ไตรรงค์ สุวรรณคีรี | |
---|---|
ไตรรงค์ ใน พ.ศ. 2553 | |
รองนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 15 มกราคม พ.ศ. 2553 – 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554 (1 ปี 206 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ |
ดำรงตำแหน่ง 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 – 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม | |
ดำรงตำแหน่ง 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 – 4 ตุลาคม พ.ศ. 2541 (0 ปี 324 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ก่อนหน้า | ตรี ด่านไพบูลย์ |
ถัดไป | สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม | |
ดำรงตำแหน่ง 17 ธันวาคม พ.ศ. 2537 – 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 (0 ปี 208 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ก่อนหน้า | สนั่น ขจรประศาสน์ |
ถัดไป | ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 24 มิถุนายน พ.ศ. 2487 อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ประชาธิปัตย์ (2527–2565) รวมไทยสร้างชาติ (2565–ปัจจุบัน) |
คู่สมรส | นุช สุวรรณคีรี |
บุตร | รัดเกล้า สุวรรณคีรี |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี (เกิด 24 มิถุนายน พ.ศ. 2487) ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ[1] อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์[2] อดีตกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์[3] อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ [4] อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส. หลายสมัย
เกิดวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2487 ที่ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองนายกรัฐมนตรี เป็นบิดาของ นาง รัดเกล้า สุวรรณคีรีรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นาย เศรษฐา ทวีสิน
จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2510 และระดับปริญญาโท จาก มหาวิทยาลัยฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2515 และสำเร็จปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2518
ไตรรงค์ หรือที่มักเรียกกันว่า ดร.ไตรรงค์ เป็นเลขานุการส่วนตัวของ ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ เมื่อครั้ง ศ.ดร.ป๋วย ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอยู่ในมหาวิทยาลัยในเช้าวันเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาด้วย และเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวหาจากฝ่ายอนุรักษนิยมพร้อมกับ ศ.ดร.ป๋วย จนต้องลี้ภัยไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะกลับมาสอนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเวลาต่อมา
ไตรรงค์ เข้าสู่งานการเมืองด้วยการได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาเมื่อ พ.ศ. 2524 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2529 ในจังหวัดสงขลา สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นโฆษกรัฐบาลยุค พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี บทบาทของ ดร.ไตรรงค์ โดดเด่นมาก จนได้รับฉายาว่า "โฆษกสามสี " (มาจากชื่อของเจ้าตัว ที่แปลว่า สามสี)
จากนั้น ไตรรงค์ ได้รับเลือกตั้งมาโดยตลอด บทบาทในรัฐสภาของ ดร.ไตรรงค์ นับว่าโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นนักอภิปรายที่เมื่ออภิปรายครั้งใดแล้ว สื่อมวลชนและผู้ที่ติดตามการเมืองจะให้ความสนใจ เพราะเป็นผู้ที่อภิปรายเก่ง น่าติดตาม และมีมุขตลกซึ่งสามารถเรียกเสียงหัวเราะเป็นสีสันได้อีกมาก เช่น เมื่อในสมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ดร.ไตรรงค์ได้อภิปราย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น โดยบอกว่า "ผู้ที่จะทำงานหน้าที่นี้ต้องมีวิสัยทัศน์สูง ต้องมองลงมาจากที่สูง ฉะนั้น คืนนี้กลับไปบินซะ"
ไตรรงค์ เคยมีนายทหารติดตาม และทำหน้าที่ช่วยงานประจำคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงคือ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล
จากความที่เป็นนักพูดที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้นี้ ทำให้น้ำเสียงที่ติดสำเนียงใต้และลีลาการพูดจาในแบบฉบับของ ดร.ไตรรงค์ ถูกเลียนแบบตามในสื่อมวลชนโดยเฉพาะในสายบันเทิง หรือในรายการล้อการเมืองเสมอ ๆ โดยผู้ที่เลียนเสียงของ ดร.ไตรรงค์ ที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นต้น [5]
ในปี พ.ศ. 2548 เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ปรับโครงสร้างของผู้บริหารพรรค ดร.ไตรรงค์ ได้รับเลือกให้เป็นรองหัวหน้าพรรค
ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ชื่อของ ดร.ไตรรงค์ ในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ถูกอ้างอิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีมีสมาชิก ของพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันขัดขวางการสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรับสมัคร จ.สงขลา ซึ่งเป็นมูลเหตุอ้างอิงที่จะให้มีคำสั่งยุบพรรค แต่ในที่สุดมีคำวินิจฉัยคือ กรณีดังกล่าวไม่สามารถรับฟังได้ว่า ดร.ไตรรงค์ มีส่วนร่วมในกรณีดังกล่าว
ไตรรงค์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ต่อมาในปีเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมกับนายชุมพล กาญจนะ และนายชัชวาลล์ คงอุดม เมื่อวันอังคารที่ 27 ธันวาคม[6]
ภายหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และมีการจัดตั้งรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวได้ประกาศจัดตั้ง รัฐบาลเงา หรือ ครม.เงา ขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรค ให้ทำหน้าที่ รัฐมนตรีเงาว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์[7]
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ได้รับพระราชทานยศนายกองเอกแห่งกองอาสารักษาดินแดน เมื่อ พ.ศ. 2532 เป็น นายกองเอก ไตรรงค์ สุวรรณคีรี[10]
ก่อนหน้า | ไตรรงค์ สุวรรณคีรี | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สนั่น ขจรประศาสน์ | รองนายกรัฐมนตรี (ครม. 53) (9 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 - 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543) |
บัญญัติ บรรทัดฐาน | ||
กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ | รองนายกรัฐมนตรี (ครม. 59) (15 มกราคม พ.ศ. 2553 - 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554) |
กิตติรัตน์ ณ ระนอง | ||
สนั่น ขจรประศาสน์ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (ครม. 50) (17 ธันวาคม พ.ศ. 2537 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538) |
ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ | ||
ตรี ด่านไพบูลย์ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม (ครม. 53) (14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 - 4 ตุลาคม พ.ศ. 2541) |
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ | ||
สมศักดิ์ ชูโต | โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ครม. 43) (30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529) |
มีชัย วีระไวทยะ | ||
ชวลิต โอสถานุเคราะห์ | รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ครม. 50) (29 กันยายน พ.ศ. 2535 - 11 ธันวาคม พ.ศ. 2537) |
บุญชู ตรีทอง |