โอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) | |||
---|---|---|---|
โปสเตอร์โปรโมท โอเวอร์ เดอะ ลิมิต 2011 โดยมี เดอะ มิซ และ แดเนียล ไบรอัน เป็นแบบ | |||
สมาคม | WWE | ||
วันที่ | 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 ทรูวิชั่นส์ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2011 | ||
เมือง | ซีแอตเทิล, รัฐวอชิงตัน | ||
สถานที่ | คีย์ อารีนา | ||
ผู้ชม | 6,500 คน[1] | ||
แท็กไลน์ | "The most stimulating event on TV" (เหตุการณ์น่าจูงใจที่มากที่สุดในทีวี) | ||
ลำดับเหตุการณ์ Pay-per-view | |||
| |||
ลำดับเหตุการณ์โอเวอร์เดอะลิมิต | |||
|
โอเวอร์เดอะลิมิต (2011) เป็นรายการมวยปล้ำ ของ WWE ใน เพย์-เพอร์-วิว จะจัดขึ้นหลังศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 ที่ คีย์ อารีนา ซีแอตเทิล, รัฐวอชิงตัน เป็นครั้งที่ 2 ของรายการโอเวอร์เดอะลิมิต[2][3] โดยมีสโลแกนในปีนี้คือ "The most stimulating event on TV" และเพลงประจำศึกนี้คือ "Help Is On The Way" โดยวง Rise Against
หลังจากศึกเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) ที่คริสเตียนได้แชมป์ World Heavyweight Championship จากการชนะอัลเบร์โต เดล รีโอแบบไต่บันได ในสแมคดาวน์ 6 พฤษภาคม คริสเตียนต้องป้องกันแชมป์กับแรนดี ออร์ตัน จากการจัดโดยทีโอดอร์ ลอง[4] ซึ่งผลออกมาคือออร์ตันชนะ[5][6] และเรื่องนี้เป็นที่กล่าวกันในโลกสังคมอินเทอร์เน็ตทั้งที่แชมป์แกรนด์สแลมคนที่ 11 ของ WWE นั้นเสียแชมป์ให้กับออร์ตัน โดยครองแชมป์ได้ 2 วัน (นับจากตั้งแต่เอกซ์ตรีมรูลส์ - วันอัดเทปปล้ำศึก สแมคดาวน์) จนมีกระแสด้านลบออกมาพูดถึงเรื่องนี้กันมาก ซึ่งทั้งคู่ก็ปล้ำกัน แบบแท็คทีมบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรบาดหมาง และในสแมคดาวน์ล่าสุด คริสเตียนเจอกับเชมัส ผลออกมาคริสเตียนชนะ แต่ก็โดนรุมทำร้ายโดยมาร์ก เฮนรี ออร์ตันออกมาตอนนั้น เพียงยืนอยู่ทางด้าน ทางเดิน สักพัก ถึงออกมาช่วยคริสเตียน และในแมทซ์ สุดท้าย ออร์ตันเจอกับ เฮนรี แต่ก็เป็นออร์ตัน ที่ชนะแพ้ฟาล์ว ออร์ตันโดนรุมโดย เฮนรี และ เชมัส เหมือนกันเช่นเคย แต่สักพัก คริสเตียนก็มาคล้ายๆกับออร์ตันที่ยืนตรงทางเดินดูคู่ต่อสู้ตัวเองโดนรุมก่อนแล้วขึ้นมา ทั้งคู่มีการถกเถียงกันเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีอะไรบาดหมางนอกจากเข็มขัดเส้นเดียว
หลังเอกซ์ตรีม รูลส์ เพียงหนึ่งวันใน รอว์ ซึ่ง จอห์น ซีนา ชนะในกรงเหล็กสามเส้า ซึ่งได้กลายเป็นสมัยที่ 10 ของเขา ในรอว์นั้น ก็มีการรีแมตช์อีกครั้ง กับ เดอะ มิซ โดยระหว่างแมทซ์ อเล็กซ์ ไรลีย์ ก็เขามาก่อกวนแมตช์ตลอด แถมเดอะมิซยังเอาเข็มขัดฟาดใส่ ซีน่า ซึ่งตอนแรกกรรมการกดนับ 3 แต่กรรมการได้ไปบอกโฆษกว่าให้แมตช์นี้ เดอะ มิซเป็นฝ่ายแพ้ฟาล์ว ซีนาก็ยังครองแชมป์ได้อยู่ และในสัปดาห์ต่อก็มีการหาผู้ท้าชิงกันโดยเป็นแมตช์สามเส้า มี เดอะ มิซ เจอกับ อัลเบร์โต เดล รีโอ และเรย์ มิสเตริโอ ซึ่งมิซก็ได้สิทธิ์ จากการชนะในแมทซ์นั้น และซีนาประกาศหลังมิซชนะว่าแมตช์นี้ไม่มีการแพ้ฟาล์ว ไม่มีนับจากบนเวที ไม่มีซับมิชชั่น ไม่มีจับกด แต่ต้องพูดว่า "I Quit!" เท่านั้น ในสัปดาห์ถัดมา ซีนาบอกกับทุกคนๆ รวมถึง เดอะ มิซว่า ในศึกใหญ่นั้น เขาจะทำให้เดอะ มิซ พูดว่า "I Quit!"[7][8]
ไมเคิล โคล หลังจากที่ ชนะ 2 ครั้งใน เพย์-เพอร์-วิว โดยเจอกับ เจอร์รี ลอว์เลอร์ ซึ่งก็หลังจากที่ชนะไป นั้นโคลก็พูดจาเกี่ยวกับลอว์เลอร์ให้ฟังอีก บอกว่าถ้า ลอว์เลอร์แตะตัว โคล ลอว์เลอร์จะถูกไล่ออก แต่ลอว์เลอร์ก็สวนคำพูดกลับ พร้อมภาพที่ ไมเคิล โคลโดน เดอะร็อก เล่นงานในสัปดาห์ที่แล้ว และบอกว่าถ้าเขาได้เจอกับ โคลอีกรอบแล้วแพ้ เขาจะเป็นผู้เชิญเข้า Hall Of Fame และมอบแหวน HOF ของลอว์เลอร์ให้กับโคล แต่โคลปฏิเสธ แล้วเดินลงจากเวที เข้าไปใน โคล ไมเนอร์ แล้วยืนไปดูพูดจาถูกคนดู รวมถึง ลอว์เลอร์ด้วย บอกว่าลอว์เลอร์ แพ้ตั้งแต่ เรสเซิลเมเนีย และ เอกซ์ตรีม รูลส์ และพูดจายันไปถึงครอบครัว และทันใดนั้น ลอว์เลอร์ก็เข้าไปเล่นงาน แต่แจ็ก สแวกเกอร์เข้ามาลอบทำร้ายจากด้านหลัง ต่อมาระหว่างการปล้ำของ สแว็กเกอร์ นั้น ลอว์เลอร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าทางเดิน ก็ยืนดูอยู่โดยไม่ทำอะไร ทำให้สแวกเกอร์ เสียสมาธิ จนแพ้ไปในที่สุด จากนั้นลอว์เลอร์ก็ลากตัว สแวกเกอร์ แล้วอัดกระเด็นไปฝั่งกำแพงกั้นคนดู แล้วเข้าไปหาโคลที่อยู่ใน โคล ไมเนอร์ ลอว์เลอร์เข้าไปไม่ได้เลยเอาเก้าอี้ โยนเข้าไปในนั้น แล้วดึง เน็กไท ของโคลมากระแทกกับ โคล ไมเนอร์ จนกรรมการมาห้าม และสแวกเกอร์บอกว่า "นายแตะต้องตัว ไมเคิลโคล นายถูกไล่ออก" ลอว์เลอร์โต้กลับไปว่า "ฉันไม่ได้แตะตัว โคลซักหน่อย .. แต่ฉันเพียงแค่จับเน็กไท เท่านั้นเอง" สแวกเกอร์เลยตอบรับแทน ไมเคิล โคล ว่าขอรับคำท้า ในสัปดาห์ถัดไปได้มีการเซ็นสัญญา เพื่อแมทซ์การปล้ำในศึกใหญ่นั้น โคลนั้นเปิดภาพ ที่ลอว์เลอร์เคยจูบเท้าของ เบรท ฮาร์ท ลอว์เลอร์ก็เลยเล่นงานโดยดึง เน็คไทของ ไมเคิล โคล เล่นงานอีก แถมแมทซ์นั้นเป็นแมทซ์ "Kiss My Foot" อีกด้วย[9][10]
ในสแมคดาวน์ตอน 6 พฤษภาคม อีซีคีล แจ็กสัน เจอกับ บิ๊กโชว์ ซึ่งระหว่างแมทซ์ เดอะคอร์ ก็เข้ามาป่วนแมทซ์จนทำให้ อีเซเคียล ชนะไป แต่อีซีคีลนั้นมีปัญหากับกลุ่มมานานแล้ว ซึ่งหลังจากปล้ำเสร็จเดอะคอร์ก็รุมเล่นงานอีซีคีลจนเละ ซึ่งก็ทำให้รู้ว่าอีซีคีลได้กลายเป็นอดีตสมาชิกของเดอะคอร์ไปแล้ว ในสัปดาห์ต่อมาเป็นอีซีคีลที่ออกมาช่วยเคนในวันนั้น แต่ก็โดนเดอะคอร์เล่นงานคืนกลับไปได้ อีกสัปดาห์ถัดมา อีซีคีลออกมาได้เพียงสักพัก เดอะคอร์ก็ออกมารบกวนแต่ยังไม่ทันพูดอะไร GM ของ สแมคดาวน์ก็ให้เป็นแมทซ์แท็กทีม 6 คน โดยคู่ของอีซีคีลคือบิ๊กโชว์และเคน ซึ่งเคยเป็นศัตรูเก่าในตอนที่อยู่กลุ่มเดอะคอร์ แต่ไม่ได้มีอะไรขัดแย้ง และทีมฝั่งอีซีคีลก็ได้เป็นฝ่ายชนะ[11]
เหตุการณนี้เกิดขึ้นไม่นาน ในรอว์ โดย บิ๊กโชว์ และ เคน จะเจอกัน พวกของ เดอะนิวเน็กซัส ซึ่งผลก็คือ เน็กซัส เป็นฝ่ายชนะ จากการช่วยเหลือของ ซีเอ็ม พังก์
หลังจากอาร์-ทรูธพลิกบทเป็นฝ่ายอธรรม ในรอว์สัปดาห์หนึ่ง ทรูธเรียกร้องสิทธิ์ที่จะได้ชิงแชมป์ WWE Championship ในโอเวอร์ เดอะ ลิมิต แต่ผู้จัดการทั่วไปของรอว์ได้จัดการปล้ำสามเส้าหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 โดยมี เดล รีโอ, เดอะมิซ จากนั้นผู้จัดการก็ได้ส่งอีเมลมาอีกครั้งหนึ่งแล้วบอกว่า เรย์ มิสเตริโอจะได้ร่วมปล้ำด้วย ก็ทำให้ทรูธไม่พอใจ หลังจบแมทซ์วันนั้น ทรูธก็เข้ามาเล่นเรย์ด้านหลังทันที[8] ในรอว์ 16 พฤษภาคม ได้มีการประกาศให้ทรูธเจอกับเรย์ในโอเวอร์ เดอะ ลิมิต[9]
หลังจาก บรี เบลลา ได้เอาชนะ อีฟ ทอร์เรส และสามารถคว้าแชมป์ WWE Divas Championship มาครองได้สำเร็จเป็นสมัยแรก จากการช่วยเหลือของ นิกกี เบลล่า พี่สาวฝาแฝดของเธอก็ทำให้ผู้คนต่างถกเถียงกันถึงความขลังของเข็มขัด Divas Championship ว่าตอนนี้ความขลังของเข็มขัดได้ลดลงไปอย่างมากเนื่องจากเปลี่ยนมือกันง่ายเป็นว่าเล่นแถมฝีมือของบางคนก็ไม่เหมาะที่จะเป็นแชมป์ ทำให้ WWE ผลักดัน เคลลี เคลลี ที่เพิ่งย้ายกลับมาในรอว์ เป็นผู้ท้าชิงอันดับหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นครั้งที่3แล้วที่เธอได้มีโอกาสชิงแชมป์ Divas Championship[12][13]
อย่างที่ทราบดี ซิน คารา ได้เปิดตัวครั้งแรกใน รอว์หลังศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จบเพียงแค่วันเดียว โดยสถิติเขาคือ ชนะติดต่อ โดยยังไม่เคยแพ้ใคร 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ชาโว เกอร์เรโร ก็ออกมาบรรยาย ตอนที่ซิน คารา ปล้ำ ซึ่งก็มีปากเสียงกันเล็กน้อย ต่อมา ซิน คารา จะต้องเจอกับ แดเนียล ไบรอัน ไบรอันกำลังจะปีนขึ้นจากข้างบน แต่ ชาโว ที่มานั่งดูข้างล่างด้วย ก็ช่วย โดยการดึงขา ไบรอัน และทำให้ ซิน คารา ชนะ แต่พอไม่นานซักพักหลัง ซิน คารา ดูภาพ รีเพลย์จาก มอนิเตอร์ ก็เห็นว่า ชาโว เป็นคนมาก่อกวนในแมทซ์ และไม่พอใจเลย ชาโว ออกไป และถัดมาอีกเช่นเคย ชาโวออกมา เจอกับ ไบรอัน โดยบอกว่า เขาจะชนะ ภายใน 5 นาที แต่ทำไม่ได้ ซิน คารา จึงออกมาเล่นชาโว เป็นไปได้ว่าทั้งคู่จะต้องเจอกันใน โอเวอร์ เดอะ ลิมิต ปีนี้
ลำดับ | [14] | กำหนด | เวลา[14] |
---|---|---|---|
1D | Daniel Bryan ชนะ Drew McIntyre ซับมิสชั่น[15] | ปล้ำเดี่ยว | Unknown |
2 | R-Truth ชนะ Rey Mysterio[16] | ปล้ำเดี่ยว | 08:12 |
3 | Ezekiel Jackson ชนะ Wade Barrett (c) โดยการฟาล์ว[17] | ชิง WWE Intercontinental Championship | 07:27 |
4 | Sin Cara ชนะ Chavo Guerrero[18] | ปล้ำเดี่ยว | 07:23 |
5 | Big Show and Kane (c) ชนะ The New Nexus (CM Punk and Mason Ryan)[19] | ชิง WWE Tag Team Championship | 09:06 |
6 | Brie Bella (c) (with Nikki Bella) ชนะ Kelly Kelly[20] | ชิง WWE Divas Championship | 04:03 |
7 | Randy Orton (c) ชนะ Christian[21] | ชิง World Heavyweight Championship | 16:52 |
8 | Jerry Lawler ชนะ Michael Cole[22] | แมตช์จูบเท้า หาก Cole ชนะ, Lawler ต้องมอบแหวน WWE Hall of Fame ให้เขา และเป็นคนอัญเชิญเขาเข้าสู่ WWE Hall of Fame |
03:01 |
9 | John Cena (c) ชนะ The Miz (with Alex Riley)[23] | "I Quit" match ชิง WWE Championship | 24:56 |
|