แม่หอบ

แม่หอบ
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ไมโอซีน ถึง ปัจจุบัน
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Arthropoda
ไฟลัมย่อย: Crustacea
ชั้น: Malacostraca
อันดับ: Decapoda
อันดับฐาน: Gebiidea
วงศ์: Thalassinidae
Latreille, 1831
สกุล: Thalassina
Latreille, 1806
ชนิดต้นแบบ
Thalassina scorpionides
Latreille, 1806
ชนิด

แม่หอบ หรือ จอมหอบ[1] (อังกฤษ: Mud lobster, Mangrove lobster ) เป็นสัตว์น้ำประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกครัสเตเชียนชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสกุล Thalassina และวงศ์ Thalassinidae จัดเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณหรือซากดึกดำบรรพ์มีชีวิตที่ดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคไมโอซีนยาวนานถึง 16 ล้านปี[2]

มีรูปร่างคล้ายกุ้งผสมกับปูโดยขาคู่แรกขนาดใหญ่คล้ายก้ามปู นอกจากใช้เดินแล้วยังทำหน้าที่ขุดรูและขนดินออกมากองคล้ายจอมปลวก แต่มีขนาดเล็กกว่า หัวเหมือนกุ้งมีขนาดใหญ่ ลำตัวสีแดงเข้มเป็นปล้อง ๆ คล้ายกั้ง ท้องขนาดเล็กยาวเรียวไม่มีแพนหาง ลักษณะคล้ายแมงป่อง มีขนาดความยาวประมาณ 20–30 เซนติเมตร (7.9–12 นิ้ว)[3][4]

อาศัยโดยการขุดรูอยู่ตามพื้นป่าชายเลน โดยขนดินขึ้นมากองทับถมกันเป็นเนินสูง และอาศัยอยู่ด้านใต้กองดินนั้น สามารถอยู่บนบกได้เป็นเวลานานกว่าครัสตาเซียนจำพวกอื่น ๆ กินอาหารจำพวกอินทรีย์สารที่อยู่ในดินเลนในเวลากลางคืน ในประเทศไทยพบเฉพาะป่าชายเลนทางภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน[5] ในต่างประเทศพบได้ที่รัฐเกรละ ในอินเดีย, ศรีลังกาจรดถึงเวียดนาม, หมู่เกาะริวกิวของญี่ปุ่น จนถึงชายฝั่งทะเลของปาปัวนิวกินีและออสเตรเลียทางตอนเหนือและตะวันตก รวมถึงฟิจิและซามัว[4] พบได้รอบ ๆ พื้นที่เกษตรกรรม เช่น พื้นที่เพาะเลี้ยงปลาหรือกุ้ง โดยถือว่าเป็นสัตว์คุกคาม[3]

การที่ได้ชื่อในภาษาไทยว่า "แม่หอบ" เนื่องจากมีความเชื่อว่า เนื้อของแม่หอบสามารถรักษาอาการหอบหืดได้ จึงนิยมนำมาเผาไฟรับประทานกันในอดีต[4][6] สอดคล้องกับชื่อวิทยาศาสตร์ Thalassina ที่หมายถึง "การย้อนกลับทางเดินหายใจ" เพื่อให้เหงือกไม่มีสิ่งสกปรก[7]

สถานะปัจจุบันของแม่หอบ ถือได้ว่าเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ อันเนื่องจากสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ประกอบกับเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างบอบบางตายง่าย[6] เช่น ในช่วงฤดูมรสุมน้ำทะเลอาจท่วมรูของแม่หอบ จนทำให้แม่หอบตายได้

การจำแนก

[แก้]

ในอดีตเคยเชื่อว่า แม่หอบ มีเพียงชนิดเดียว คือ Thalassina anomala มาอย่างยาวนาน แต่ปัจจุบันได้มีการศึกษาเพิ่มเติมในปี ค.ศ. 2009 โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาด้านครัสเตเชียนชาวเวียดนาม เหงียน หง็อก-โฮ และมิเชลล์ เดอ แซงต์ ลอรองต์ ชาวฝรั่งเศส พบว่ามีแปดชนิดและพบซากดึกดำบรรพ์ โดยจัดให้วงศ์ Thalassinidae อยู่ในอันดับฐาน Gebiidea พร้อมกับวงศ์ Upogebiidae, Axianassidae และLaomediidae[8][9]

ซากดึกดำบรรพ์ที่นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ออสเตรเลีย

ประกอบไปด้วย:[8]

  • Thalassina anomala Herbst, 1804 – อินโด-เวสต์แปซิฟิก, ชื่อพ้อง T. maxima
  • Thalassina gracilis Dana, 1852 – ประเทศไทย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย และตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย
  • Thalassina kelanang Moh & Chong, 2009 – มาเลเซีย
  • Thalassina krempfi Ngoc-Ho & de Saint Laurent, 2009 – เวียดนาม, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
  • Thalassina pratas Lin, Komani & Chan, 2016 – จีน
  • Thalassina spinirostris Ngoc-Ho & de Saint Laurent, 2009 – สิงคโปร์, มาเลเซีย
  • Thalassina spinosa Ngoc-Ho & de Saint Laurent, 2009 – อินโดนีเซีย, อินเดีย และปาปัวนิวกินี
  • Thalassina squamifera de Man, 1915 – ประเทศไทย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, หมู่เกาะโซโลมอน, ฟิจิ, ตอนเหนือของออสเตรเลีย

และซากดึกดำบรรพ์, Thalassina emerii พบที่ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย, ปาปัวนิวกินี และอินโดนีเซีย[8]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "เรื่องเล่าหลังเลนส์ สองกำลังสื่อ ตอน ตามหาจอมหอบ". นักข่าวพลเมือง. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย. 21 มีนาคม 2014.
  2. H. Karasawa & I. Nishikawa (1991). "Thalassina anomala (Herbst, 1804) (Thalassinidea: Decapoda) from the Miocene Bihoku Group, southwest Japan". Transactions and Proceedings of the Palaeontological Society of Japan. 163: 852–860.
  3. 3.0 3.1 Kelvin K. P. Lim; Dennis H. Murphy; T. Morgany; N. Sivasothi; Peter K. L. Ng; B. C. Soong; Hugh T. W. Tan; K. S. Tan; T. K. Tan (1999). "Mud lobster, Thalassina anomala". ใน Peter K. L. Ng; N. Sivasothi (บ.ก.). A Guide to the Mangroves of Singapore. Singapore Science Centre. ISBN 981-04-1308-4.
  4. 4.0 4.1 4.2 Lipke B. Holthuis (1991). "Thalassina anomala". Marine Lobsters of the World. FAO Fisheries Synopsis No. 125. Food and Agriculture Organization. pp. 229–231. ISBN 92-5-103027-8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 สิงหาคม 2011.
  5. "แลปูลม ชมแม่หอบ ลอบดูปูไก่...ที่เกาะยาวน้อย". 22 กันยายน 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กรกฎาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2010.
  6. 6.0 6.1 "มหัศจรรย์...สัตว์น้ำสวยงาม". ไทยรัฐ. 3 ตุลาคม 2010.
  7. Zenon B. Batang & H. Suzuki (1999). "Gill-cleaning mechanisms of the mud lobster Thalassina anomala (Decapoda: Thalassinidea: Thalassinidae)". Journal of Crustacean Biology. 19 (4): 671–683. doi:10.2307/1549290. JSTOR 1549290.
  8. 8.0 8.1 8.2 Nguyen Ngoc-Ho; Michèle de Saint Laurent (2009). "The genus Thalassina Latreille, 1806 (Crustacea: Thalassinidea: Thalassinidae)" (PDF). Raffles Bulletin of Zoology (Suppl. 20): 121–158. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-01-23. สืบค้นเมื่อ 2017-04-23.
  9. K. Sakai (2004). "The diphyletic nature of the Infraorder Thalassinidea (Decapoda, Pleocyemata) as derived from the morphology of the gastric mill". Crustaceana. 77 (9): 1117–1129. doi:10.1163/1568540042900268. JSTOR 20107419.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Thalassina ที่วิกิสปีชีส์