โคเซ ทานากะ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เกิด | โคเซ ทานากะ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2538 ทาจิมิ ประเทศญี่ปุ่น | ||||||||||||||
สัญชาติ | ญี่ปุ่น | ||||||||||||||
ชื่ออื่น | 中京の怪物 (โรมาจิ : Chukyo no Kaibutsu) ไทย : สัตว์ประหลาดแห่งชูเกียว[1]
KO Dream Boy | ||||||||||||||
สถิติ | |||||||||||||||
น้ำหนัก | |||||||||||||||
ส่วนสูง | 164 เซนติเมตร (5 ฟุต 5 นิ้ว) | ||||||||||||||
ช่วงชก | 161 เซนติเมตร | ||||||||||||||
เทรนเนอร์ | {{{trainer}}} | ||||||||||||||
รูปแบบการชก | ดั้งเดิม | ||||||||||||||
สถิติขึ้นชก | |||||||||||||||
ชกทั้งหมด | 18 | ||||||||||||||
ชนะ | 17 | ||||||||||||||
ชนะน็อก | 10 | ||||||||||||||
แพ้ | 1 (น็อก) | ||||||||||||||
รายการเหรียญรางวัล
|
โคเซ ทานากะ (ญี่ปุ่น: 田中恒成; โรมาจิ: Tanaka Kōsei) นักมวยสากลชาวญี่ปุ่น เป็นนักมวยสากลชาวญี่ปุ่นที่ชกน้อยครั้งที่สุดแล้วได้ตำแหน่งแชมป์โลกในปัจจุบัน และเป็นนักมวยชาวเอเชียคนแรกที่ชกน้อยครั้งที่สุดที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ 3 รุ่น
เป็นบุตรคนกลางของครอบครัว มีพี่ชายและน้องสาวอย่างละ 1 มีชื่อว่าเรียวเม ทานากะ เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติญี่ปุ่น เจ้าของตำแหน่งเหรียญทองแดง กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ในรุ่นฟลายเวท[2] และอันนะ ทานากะ[3] กับลูกพี่ลูกน้อง 1 คน คือ ยูฮานะ โยโคอิ เป็นนักกีฬาสเกตลีลา[4] บิดามีชื่อว่า ฮิโทชิ ทานากะ ในวัยเด็กเคยประสบปัญหากับโรคหัวกระดูกต้นขาแบน
จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย จากโรงเรียนมัธยมชูเกียว และระดับอุดมศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชูเกียว[5]
เริ่มต้นจากการชกมวยสากลสมัครเล่นตั้งแต่ช่วงมัธยมภายใต้การฝึกสอนของ ฮิเดยาซุ อิชิฮาระ นักมวยอดีตแชมป์ OPBF รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ได้ชนะการแข่งขันระดับมัธยมปลายหลายครั้ง จนติดทีมมวยสากลสมัครเล่นชุดเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่น เริ่มแข่งขันระดับนานาชาติตั้งแต่ พ.ศ. 2555 โดยได้เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศมวยสากลเยาวชนเยาวชนชิงแชมป์โลก 2012 และเหรียญเงินมวยสากลชิงแชมป์เยาวชนทวีปเอเชีย 2013 รุ่นไลท์ฟลายเวท สถิติการชกมวยสากลสมัครเล่น ชนะ 46 ครั้ง (อาร์เอสซี 13 ครั้ง) แพ้ 5 ครั้ง
เมื่อเปลี่ยนมาชกมวยสากลอาชีพได้สังกัดค่าย "SOUL BOX ฮาทานากะ" ของคิโยชิ ฮาทานากะ อดีตแชมป์โลก WBC รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวท จนได้ชิงแชมป์ OPBF รุ่นมินิมัมเวท กับรีวจิ ฮาระ นักมวยเจ้าของแชมป์ชาวญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน เขาได้สร้างสถิตินักมวยญี่ปุ่นชกน้อยครั้งที่สุดแล้วได้แชมป์ในสถาบันนี้ (4 ครั้ง) ผลการชกเป็นฝ่ายชนะทีเคโอรีวจิในยก 10 ที่โตเกียว[6] โคเซมีเพลงที่เปิดประกอบในช่วงเวลาเดินขึ้นเวทีประจำตัวของตัวเอง คือ "I Was Born to Love You"[7] ในอัลบั้ม Mr. Bad Guy โดยเฟรดดี เมอร์คูรี
ต่อมาได้ชิงแชมป์โลก WBO (ที่ว่าง) รุ่นมินิฟลายเวท ในฐานะรองแชมป์โลก WBO อันดับ 2 ในรุ่น กับ ฆูเลียน เยรดรัส นักมวยรองแชมป์โลก WBO อันดับ 1 ชาวเม็กซิโก กำหนดชกวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ที่โคมากิ ถ้าทำสำเร็จจะเป็นนักมวยสากลชาวญี่ปุ่นที่ทำสถิติการชกน้อยที่สุดแล้วได้เป็นแชมป์โลกคือ 5 ครั้ง (ทำลายสถิติเดิมของนาโอยะ อิโนอูเอะ ใน พ.ศ. 2557 ที่ชก 6 ครั้ง[8]) ผลการชกโคเซ ทานากะ ชนะคะแนนเอกฉันท์ได้เป็นแชมป์โลกครั้งแรก[9]
โคเซ ทานากะป้องกันตำแหน่ง 1 ครั้ง สละตำแหน่งในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559[10] แล้วเลื่อนน้ำหนักไปชกในรุ่นจูเนียร์ฟลายเวท เพื่อชิงแชมป์โลก WBO รุ่นเดียวกันจากตำแหน่งว่าง กับ มอยเซส ฟูเอนเตส นักมวยรองแชมป์โลก WBO อันดับ 1 รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท และอดีตแชมป์โลก WBO รุ่นมินิฟลายเวท ชาวเม็กซิโก การแข่งขันจัดขึ้นในวันสิ้นปี พ.ศ. 2559 เมืองกิฟุ ผลการชกชนะทีเคโอมอยเซสในยกที่ 5 ได้แชมป์โลกเป็นรุ่นที่ 2 มาครอง ภายในการชก 8 ครั้ง[11]
ในการเป็นแชมป์โลกรุ่นนี้ได้ป้องกันตำแหน่งได้ 2 ครั้ง ในการป้องกันครั้งที่ 2 ได้ป้องกันกับนักมวยชาวไทย คือ พลังพล ซีพีเฟรชมาร์ท นักมวยรองแชมป์โลก WBO อันดับ 13 เป็นคู่มวยร่วมรายการกับคู่มวยป้องกันแชมป์โลก IBF รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวท ระหว่าง ยูกิโนริ โองูมิ กับ เรียวซูเกะ อิวาซะ จัดขึ้นวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560 ที่โอซากะ[12] โดยคู่ของโคเซ ทานากะ กับพลังพลเป็นคู่เริ่มรายการก่อน
ผลการชกในการชกครั้งนั้น สามารถชนะทีเคโอพลังพลได้ในยก 9 ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ ภายหลังการชกเสร็จได้ถูกส่งโรงพยาบาลเข้ารับการรักษาในวันเดียวกัน[13]
หลังการตรวจรักษาพบว่ามีอาการกระดูกเบ้าตาแตกทั้ง 2 ข้างทำให้ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บเป็นระยะเวลาหนึ่ง และต้องยกเลิกการชกล้มแชมป์โลกที่มีกำหนดในวันสิ้นปี 2560 กับเรียวอิจิ ทางูจิ แชมป์โลก WBA รุ่นเดียวกันชาวญี่ปุ่น[14]
ต่อมาได้สละตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560[15] เพื่อเลื่อนน้ำหนักไปชกในรุ่นฟลายเวทและได้ชิงแชมป์โลกสถาบันเดิมกับนักชกเจ้าของแชมป์โลกชาวญี่ปุ่นด้วยเดียวกันคือ "โช คิมูระ" การชกจัดในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561 ที่นาโงยะ ในก่อนหน้านั้นโช คิมูระ ได้ไปชิงแชมป์โลกรุ่นนี้เป็นฝ่ายชนะทีเคโอยก 11 โจว ซื่อหมิง ถึงประเทศจีน ประเทศบ้านเกิดเจ้าของแชมป์โลก[16]
ผลการชกเป็นฝ่ายชนะคะแนนต่อคิมูระได้แชมป์โลกมาครองเป็นรุ่นที่ 3 นับเป็นนักมวยชาวเอเชียคนแรกที่ได้แชมป์โลกของ WBO ถึงสามรุ่น และเป็นนักมวยสากลที่ชกน้อยครั้งที่สุดแล้วได้เป็นแชมป์โลก 3 รุ่น ในการชก 12 ครั้ง (เทียบเท่ากับ วาซีล โลมาเชนโก) โดยไม่เคยแพ้และเสมอใคร[17] และการชกในครั้งนี้ได้รับรางวัลคู่มวยแห่งปี 2561 จากคณะกรรมการมวยสากลญี่ปุ่น (JBC)[18]
โคเซสามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่นนี้ได้ 3 ครั้ง ต่อมา WBO ได้มอบตำแหน่งซูเปอร์แชมป์ให้[19] โคเซได้สละตำแหน่งแชมป์โลก WBO รุ่นฟลายเวทเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563[20] โดยเลื่อนน้ำหนักไปชกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท เป้าหมายเพื่อชิงแชมป์โลกในรุ่นนี้กับ คาซูโตะ อิโอกะ นักมวยแชมป์โลก WBO รุ่นเดียวกันชาวญี่ปุ่น ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักมวยสากลชายชาวญี่ปุ่นคนแรกที่สามารถครองแชมป์โลกได้ 4 รุ่น เมื่อ พ.ศ. 2562 เพื่อทำสถิติเป็นแชมป์โลก 4 รุ่นเทียบเท่ากับคาซูโตะ
การชกชิงแชมป์โลกกำหนดชกในวันสิ้นปี พ.ศ. 2563 ที่โตเกียว ตั้งแต่หลังการชกป้องกันตำแหน่งในวันสิ้นปี พ.ศ. 2562 นักมวยทั้ง 2 คนไม่มีรายการชกใดเลยสืบเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น ผลการชกโคเซเป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอในยก 8 ชิงแชมป์โลกไม่สำเร็จและเป็นการแพ้ครั้งแรกในการชกมวยสากลอาชีพ[21]