โอดะ ฮิเดโนบุ

โอดะ ฮิเดโนบุ
織田 秀信
หัวหน้าตระกูลโอดะ
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 1582 – 1605
ก่อนหน้าโอดะ โนบูนางะ
ถัดไปไม่ได้บันทึก
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดค.ศ. 1580
แคว้นมิโนะ
เสียชีวิต24 กรกฎาคม ค.ศ. 1605(1605-07-24) (24–25 ปี)
แคว้นมิโนะ
บุพการี
ความสัมพันธ์โอดะ โนบูนางะ (ปู่)
ทาเกดะ ชิงเง็ง (ตา)
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ตระกูลโทโยโตมิ
กองทัพตะวันตก
หน่วย ตระกูลโอดะ
บังคับบัญชาปราสาทกิฟุ
ผ่านศึกยุทธการที่ปราสาทกิฟุ (1600)
ยุทธการที่เซกิงาฮาระ (1600)

โอดะ ฮิเดโนบุ (ญี่ปุ่น: 織田 秀信โรมาจิOda Hidenobu; ค.ศ. 1580 – 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1605) เป็นลูกชายของโอดะ โนบูทาดะ และอาศัยอยู่ในช่วงยุคอาซูจิ–โมโมยามะในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 เขาหันมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก[1] และมีอีกชื่อหนึ่งคือ ซัมโบชิ[2] (三法師)

ข้อพิพาทเรื่องการสืบทอดตำแหน่ง

[แก้]

เมื่อโอดะ โนบูทาดะ และโอดะ โนบูนางะ พ่อและปู่ของฮิเดโนบุตามลำดับ ถูกฆ่าตายในช่วงเหตุการณ์การล้อมฮนโนจิใน ค.ศ. 1582 มีข้อพิพาทว่าใครจะเป็นผู้ปกครอง โอดะ โนบูทากะ และโอดะ โนบูคัตสึ บุตรชายคนที่สามและสองของโนบูนางะตามลำดับ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิตัดสินข้อพิพาทด้วยการสนับสนุนฮิเดโนบุแม้ว่าฮิเดโนบุจะเป็นเพียงเด็กทารก เขาก็ประกาศว่าให้เป็นทายาท[3]

ยุทธการที่เซกิงะฮะระ

[แก้]

ฮิเดโนบุติดตามรับใช้ภายใต้อิชิดะ มิสึนะริ ระหว่างยุทธการที่เซกิงาฮาระใน ค.ศ. 1600 ก่อนการต่อสู้เขาได้ครอบครองปราสาทกิฟุ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในแผนโดยรวมของมิตสึนาริ แม้กระนั้นในที่สุดเขาก็สูญเสียปราสาทระหว่างยุทธการที่ปราสาทกิฟุกับอิเกดะ เทรูมาซะและฟูกูชิมะ มาซาโนริ หลังจากความพ่่ายแพ้ที่เซกิงะฮะระข้ารับใช้ของฮิเดโนบุกระทำเซ็ปปุกุในปราสาทกิฟุ พื้นกระดานเปื้อนเลือดในที่สุดก็กลายเป็นเพดานในวัดโซฟูกุในกิฟุ เพดานตอนนี้เรียกว่าเพดานเลือด[4] ฮิเดโนบุเองก็เสียชีวิตไปแล้วห้าปีหลังจากความพ่ายแพ้ที่เซกิงาฮาระ

อ้างอิง

[แก้]
  1. Laures, Johannes (1959). Two Japanese Christian heroes: Justo Takayama Ukon and Gracia Hosokawa Tamako. Bridgeway Press. OCLC 1296038.
  2. Papinot, Edmond (1906). Dictionnaire d'histoire et de géographie du Japon (ภาษาฝรั่งเศส). p. 548.
  3. Sansom, George (1961). A History of Japan, 1334-1615. Stanford: Stanford University Press. p. 311. ISBN 0804705259.
  4. Gifu City Walking Map. Gifu Lively City Public Corporation, 2007.