แก๊งม่วนป่วนเยาวราช | |
---|---|
จีน | 唐人街探案 |
กำกับ | เฉิน ซือเฉิง |
นักแสดงนำ | |
ดนตรีประกอบ | นาธาน หวัง |
บริษัทผู้สร้าง |
|
ผู้จัดจำหน่าย | ไชนาไลออนฟิล์มดิสตริบิวชัน โกลเดนวิลเลจพิกเจอส์ เอ็มเอ็ม2 เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จีอีเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเมตร์ อู่โจวฟิล์มดิสตริบิวชัน[1] |
วันฉาย |
|
ความยาว | 136 นาที[2] |
ประเทศ | จีน ไทย |
ภาษา | จีนกลาง |
ทุนสร้าง | 15 ล้านเหรียญสหรัฐ[3] |
ทำเงิน | 120.6 ล้านเหรียญสหรัฐ[4] |
แก๊งม่วนป่วนเยาวราช (อังกฤษ: Detective Chinatown; จีน: 唐人街探案; พินอิน: Tángrénjiētàn'àn) เป็นภาพยนตร์แนวตลกคู่หูสัญชาติจีนซึ่งออกฉายครั้งแรกใน พ.ศ. 2558 กำกับโดยเฉิน ซือเฉิง และแสดงนำโดยหวัง เป่าเฉียงและหลิว เฮ่าหรัน[5] ออกฉายครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558[6] ภาคสองออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 และภาคสามออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
ฉิน เฟิง (หลิว เฮ่าหรัน) เดินทางมาพักร้อนในกรุงเทพมหานครหลังสอบเข้าวิทยาลัยตำรวจไม่ได้ เขาตั้งใจจะมาพักอยู่กับถัง เหริน (หวัง เป่าเฉียง) ผู้มีศักดิ์เป็นลุงซึ่งเขาได้ยินมาว่าเป็นนักสืบมือหนึ่งแห่งไชนาทาวน์ แต่กลับพบว่าลุงถังที่จริงแล้วเป็นเพียงชายปลิ้นปล้อนที่ทำงานให้กับนายตำรวจผู้ซึ่งไม่เอาไหนพอกันชื่อคุน ไท่ (เซียว ยัง) ในขณะเดียวกัน นายสมบัติซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยคดีปล้นทองถูกฆ่าตาย และทองคำซึ่งถูกปล้นจากเจ้าพ่อหยัน (จิน ซื่อเจี๋ย) ก็หายไปด้วย คุน ไท่และคู่ปรับ หวง หลันเติง (เฉิน เฮ่อ) ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้แข่งกันสืบคดีและนำทองกลับคืนโดยใครที่ชนะจะได้เลื่อนยศเป็นรองผู้กำกับ
หลังจากถังและฉินระหกระเหินทั่วกรุงเทพมหานคร ถังก็ถูกตำรวจควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยเนื่องจากถังเป็นคนสุดท้ายที่เข้าและออกโรงงานของนายสมบัติในระหว่างที่เขาถูกฆ่า ถังขอความช่วยเหลือจากฉินซึ่งเป็นอัจฉริยะด้านการสืบคดี ถังและฉินหลบหนีจากทั้งการควบคุมของตำรวจและลูกน้องของนายสมบัติที่ต้องการทองคำคืนเข้าไปซ่อนตัวในบ้านของอาเซียง (ถง ลี่ย่า) เจ้าของบ้านเช่าของถัง ก่อนที่ทั้งลูกน้องของนายสมบัติและนายตำรวจคู่แข่งทั้งสองคนจะตามมาพบ
เวลาต่อมาฉินทราบจากถังว่าทำไมถังตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยในคืนวันเกิดเหตุ ถังได้รับว่าจ้างให้ไปขนลังพระพุทธรูปจากโรงงานของนายสมบัติตอนเที่ยงคืน ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะไม่หลบหนีแต่เลือกที่จะอยู่ในประเทศไทยต่อไป พวกเขาไปที่ลานจอดรถที่ซึ่งถังนำลังพระพุทธรูปไปส่ง ฉินพบชิ้นส่วนปลาในบริเวณลานจอดรถและไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมต่อที่ตลาดอาหารทะเลและกองขยะ ในคืนเดียวกันฉินและถังเข้าไปค้นในโรงงานของนายสมบัติและหวิดถูกโจรตัวจริงพบตัว ฉินสรุปว่าโทนี (มาร์ก หม่า) ลูกน้องของหวง หลันเติงมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
ฉินและถังจำเป็นต้องขอดูกล้องวงจรปิดภายในโรงงาน แต่เพราะว่าข้อมูลไฟล์อยู่ในคอมพิวเตอร์ของหวง ถังจึงตัดสินใจล่อตำรวจออกไปในขณะที่ฉินและคุนคัดลอกไฟล์วิดีโอและเอกสารอื่น ๆ เกี่ยวกับนายสมบัติ หลังจากแปลเอกสารฉินจึงทราบว่าลูกชายของนายสมบัติหายตัวไปหนึ่งปีก่อนหน้านั้น และนายสมบัติเป็นลูกค้าประจำของคาเฟ่แห่งหนึ่ง ฉินและถังตามสืบไปจนพบกับสโนว์ (จาง จื่อเฟิง) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของลูกชายของนายสมบัติ
ฉินและถังถูกจับตัวอีกครั้งและถูกนำไปพบกับเจ้าพ่อหยัน ซึ่งให้เวลาสามวันเพื่อนำทองคำกลับคืน ฉินและถังแยกทางกัน ฉินไปพบกับสโนว์อีกครั้ง ส่วนถังถูกหวงจับกุมอีกครั้ง ฉินพบว่าพ่อเลี้ยงของสโนว์ทำงานในร้านรับซื้อของเก่าใกล้ลานจอดรถและสงสัยเขา
ฉินและถังกลับมาพบกันอีกครั้งที่โรงงานและคาดเดาว่าฆาตกรตัวจริงซ่อนตัวในโรงงานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะฆ่านายสมบัติก่อนที่ถังจะมาถึงโรงงาน และเข้าไปซ่อนในลังที่ถังได้รับว่าจ้างให้ไปขน อย่างไรก็ตาม ฆาตกรตัวจริงซึ่งสวมหน้ากากอำพรางเข้ามาพบทั้งสองและเตรียมตัวฆ่าทั้ง2 ทั้ง2ขว้างของใส่โจร พอทั้ง2กำลังจะรอดจากโจร แต่โจรไม่ยอมแพ้โจรเลยหาวิธีใหม่โดยการจุดไฟเผาพร้อมกับปาระเบิดขวดใส่โรงงานเพื่อขวางทางฉินและถังแทนการฆ่าคนรอบ2 จนกระทั่งระยะสุดท้ายฉินและถังหลบหนีออกมาได้อย่างฉิวเฉียด
หลังจากทราบว่าอาเซียงถูกโทนีลักพาตัวไป ฉินและถังตามตัวไปจนพบ ต่อสู้ชนะโทนี และนำตัวอาเซียงไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งที่โรงพยาบาลนั้นเองพวกเขาได้เห็นตำรวจและโจรสามคนยิงปืนต่อสู้กัน ฉินและถังกลับไปที่บ้านของสโนว์อีกครั้งแต่พบว่าเธอกินยาเกินขนาดและใกล้เสียชีวิต หนังจากนำตัวสโนว์ส่งโรงพยาบาล ฉินอ่านพบบันทึกในไดอารีของสโนว์ว่าเธอถูกนายสมบัติข่มขืน เมื่อพ่อของเธอทราบเรื่องจึงไปฆ่านายสมบัติ คดีฆาตกรรมและคดีปล้นทองไม่เกี่ยวข้องกัน
หลังจากฉินและถังถูกไล่ล่ารอบกรุงเทพมหานคร พวกเขาเปิดเผยกับตำรวจว่าทองคำที่หายไปซ่อนอยู่ในรูปปั้นในโรงงาน ต่อมาในห้องพักที่สโนว์รักษาตัวในโรงพยาบาล ฉินและถังอธิบายรายละเอียดข้อมูลที่พวกเขาสืบมาได้ต่อหน้าตำรวจ สโนว์ และพ่อเลี้ยง หลังจากที่ข้อมูลถูกเปิดเผย พ่อเลี้ยงของสโนว์กระโดดออกจากหน้าต่างโรงพยาบาลเพื่อหลบหนี แต่ถูกคุน ไท่ขับรถชนตายก่อน คุนได้เลื่อนเป็นรองผู้กำกับเนื่องจากสามารถหยุดการหลบหนีของฆาตกรได้
อย่างไรก็ตาม ฉินค้นพบภายหลังว่านายสมบัติเป็นเกย์ ซึ่งหมายความว่าเขาไม่มีทางที่จะข่มขืนสโนว์ และค้นพบต่อไปว่านายสมบัติสงสัยสโนว์ว่าเป็นคนฆ่าลูกชายของเขาที่หายไปและสะกดรอยตามเธอ เธอจึงวางแผนให้นายสมบัติถูกฆ่าตาย ปั้นเรื่องว่าเธอถูกข่มขืน และสร้างหลักฐานปลอมเพื่อกำจัดทั้งนายสมบัติและพ่อเลี้ยงของเธอ ฉินเปิดเผยต่อสโนว์ว่าเขารู้เรื่องทั้งหมด แต่เลือกที่จะไม่ทำอะไรกับเธอหลังจากนั้น
ในเครดิตท้ายเรื่องมีฉากที่ฉินและถังได้รับเชิญไปยังสำนักงานของอินเทลเพื่อไปสืบคดีใหม่ในนิวยอร์ก
นักแสดงในเรื่องนี้ประกอบด้วย[6]
ลำดับ | ชื่อเพลง | เนื้อเพลง | ทำนอง | ขับร้อง | ยาว |
---|---|---|---|---|---|
1. | "ถังเหรินเจีย" (จีน: 唐人街; เพลงเปิด) | จ้าว อิงจวิ้น | จ้าว อิงจวิ้น | หลี ยฺหวี่ชุน | |
2. | "ซ่าหว่าตี้ข่า" (จีน: 萨瓦迪卡; เพลงปิด) | จ้าว จื่อหลง | ทิง หยัง | หนันเจิงเป่ย์จั้น | |
3. | "หวังซื่อจื่อเหนิงหุยเว่ย์" (จีน: 往事只能回味; เพลงแทรก) | หลิน หวงคุน | หลิว เจียชัง | เมิ่ง ซือเฉิงและหวัง เป่าเฉียง |
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ 4.43 ล้านเหรียญสหรัฐในบ็อกซ์ออฟฟิศของจีน[7] และทำรายได้เป็นอันดับที่เก้าใน พ.ศ. 2558 ในประเทศจีน โดยทำรายได้รวม 126 ล้านเหรียฐสหรัฐ
แก๊งม่วนป่วนนิวยอร์ก ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งเขียนและกำกับโดยเฉิน ซือเฉิงเช่นเดียวกันโดยมีฉากในไชนาทาวน์ย่านแมนแฮตตันในนครนิวยอร์กออกฉายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน โดยหวัง เป่าเฉียงและหลิว เฮ่าหรันยังคงแสดงนำร่วมกับนักแสดงสมทบรายอื่นได้แก่เซียว ยัง, ไมเคิล พิตต์, นาตาชา หลิว บอร์ดิซโซ, ยฺเหวียน หฺวา และซาโตชิ สึมาบูกิ[8]
แก๊งม่วนป่วนโตเกียว ภาคสามของภาพยนตร์ซีรีส์นี้ออกฉายเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564[9]
รางวัล | สาขา | ผู้ได้รับเสนอชื่อ | ผล |
---|---|---|---|
เทศกาลภาพยนตร์นักศึกษาปักกิ่ง ครั้งที่ 23 | บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม | เฉิน ซือเฉิง | ชนะ |
เซี่ยงไฮ้ฟิล์มคริติกส์อะวอดส์ ครั้งที่ 24 | ผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่แห่งปี | เฉิน ซือเฉิง | เสนอชื่อเข้าชิง |
นักแสดงชายหน้าใหม่แห่งปี | หลิว เฮ่าหรัน | เสนอชื่อเข้าชิง | |
ภาพยนตร์ใหม่แห่งปี | แก๊งม่วนป่วนเยาวราช | เสนอชื่อเข้าชิง | |
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้ ครั้งที่ 19 | เอเชียนนิวคัมเมอร์อะวอร์ด (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม) | แก๊งม่วนป่วนเยาวราช | เสนอชื่อเข้าชิง |
เอเชียนนิวคัมเมอร์อะวอร์ด (นักแสดงชายยอดเยี่ยม) | หลิว เฮ่าหรัน | เสนอชื่อเข้าชิง | |
เอเชียนนิวคัมเมอร์อะวอร์ด (บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม) | เฉิน ซือเฉิง | เสนอชื่อเข้าชิง | |
ไชนาฟิล์มอินเด็กซ์เฟสติวัล ครั้งที่ 7 | นักแสดงชายหน้าใหม่ยอดเยี่ยม | หลิว เฮ่าหรัน | ชนะ |
ผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม | เฉิน ซือเฉิง | ชนะ | |
หฺวาติ่งอะวอดส์ครั้งที่ 20 | ผลสำรวจความนิยมในประเทศจีน "ผู้ผลิตภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" | แก๊งม่วนป่วนเยาวราช | เสนอชื่อเข้าชิง |
ผลสำรวจความนิยมในประเทศจีน "นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในประเทศจีน" | หลิว เฮ่าหรัน | ชนะ | |
ผลสำรวจความนิยมในประเทศจีน "นักแสดงชายยอดเยี่ยมในประเทศจีน" | หวัง เป่าเฉียง | เสนอชื่อเข้าชิง | |
ภาพยนตร์ยอดนิยม 50 อันดับแรก | แก๊งม่วนป่วนเยาวราช | อันดับที่ 7 | |
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ครั้งที่ 73 | Special recommendation and exhibition unit of "Venice Day" | แก๊งม่วนป่วนเยาวราช | ชนะ |
รางวัลม้าทองคำ ครั้งที่ 53 | กำกับภาพยอดเยี่ยม | ตู้ เจี๋ย | เสนอชื่อเข้าชิง |
กำกับท่าทางยอดเยี่ยม | อู่ กัง | ชนะ | |
กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม | หลี เหมี่ยว | เสนอชื่อเข้าชิง | |
ออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องสำอางยอดเยี่ยม | จาง ซื่อเจี๋ย | ชนะ | |
เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม | "ซ่าหว่าตี้ข่า" | เสนอชื่อเข้าชิง | |
ไชนีสฟิล์มมีเดียอะวอดส์ ครั้งที่ 16 | ภาพยนตร์ที่มีผู้ชมสูงสุด | แก๊งม่วนป่วนเยาวราช | ชนะ |
นักแสดงชายที่มีผู้ชมสูงสุด | หลิว เฮ่าหรัน | เสนอชื่อเข้าชิง | |
การแสดงที่มีผู้ชมสูงสุด | หลิว เฮ่าหรัน | เสนอชื่อเข้าชิง |