บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ผู้ประพันธ์ | กิมย้ง |
---|---|
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | 天龍八部 |
ผู้แปล | จำลอง พิศนาคะ, น.นพรัตน์ ฉบับอื่น ๆ ไม่ทราบแน่ชัด |
ประเทศ | ฮ่องกง |
ภาษา | จีน |
ประเภท | กำลังภายใน |
สำนักพิมพ์ | Ming Pao, Nanyang Siang Pau |
วันที่พิมพ์ | 3 กันยายน ค.ศ. 1963 |
ชนิดสื่อ | พิมพ์ |
เรื่องก่อนหน้า | Sword of the Yue Maiden |
เรื่องถัดไป | มังกรหยก |
แปดเทพอสูรมังกรฟ้า | |||||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 天龍八部 | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวย่อ | 天龙八部 | ||||||||||
ความหมายตามตัวอักษร | เทพ, มังกร, แปดจำพวก | ||||||||||
|
แปดเทพอสูรมังกรฟ้า (จีน: 天龍八部; พินอิน: Tiān Lóng Bā Bù; เทียนหลงปาปู้; จีนแต้จิ๋ว: เทียนเล้งโป๊ยโป๋ว; อังกฤษ: Demi-Gods and Semi-Devils) เป็นนิยายกำลังภายในภาษาจีน ผลงานลำดับที่ 11 ของกิมย้ง จำลอง พิศนาคะ แปลเรื่องนี้ในชื่อ มังกรหยก ภาคพิเศษ เพื่อให้เข้าชุดกับมังกรหยก แต่ชื่อที่เป็นที่รู้จักมากกว่าคือ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ซึ่งเป็นฉบับแปลของ น. นพรัตน์ ซึ่งเรื่องนี้ความจริงน่าจะเรียกว่ามังกรหยกภาค 0 มากกว่าเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนยุคของก้วยเจ๋งซึ่งเป็นตัวเอกในมังกรหยกภาค 1
"แปดเทพอสูรมังกรฟ้า" เป็นผลงานลำดับที่ 11 ของกิมย้ง นับตั้งแต่ชื่อเรื่อง และที่มาของแรงบันดาลใจ แสดงความใฝ่ใจในพุทธศาสนาของเขา ชื่อภาษาจีน "เทียนหลงปาปู้" หมายถึง เทพและอมนุษย์ 8 จำพวก ในตำนานของพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์เฉพาะตนแตกต่างกันไป ประกอบด้วย
เทพอสูร 8 เหล่าในความเปรียบทางธรรม ยังหมายถึง ความเปิดกว้างโดยเมตตาของพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่ว่าเผ่าพันธุ์วรรณะใด ล้วนมีสิทธิที่จะสดับฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า สามารถแสวงหาความเข้าใจ ความหลุดพ้นจากทุกข์ และบรรลุธรรมได้โดยเสมอภาคกัน
กิมย้งเขียนเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าในปี พ.ศ. 2506-2510 และปรับปรุงพิมพ์เป็นเล่มในปี พ.ศ. 2521 ฉบับภาษาไทย จำลอง พิศนาคะ แปลสำนวนแรกในปี พ.ศ. 2522 ใช้ชื่อว่า "มังกรหยกภาคพิเศษ" แต่เนื้อหาและเหตุการณ์ตามท้องเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมังกรหยกทั้ง 3 ภาคเลย ฉากหลังเป็นประวัติศาสตร์ช่วงก่อนมังกรหยกภาคแรกประมาณ 100 ปี
ก่อนหน้านั้น ราชวงศ์ซ้อง (ซ่ง) ดำเนินนโยบายลิดรอนอำนาจขุนศึก และนิยมลัทธิขงจื๊อใหม่ กำลังของส่วนกลางจึงไม่เข้มแข็งนัก ช่วงเวลาตามท้องเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า แผ่นดินจีนแบ่งออกเป็น 5 อาณาจักร ของหลายชนเผ่า
ตรงกลางคือต้าซ้องของชาวฮั่น ด้านเหนือคือต้าเหลียวของชาวชี่ตัน ด้านใต้คือต้าหลี่ ด้านตะวันตกเฉียงเหนือคือซีเซี่ย และด้านตะวันตกเฉียงใต้คือถู่ฝาน ต่างฝ่ายต่างอยากกลืนอาณาจักรอื่น และอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้วอย่างเยี่ยน ก็มีคนคิดฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ศึกสงครามจึงไม่สงบโดยง่าย
ตัวละครมีมาก เรื่องราวก็ซับซ้อน กิมย้งใช้วิธีเล่าถึงทีละคน ทีละเหตุการณ์ ไล่เรียงกันไป หากอุปมาเทพอสูร 8 เหล่า เป็นตัวละครต่าง ๆ อาจเปรียบได้ว่า (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เรียบเรียง ไม่ใช่ข้อเท็จจริง)
ตัวละครแต่ละจำพวก คล้ายต่างคนต่างอยู่ และมีปัญหาต่างกัน แต่กลับเชื่อมโยงเกี่ยวข้องและประหวัดเป็นปมเดียวกัน จากการมองพ้นคุณธรรมน้ำมิตรของชาวยุทธ์ ลดขนาดความสำคัญของประธานและกรรมในเรื่องเล่าให้เล็กลง แล้วหันมามองว่าแต่ละคน แต่ละเหตุการณ์ มีส่วนประกอบของปัจจัยอะไรบ้าง สืบเนื่องกันมาอย่างไร และแสดงธรรมชาติของมนุษย์ในสภาวการณ์หนึ่งอย่างไร
แปดเทพอสูรมังกรฟ้าจึงไม่ใช่นิยายกำลังภายในที่ว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างธรรมะกับอธรรม หากเป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับชีวิตที่เป็นทุกข์จากกิเลสที่แตกต่างกัน และแปรเปลี่ยนไปสุดจะหยั่ง
มีการถกเถียงกันถึงนิยายเรื่องนี้เป็นวงกว้างในเรื่องของฝีมือและพลังยุทธ จึงแสดงยอดวิชาของแต่ละตัวละครดังนี้เพื่อให้ผู้อ่านพิจารณาตามวิจารณญาณ
8 เทพอสูรมังกรฟ้า เป็นเรื่องราวในช่วงสงครามระหว่างแคว้นต้าซ่งและแคว้นเหลียว ทั้งสองแคว้นทำสงครามต่อเนื่องยาวนานจนปลูกฝังเป็นความแค้นลึกล้ำระหว่างเมืองทั้งสอง ในยุทธจักรมีคำกล่าว "เฉียวฟงเหนือ มู่หยงใต้" เค้าลางแห่งความวุ่นวายเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อเฉียวฟงประมุขพรรคกระยาจกถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรสังหารรองประมุขพรรคกระยาจกหม่าต้าหยวนและยังถูกเปิดโปงว่าเป็นชาวซิตัน ด้วยกระแสชาตินิยมจึงทำให้เฉียวฟงต้องออกจากพรรคกระยาจก เฉียวฟงออกสืบหาความเป็นมาของตนเองเพื่อจะหาผู้ที่ชาวยุทธ์เรียกขานว่า"ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่"ผู้ที่สังหารบิดามารดาที่แท้จริงของตนเองจนกระทั่งพบว่าตนเองนั้นเป็นชาวซิตันแซ่เซียว เฉียวฟงจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเซียวฟง แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรจนเซียวฟงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้สังหารบิดามารดาบุญธรรมและอาจารย์ของตน แต่ยังมีผู้หนึ่งที่อยู่เคียงข้างเซียวฟงตลอดนั่นคืออาจูผู้เป็นสาวใช้ของจอมยุทธ์ใต้มู่หยงฟู่ แต่โศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นจากความแค้นของเซียวฟงจนทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าสลด สุดท้ายเซียวฟงได้ช่วยเหลือเยลู่กีฮ่องเต้ซิตันจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไต้อ๋องแห่งแคว้นเหลียว
ณ เมืองต้าหลี่ ต้วนอี้บุตรชายอ๋องเจิ้นหนานต้วนเจิ้นฉุนแห่งต้าหลี่ได้หนีออกจากบ้านเนื่องจากถูกบิดาบังคับให้ฝึกวิทยายุทธ์ แต่ต้วนอี้ฝักใฝ่ทางธรรมมากกว่า แต่สุดท้ายก็ตกกระไดพลอยโจนได้ฝึกสุดยอดวิชาพรรคสราญรมย์และวิชาดรรชนีกระบี่หกชีพจรจนกลายเป็นยอดฝีมือ แต่ด้วยการที่ต้วนอี้ไม่มีพื้นฐานวรยุทธ์ จึงทำให้ยอดวิชาใช้ออกได้เป็นบางครั้งบางคราว ภายหลังต้วนอี้ถูกจิวม่อจื้อราชครูแคว้นถู่ฟานจับตัวไป จนเป็นสาเหตุให้ต้วนอี้ต้องเข้ามาพัวพันกับความวุ่นวายในยุทธจักร จนกระทั่งได้สาบานเป็นพี่น้องกับเซียวฟงและได้พบรักกับหวังอวี่เยี่ยน แต่ในใจหวังอวี่เยี่ยนนั้นรักเพียงญาติผู้พี่นามมู่หยงฟู่แห่งกูซูผู้ได้รับการขนานนามเป็นจอมยุทธ์ใต้เทียบเคียงกับเซียวฟง แม้ต้วนอี้จะไม่ได้รับรักตอบแต่ก็มีความพยายามติดตามมู่หยงฟู่และหวังอวี่เยี่ยนต่อไป
มู่หยงฟู่เป็นทายาทเชื้อพระวงศ์แคว้นต้าเยี่ยนที่ถูกกลืนโดยแคว้นต้าซ่ง ด้วยเหตุนี้มู่หยงฟู่จึงได้รับการปลูกฝังจนมีปณิธานที่จะกู้ชาติ มู่หยงฟู่ศึกษาวิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยและรอบรู้วิทยายุทธ์หลายสำนัก เขามักจะคบหากับชาวยุทธ์เพื่อจะหากำลังมากอบกู้เมืองเยี่ยนของตน ในอีกด้านหนึ่ง อิ้วถานจื่อผู้เป็นบุตรชายของเจ้าบ้านทั้งสองแห่งหมู่บ้านผู้กล้าต้องออกเร่ร่อนตามล้างแค้นเซียวฟงไปถึงแคว้นเหลียว เหตุเนื่องจากเซียวฟงพาอาจูไปหาหมอเทวดาที่หมู่บ้านผู้กล้าและได้ปะทะกับชาวยุทธ์จนเป็นสาเหตุให้เจ้าบ้านผู้กล้าทั้งสองต้องจบชีวิตลง แต่อิ้วถานจื่อถูกทหารซิตันจับมาได้และได้มาพบกับเซียวฟง อิ้วถานจื่อบังเอิญเก็บคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นที่เซียวฟงทำตกไว้ได้และได้หลงรักอาจื่อผู้เป็นน้องสาวอาจูโดยบังเอิญ แต่อาจื่อผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตได้นำหน้ากากเหล็กที่เพิ่งหลอมเสร็จมานาบหน้าของอิ้วถานจื่อจนเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกัน แต่กระนั้นอิ้วถานจื่อก็ได้ติดตามรับใช้อาจื่อด้วยความภักดี อาจื่อมักจะให้สัตว์พิษกัดอิ้วถานจื่อเพื่อฝึกวิชา อิ้วถานจื่อจึงฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นเพื่อขับพิษจนกลายเป็นยอดฝีมือ อิ้วถานจื่อได้รับการสนับสนุนจากฉวนกวนชิงแห่งพรรคกระยาจกจนได้เป็นประมุขพรรคกระยาจกคนใหม่ อิ้วถานจื่อถูกยุยงให้ท้าประลองกับวัดเส้าหลินเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดงานชุมนุมชาวยุทธ์ในวัดเส้าหลินขึ้น
ฝ่ายหลวงจีนน้อยวัดเส้าหลินนามซีจุ๊นำเทียบเชิญไปส่งให้เหล่าชาวยุทธ์และได้บังเอิญเข้าร่วมงานหมากล้อมและได้พบกับยอดฝีมือหลายคนรวมทั้งต้วนอี้ ซีจุ๊บังเอิญแก้กลหมากล้อมของอู๋หยาจื่อได้ เขาจึงได้รับการถ่ายทอดพลังเจ็ดสิบปีจากอู๋หยาจื่อและได้รับตำแหน่งเจ้าสำนักสราญรมย์ต่อจากอู๋หยาจื่อ ซีจุ๊ทำตามคำสั่งเสียของอู๋หยาจื่อจนได้เข้าไปพัวพันกับความแค้นของนางเฒ่าทาริกาเทียนซานและหลี่ชิวสุ่ย ทั้งสองได้ต่อสู้กันจนตกตายตามกัน ก่อนตายนางเฒ่าทาริกาได้มอบตำแหน่งเจ้าสำนักเทียนซานให้ซีจุ๊ ซีจุ๊ได้ฝึกวิชาสำนักสราญรมย์และเทียนซานจนแตกฉานกลายเป็นยอดฝีมือ
ภายหลัง เซียวฟง ซีจุ๊ และต้วนอี้ได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกัน ซีจุ๊ได้อภิเษกกับองค์หญิงแห่งซีเซี่ย ต้วนอี้ได้เป็นฮ่องเต้แห่งต้าหลี่และอภิเษกกับหวังอวี่เยี่ยน แต่สำหรับเซียวฟง มู่หยงฟู่ และอิ้วถานจื่อนั้นจบลงด้วยโศกนาฏกรรม มู่หยงฟู่ทำการกู้ชาติไม่สำเร็จจนสติฟั่นเฟือน อิ้วถานจื่อต้องพิการและเสียชีวิตเพื่อสังเวยความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่ออาจื่อ ส่วนเซียวฟงนั้นต้องเสียสละตนเองเพื่อให้แคว้นซ่งและเหลียวทั้งสองแคว้นยุติสงครามไม่รุกรานต่อกัน
ปี | ผู้สร้าง | นักแสดงหลัก | ดูที่ |
---|---|---|---|
1977 | Shaw Brothers Studio (Hong Kong) | Danny Lee, Tanny Tien, Lam Jan-kei, Wai Wang | See The Battle Wizard |
1982 | Hong Kong | Norman Chu, Kent Tong, Felix Wong, Idy Chan, Lam Jan-kei, Austin Wai | See Demi-Gods and Semi-Devils (1982 film) |
1994 | Hong Kong | Brigitte Lin, Gong Li, Sharla Cheung, Frankie Lam | See The Dragon Chronicles – The Maidens |
ปี | ผู้สร้าง | นักแสดงหลัก | ดูที่ |
---|---|---|---|
1982 | TVB (Hong Kong) | Bryan Leung, Kent Tong, Felix Wong, Idy Chan, Wong Hang-sau, Chan Fuk-sang, Sharon Yeung | See Demi-Gods and Semi-Devils (1982 TV series) |
1991 | CTV (Taiwan) | Austin Wai, Eddie Kwan, Sung Kang-ling, Chang Yung-yung | |
1997 | TVB (Hong Kong) | Felix Wong, Benny Chan, Louis Fan, Carman Lee | See Demi-Gods and Semi-Devils (1997 TV series) |
2003 | Ciwen Film & TV Production Co. Ltd. (Mainland China) | Hu Jun, Jimmy Lin, Gao Hu, Liu Yifei, Liu Tao, Chen Hao | See Demi-Gods and Semi-Devils (2003 TV series) |
2013 | Zhejiang Huace Film & TV Production Co. Ltd. (Mainland China) | Wallace Chung, Kim Ki-bum, Han Dong, Zhang Meng, Jia Qing, Zong Fengyan, Mao Xiaodan, Zhao Yuanyuan, Canti Lau | See The Demi-Gods and Semi-Devils (2013 TV series) |