ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก | ||
วันเกิด | 18 มีนาคม พ.ศ. 2510 | ||
สถานที่เกิด | ประเทศไทย | ||
ตำแหน่ง | กองกลาง[1] | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
โอสถสภา | |||
จัดการทีม | |||
2551–2552 | โอสถสภา (ผู้ช่วย) | ||
2553–2556 | โอสถสภา | ||
2556 | ทีมชาติไทย (ผู้ช่วย) | ||
2557 | บางกอก | ||
2558 | สระบุรี | ||
2559 | ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ | ||
2560 | บีบีซียู | ||
2560–2561 | สุโขทัย | ||
2561 | สุพรรณบุรี | ||
2562 | เมืองทอง ยูไนเต็ด | ||
2562 | สุโขทัย | ||
2564–2565 | เชียงใหม่ | ||
2565 | ขอนแก่น ยูไนเต็ด | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก (ชื่อเล่น: เบ๊) เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2510 เป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอลชาวไทย
ไพโรจน์เป็นที่รู้จักในด้านการคุมทีมเพื่อหนีตกชั้นในไทยลีก โดยเขาเคยคุมให้กับ 4 สโมสรสามารถรอดพ้นจากการตกชั้นได้ถึง 5 ฤดูกาลติดต่อกัน ได้แก่ สระบุรี (ฤดูกาล 2558)[2], ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ (ฤดูกาล 2559)[3], สุโขทัย 2 ฤดูกาล (ฤดูกาล 2560[4] และ ฤดูกาล 2562)[5] และ สุพรรณบุรี (ฤดูกาล 2561)[6]
โอสถสภาเป็นเพียงสโมสรเดียวตลอดอาชีพนักฟุตบอลของไพโรจน์[1]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
หลังจากที่เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว ไพโรจน์ได้ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของโอสถสภาตามคำชักชวนของชัชชัย พหลแพทย์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรในขณะนั้น ต่อมาหลังจากที่ชัชชัยยุติบทบาทการคุมทีม ไพโรจน์จึงได้เลื่อนมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนแทน[1]
ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ไพโรจน์ได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสระบุรีที่กำลังหนีตกชั้น แทนที่ของมิกา ลอนน์สตรอม ผู้ฝึกสอนชาวฟินแลนด์ที่เพิ่งลาออกไป[7] ต่อมาในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ไทยพรีเมียร์ลีกนัดปิดฤดูกาล ไพโรจน์คุมทีมสระบุรีบุกไปชนะชลบุรีถึงถิ่น 3–0 ทำให้สระบุรียังคงอยู่รอดในลีกสูงสุด[2]
ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2559 ไพโรจน์ได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ (โอสถสภาในอดีต) แทนที่ของสมชาย ทรัพย์เพิ่ม ที่เพิ่งลาออกไป[8]
ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยุติการแข่งขันไทยลีก หลังจากมีการแข่งขันไปแล้ว 31 เกม เพื่อถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช[9] เมื่อการแข่งขันถูกยุติลง จึงส่งผลให้ชัยนาท ฮอร์นบิล และอาร์มี่ ยูไนเต็ด ตกชั้นตามมติที่ประชุมให้ยึดตารางคะแนนในเกมการแข่งขันนัดที่ 31 และซุปเปอร์พาวเวอร์ยังคงอยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไป
ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560 ไพโรจน์ได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของบีบีซียูที่เพิ่งตกชั้นสู่ไทยลีก 2[10] อย่างไรก็ตาม สโมสรทำผลงานได้ไม่ค่อยดี ชนะเพียง 1 นัดจาก 5 นัดแรกในลีก ทำให้ในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2560 ไพโรจน์จึงถูกแยกทางกับสโมสรในที่สุด[11]
ในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560 ไพโรจน์ได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสุโขทัยที่อยู่ในโซนท้ายตาราง ต่อมาในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 ไพโรจน์ประเดิมคุมทีมนัดแรกในเกมไทยลีกนัดที่สุโขทัยบุกไปแพ้แบงค็อก ยูไนเต็ด 4–2[12] และในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2560 ไพโรจน์คุมทีมชนะนัดแรกในลีกในนัดที่สุโขทัยบุกไปชนะไทยฮอนด้า 1–0[13]
ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ไพโรจน์คุมทีมสุโขทัยเปิดบ้านเอาชนะชลบุรีไปได้ 3–1 ทำให้สุโขทัยอยู่รอดในลีกสูงสุด[4]
ในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ไพโรจน์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสุโขทัย หลังจากที่คุมทีมบุกไปแพ้เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 4–3[14]
ในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ไพโรจน์ได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสุพรรณบุรี[15] แทนที่ของอเดบาโย กาเดโบ ผู้ฝึกสอนชาวไนจีเรียที่เพิ่งลาออกไป ต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ไพโรจน์ประเดิมคุมทีมนัดแรกในเกมไทยลีกนัดที่สุพรรณบุรีเปิดบ้านเอาชนะราชนาวีไปได้ 3–1[16]
ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ไพโรจน์คุมทีมสุพรรณบุรีบุกไปชนะพีที ประจวบ ถึงถิ่น 1–0 ทำให้สุพรรณบุรีอยู่รอดบนลีกสูงสุด[6]
ในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ไพโรจน์ได้แยกทางกับสุพรรณบุรี หลังจากถูกแทรกแซงในการทำทีม
ก่อนเปิดฤดูกาล 2562 ไพโรจน์ได้ย้ายมาคุมทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งนับเป็นการคุมทีมลุ้นแชมป์ครั้งแรกของเขา[17] อย่างไรก็ตาม หลังจบเกมไทยลีกนัดที่ 5 นัดที่เมืองทองบุกไปแพ้ราชบุรีที่มิตรผลสเตเดียม 2–0 ไพโรจน์ได้ประกาศลาออกจากสโมสร โดยเขาคุมทีมทั้งหมด 5 นัด แพ้ 3 นัด และชนะ 2
ในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ไพโรจน์ได้กลับมาคุมทีมสุโขทัยเป็นหนที่สอง[18] แทนที่ลูโบเมียร์ ริสตอฟสกี ที่เพิ่งแยกทางกับสโมสร และในวันถัดมา (3 สิงหาคม) ไพโรจน์ประเดิมคุมทีมสุโขทัยหนที่สองเป็นนัดแรก ในนัดที่สโมสรของเขาบุกไปเสมอแบ่งแต้มกับชลบุรีของสะสม พบประเสริฐ 2–2[19]
ในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ไทยลีกนัดปิดฤดูกาล ไพโรจน์คุมสุโขทัยบุกไปเอาชนะนครราชสีมา 4–2 ทำให้สุโขทัยยังคงอยู่รอดในไทยลีกอีกครั้ง[5]
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
และ |date=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)