โรงเรียนสารวิทยา

โรงเรียนสารวิทยา
Sarawittaya School
ภาพถ่ายโรงเรียนสารวิทยาจาก รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท สถานีกรมป่าไม้
ที่ตั้ง
แผนที่
ข้อมูล
ชื่ออื่นส.ย. / SRV
ชื่อเดิมโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ สารวิทยา
ประเภทโรงเรียนรัฐบาล
โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ
คำขวัญบาลี: สุวิชฺโช ว ชเนสุโต
(ผู้มีวิชาดี เป็นคนเด่นในหมู่ชน)
สถาปนา1 กรกฎาคม พ.ศ. 2487
(80 ปี 152 วัน)
ผู้ก่อตั้งพ.อ. พระวิทยาสารรณยุต (หยัด วิทยาสารรณยุต) เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก
รหัส1000103002
ผู้อำนวยการนายนโรดม นรินทร์รัมย์
ระดับปีที่จัดการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย
จำนวนนักเรียน2,894 คน (ข้อมูล ณ ปีการศึกษา2563) [1]
ภาษาที่ใช้เป็นสื่อการสอนไทย ไทย
สหราชอาณาจักร อังกฤษ
ฝรั่งเศส ฝรั่งเศส
เกาหลีใต้ เกาหลี
จีน จีนกลาง
ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น
พื้นที่31 ไร่
สี    เขียว ขาว
คำขวัญเรียนดี มีวินัย ใจนักกีฬา
เพลงมาร์ชสารวิทยา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2 สพฐ.
ดอกไม้ประจำโรงเรียนดอกสาละ
เว็บไซต์www.srv.ac.th
โรงเรียนสารวิทยาตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
โรงเรียนสารวิทยา
โรงเรียนสารวิทยา
โรงเรียนสารวิทยา (กรุงเทพมหานคร)

โรงเรียนสารวิทยา เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ประเภทสหศึกษา ตั้งอยู่เลขที่ 2398/96 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งโดย พ.อ.พระวิทยาสารรณยุต เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก มีเนื้อที่ประมาณ 31 ไร่ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น ม.1 - ม.6 มีนักเรียนประมาณ 2,700 คน ครู-อาจารย์ 127 คน มีทั้งหมด 78 ห้องเรียนโดย มัธยมศึกษาตอนต้นมี 39 ห้อง (แบ่งเป็น 13-13-13) มัธยมศึกษาตอนปลายมี 39 ห้อง (แบ่งเป็น 13-13-13) สำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มี 6 แผนการเรียนคือ วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์, คณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ, วิทยาการกีฬา, และมีห้องเรียนพิเศษคือ วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี, ห้องเรียน GIFTED, ภาษาจีนเข้มข้น,ภาษาญี่ปุ่น,ภาษาฝรั่งเศส,ภาษาเกาหลีเข้มข้น[2][3]

สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน

[แก้]
  • คติพจน์ : "ความรู้คู่คุณธรรม กิจกรรมเสริม เพิ่มสิ่งแวดล้อม พร้อมนำการปฏิรูป"
  • ปรัชญา/คติธรรม : "สุวิชโช ว ชเนสุโต" ผู้มีวิชาดี เป็นคนเด่นในหมู่ชน
  • เอกลักษณ์โรงเรียน : ประพฤติดี มีความรู้ ก้าวทันเทคโนโลยี
  • คำขวัญ : "เรียนดี มีวินัย ใจนักกีฬา"
  • สีประจำโรงเรียน : "เขียว-ขาว" [4]
    •   สีเขียว หมายถึง ความสดชื่น ความอุดมสมบูรณ์ทางวิทยาการ และความเข็มแข็งมีระเบียบวินัย
    •   สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ดุจคุณธรรมที่ลูกสารวิทยาทุกคนยึดมั่น ดอกไม้ประจำโรงเรียนสารวิทยา เป็นสีของท้องฟ้าที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ ไพศาลไม่มีที่สิ้นสุด เป็นสีแห่งจักรวาล
  • ตราประจำโรงเรียน : "พระมหาพิชัยมงกุฎ อันเป็นหนึ่งในห้าของเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ อันเป็นเครื่องทรงในพระมหากษัตริย์ไทย พร้อมด้วยรัศมี 18 แฉก มีตรา ส.ย. ล้อมรอบด้วยกรอบกระหนก ประดับอยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ พร้อมด้วยริบบิ้นสีเขียวเขียนชื่อ "โรงเรียนสารวิทยา" อยู่ด้านล่างตรา ส.ย."
  • ดอกไม้ประจำโรงเรียน : "ดอกสาละ"
  • พระพุทธรูปประจำโรงเรียน : "พระศากยะมุนีศรีสาระ"
  • วันสถาปนาโรงเรียน : "1 กรกฎาคม 2487"

ประวัติ

[แก้]

ในปี 2484 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดพระนคร และธนบุรี ต้องหยุดทำมีมติเห็นพ้องต้องกันว่าควรจัดตั้งโรงเรียนขึ้นภายในกรมวิทยาศาสตร์ทหารบกเพื่อทำการสอนเด็กเหล่านั้นจึงได้ดำเนินการขอจัดตั้งโรงเรียนต่อกระทรวงศึกษาธิการ

ดังนั้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2487 พ.อ. พระวิทยาสารรณยุตเจ้ากรมวิทยาศาสตร์ จึงได้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนเป็นการภายในโดยใช้เรือนแถวนายทหารหมายเลข 9-10เป็นสถานที่ทำการสอน โดยมี พ.ต.ขุนบัญญัติ ทิพโกมุท เป็นเจ้าของ และผู้จัดการ นางสำรวย อุณหะเลขกะ เป็นครูทำการสอนอยู่ในความอุปการะของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบกและได้เริ่มทำการสอน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2487

ในปี 2489 สงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง พ.อ.จักรายุทธวิชัย หงสกุล (ยศขณะนั้น) เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ จึงได้จัดตั้งโรงเรียนต่อกระทรวงศึกษาธิการและได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนราษฎร์เป็นการถูกต้องตามพระราชบัญญัติให้ชื่อว่า “โรงเรียนสารวิทยา” สอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่ชั้นประถม ปีที่ 1-4ประเภทสามัญ (ก่อนการเปลี่ยนแปลงแผนการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2494) อนุญาตให้รับนักเรียนได้ 125 คนและใช้บริเวณแผนกที่ 6 กรมช่างแสง (แปรสภาพจากกรมวิทย์ฯ ) ถนนพหลโยธินบ้านพักหมายเลข 9-10 เป็นที่ตั้งของโรงเรียน มีนักเรียนทั้งสิ้น 27 คน รับนักเรียนทั่วไป มีครูทำการสอน 3 คน พ.ท.ขุนจรัส พนาวสาน เป็นเจ้าของโรงเรียน โดยมีร.อ.สุวัสตร์ ปัทมานนท์ เป็นผู้จัดการ และนางจำเนียร เอี่ยมบุญฤทธิ์ เป็นครูใหญ่ โรงเรียนได้ดำเนินการเรื่อยมา จนถึงปี 2490 จึงได้ขยายชั้นเรียนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีครูทำการสอน 9 คน เปิดสอนแบบสหศึกษา

ปีพ.ศ. 2498 โรงเรียนได้ขยายรับนักเรียนจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กระทรวงศึกษาธิการได้รับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล และอนุญาตให้เป็นหน่วย สมทบสอบ และทำการสอบไล่ได้เองทุกชั้น

ต่อมาวันที่ 22 พฤศจิกายน 2500 โรงเรียนสารวิทยาได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์สารวิทยา” และมีนางวนิดา ปิ่นเพชร เป็นครูใหญ่แทน นางจำเนียร เอี่ยมบุญฤทธิ์ ครูใหญ่คนเดิมซึ่งขอลาออกเพื่อติดตามครอบครัวไปต่างจังหวัด

ในปี พ.ศ. 2503 โรงเรียนได้เปิดทำการสอนนักเรียนเตรียมปีที่ 1 แผนกวิทยาศาสตร์และในปี พ.ศ.2504 ได้ขยายชั้นเรียนถึงชั้นเตรียมปีที่ 2

วันที่ 1 พฤษภาคม 2519 โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์สารวิทยา ได้รับโอนเข้าสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการได้ชื่อใหม่ว่า “โรงเรียนสารวิทยา” นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 จนถึงปัจจุบันและวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันสถาปนาโรงเรียน

หลักสูตรและห้องเรียน

[แก้]

โรงเรียนสารวิทยาจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ปัจจุบันมีนักเรียนจำนวน 2,894 คน และครูจำนวน 113 ท่าน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ และประสบการณ์ทางการสอน นอกจากนี้ โรงเรียนสารวิทยาได้จัดแผนการเรียนที่หลากหลายตามความสนใจของนักเรียน ได้แก่ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ได้แก่ ห้องเรียนปกติ Mini English Program หรือห้องเรียนจีนเข้มข้น ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ แผนการเรียนจีนเข้มข้น แผนการเรียนภาษาเกาหลีเข้มข้น แผนการเรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่น แผนการเรียนพิเศษภาษาฝรั่งเศส แผนการเรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และ เทคโนโลยี รวมทั้ง โครงการห้องเรียนพิเศษ (SAP)

  • ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
    • มี 13 ห้อง
    • ห้องเรียนปกติ ห้อง 1-10 ใช้หลักสูตรมาตราฐานกระทรวงศึกษาธิการ
      • โดยทั่วไป จัดตามคะแนนโดย ห้อง 1 และ 2 คือห้องคิงส์ เรียงตามลำดับคะแนนไปเรื่อยๆ จนถึง ห้อง 8
      • ทุกปีการศึกษาจะมีการจัดห้องใหม่โดยอิงจากเกรดเฉลี่ยเป็นเกณฑ์
      • นักเรียนห้องละประมาณ 45 คน
    • ห้อง ICP โครงการห้องเรียนพิเศษภาษาจีนเข้มข้น จำนวน 1 ห้อง (โดยทั่วไปคือ ห้อง 11)
      • รายวิชาภาษาจีนจะแยกออกเป็น 2 วิชาคือสอนโดยครูผู้สอนชาวไทย และเจ้าของภาษา เรียน 5 คาบต่อสัปดาห์ มีการสอบวัดระดับด้านภาษาจีน เรียนวิชาอื่นเป็นภาษาไทย
    • ห้อง GIFTED โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ จำนวน 1 ห้อง (โดยทั่วไปคือ ห้อง 12)
      • รายวิชาวิทยาศาสตร์จะแยกออกเป็น 3 วิชาคือฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และ คณิตศาสตร์แยกเป็น 2 วิชา ใช้หลักสูตร สอวน.
    • ห้อง MEP (Mini English Program) จำนวน 1 ห้อง (โดยทั่วไปคือ ห้อง 13)
      • ทำการสอนเป็นภาษาอังกฤษใน 4 รายวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ (หลักและเสริม) และ สังคมศึกษา สอนโดยคณาจารย์ชาวต่างชาติ กำกับการสอนโดยครูไทย
  • ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
    • มี 13 ห้อง
    • มีการจัดห้องเรียนตามแผนการเรียน ดังนี้
      • แผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาจีนเข้มข้น (ศิลป์-จีน)(ห้องเรียนพิเศษ) 1 ห้อง โดยทั่วไปคือห้อง 1
      • แผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาเกาหลีเข้มข้น (ศิลป์-เกาหลี)(ห้องเรียนพิเศษ) 1 ห้อง โดยทั่วไปคือห้อง 2
      • แผนการเรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่น (ศิลป์-ญี่ปุ่น) 1 ห้องโดยทั่วไปคือห้อง 3
      • แผนการเรียนพิเศษภาษาฝรั่งเศส (ศิลป์-ฝรั่งเศส) 1 ห้องโดยทั่วไปคือห้อง 4
      • แผนการเรียนวิทยาการกีฬา 1 ห้องโดยทั่วไปคือห้อง 5
      • แผนการเรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ (ศิลป์-คำนวณ) จำนวน 3 ห้องโดยทั่วไปคือห้อง 6-8
      • แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ (วิทย์-คณิต) จำนวน 5 ห้อง โดยแบ่งเป็น
        • ห้อง 9 -11 คือ ห้องวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ (วิทย์-คณิต) ทั่วไป จำนวน 3 ห้อง
        • ห้อง 12 คือ ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี (SMT) จำนวน 1 ห้อง
        • ห้อง 13 คือ ห้องเรียนโครงการพิเศษวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์เข้มข้น (GIFTED)จำนวน 1 ห้อง
    • กลุ่มแผนการเรียนศิลป์-ภาษาที่สามจะต้องสอบวัดระดับทางภาษาตามเกณฑ์ที่กำหนดให้ผ่านถึงจะสำเร็จการศึกษา (เช่น HSK JLPT TOPIK เป็นต้น)
    • กลุ่มแผนการเรียนศิลป์-คำนวณจะต้องเลือกวิชาโทหรือเสรี (เช่น ศิลป์-คำนวณ-จีน ศิลป์-คำนวณ-ญี่ปุ่น เป็นต้น) เป็นจำนวน 1 หน่วยกิต (2คาบ) *เริ่มใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560

คณะสี

[แก้]

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

13°51′06″N 100°34′58″E / 13.851597°N 100.582738°E / 13.851597; 100.582738