไปในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ผู้อพยพตลอดทั้งเดือนสูงถึง 30,000 คน รวมทั้งชาวพม่าและชาวโกก้าง โดยรัฐบาลของมณฑลยูนนานได้จัดสถานที่ 7 แห่งไว้รองรับ ข้อมูลจากผู้อพยพคนหนึ่งกล่าวว่า มีผู้อพยพ 13,000 คนอาศัยอยู่ในเตนท์ อีก 10,000–20,000 คน อาศัยอยู่กับญาติหรือครอบครัวในบริเวณใกล้เคียง ในวันที่ 31 สิงหาคม ผู้อพยพบางส่วน (4,000 คนตามเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหรือ 2,800 คนตามรัฐบาลพม่า) เริ่มอพยพกลับสู่โกก้าง ต่อมาในกลางเดือนกันยายน จีนรายงานว่า ผู้อพยพมากกว่า 9,000 คนกลับสู่พม่า ในขณะที่รัฐบาลพม่ากล่าวว่ามี 13,000 คน[15] ผู้อพยพบางส่วนยังกลัวที่จะอพยพกลับ เฟืองยังคงลี้ภัยในจีนแต่ไม่ทราบที่อยู่แน่นอน[16][17]
หลังการสู้รบ ผู้นำคนใหม่ของโกก้างประกาศว่าชาวโกก้างจะเข้าร่วมในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2553 ชาวว้าและชาวกะชีนยังคงอยู่ต่อไปได้[18] ไป๋ เซาเกวียนที่สนับสนุนกองทัพพม่าได้เป็นผู้นำคนใหม่ กองทัพโกก้างกลายเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน#1006[19]
传言果敢特区领导人彭家声已经逃离。(จีน)
English: "It is rumored that the leader of the Kokang Special Region, Peng Jiasheng, has also fled."
{{cite journal}}
: Cite journal ต้องการ |journal=
(help)