ด้ายแดงผูกรักบ้านอามากามิ | |
甘神さんちの縁結び (Amagami-san Chi no Enmusubi) | |
---|---|
แนว | สุขนาฏกรรมจินตนิยม[1] |
มังงะ | |
เขียนโดย | มาร์ซีย์ ไนโต้ |
สำนักพิมพ์ | โคดันชะ |
สำนักพิมพ์ภาคภาษาไทย | รักพิมพ์ |
ในเครือ | โชเน็นแม็กกาซีนคอมิกซ์ |
นิตยสาร | โชเน็นแม็กกาซีนรายสัปดาห์ |
กลุ่มเป้าหมาย | โชเน็ง |
วางจำหน่ายตั้งแต่ | 21 เมษายน พ.ศ. 2564 – ปัจจุบัน |
จำนวนเล่ม | ![]() ![]() |
อนิเมะโทรทัศน์ | |
กำกับโดย | ยูจิโระ อาเบะ |
อำนวยการสร้างโดย |
|
เขียนบทโดย | ยาสุโกะ อาโอกิ |
ดนตรีโดย |
|
สตูดิโอ | ไดรฟ์ |
ถือสิทธิ์โดย | พลัส มีเดีย เน็ตเวิร์ค เอเชีย |
เครือข่าย | ทีเอ็กซ์เอ็น (ทีวีโตเกียว), บีเอส เอ็นทีวี |
ฉาย | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567 – ปัจจุบัน |
ตอน | 19 |
ด้ายแดงผูกรักบ้านอามากามิ (ญี่ปุ่น: 甘神さんちの縁結び โรมาจิ: Amagami-san Chi no Enmusubi) เป็นซีรีส์มังงะญี่ปุ่นที่เขียนและวาดภาพโดยมาร์ซีร์ ไนโต้ เดิมได้รับการตีพิมพ์เป็นแบบช็อตเดียวในโชเน็นแม็กกาซีนรายสัปดาห์ ของโคดันชะในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ก่อนที่จะเริ่มตีพิมพ์เป็นอนุกรมในนิตยสารเดียวกันในเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 ซีรีส์ทีวีอนิเมะที่ดัดแปลงโดยสตูดิโอไดรฟ์ เริ่มออกอากาศในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567
ด้ายแดงผูกรักบ้านอามากามิ เขียนและวาดภาพโดยมาร์ซีย์ ไนโต้ ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ช่วยของเนกิ ฮารุบะ ผู้เขียนเจ้าสาวผมเป็นแฝดห้า[8] เดิมทีได้รับการตีพิมพ์ในรูปแบบช็อตเดียวในนิตยสารมังงะโชเน็งโชเน็นแม็กกาซีนรายสัปดาห์ของโคดันชะ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกับอีก 3 ช็อตเดียวที่ผู้อ่านสามารถโหวตได้ว่าอันไหนจะต่อเนื่องกัน[1][8] เมื่อได้รับการโหวตมากที่สุดในหมู่ผู้อ่าน ได้เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสารฉบับเดียวกันเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2564[9] เพื่อโปรโมตมังงะนี้ วิดีโอการ์ตูนที่พากย์เสียงได้เผยแพร่ในช่องยูทูบอย่างเป็นทางการของโชเน็นแม็กกาซีนรายสัปดาห์เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564[2] โคดันชะได้รวบรวมตอนต่างๆ ตีพิมพ์เป็นเล่ม(ทังโกบง) โดยเล่มแรกวางจำหน่ายวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564[10] โดยมีโฆษณาที่มีอาอิ คายาโนะ, โซระ อามามิยะและอายาเนะ ซากูระ ได้รับการเผยแพร่เพื่อรำลึกถึงการเปิดตัวเล่มแรก[4] ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568 มีการตีพิมพ์ไปแล้วทั้งหมด 18 เล่ม[11] สำนักพิมพ์รักพิมพ์ได้ประกาศเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ในการแปลและตีพิมพ์เรื่องนี้เป็นภาษาไทย[12]
# | วันที่ออกจำหน่ายต้นฉบับ | ISBN ต้นฉบับ | วันที่ออกจำหน่ายภาษาไทย | ISBN ภาษาไทย |
---|---|---|---|---|
1 | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564[10] | 978-4-06-524041-0 | — | 978-616-574-507-9 |
2 | 17 กันยายน พ.ศ. 2564[13] | 978-4-06-524831-7 | — | 978-616-574-514-7 |
3 | 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564[14] | 978-4-06-525934-4 | — | 978-616-574-552-9 |
4 | 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565[15] | 978-4-06-526899-5 | 22 มีนาคม พ.ศ. 2567[16] | 978-616-574-959-6 |
5 | 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565[17] | 978-4-06-527924-3 | 10 เมษายน พ.ศ. 2567[18] | 978-616-574-960-2 |
6 | 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2565[19] | 978-4-06-528496-4 | 19 มิถุนายน พ.ศ. 2567[20] | 978-616-614-048-4 |
7 | 16 กันยายน พ.ศ. 2565[21] | 978-4-06-529127-6 | 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567[22] | 978-616-614-113-9 |
8 | 16 ธันวาคม พ.ศ. 2565[23] | 978-4-06-529935-7 | 18 กันยายน พ.ศ. 2567[24] | 978-616-614-170-2 |
9 | 16 มีนาคม พ.ศ. 2566[25] | 978-4-06-530972-8 | — | — |
10 | 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566[26] | 978-4-06-531607-8 | — | — |
11 | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2566[27] | 978-4-06-532190-4 | — | — |
12 | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566[28] | 978-4-06-532894-1 | — | — |
13 | 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566[29] | 978-4-06-533897-1 | — | — |
14 | 15 มีนาคม พ.ศ. 2567[30] | 978-4-06-534878-9 | — | — |
15 | 17 มิถุนายน พ.ศ. 2567[31] | 978-4-06-535785-9 | — | — |
16 | 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567[32] | 978-4-06-536522-9 | — | — |
17 | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2567[33] | 978-4-06-537132-9 | — | — |
18 | 17 มกราคม พ.ศ. 2568[11] | 978-4-06-538067-3 | — | — |
ได้รับการประกาศซีรีส์ดัดแปลงเป็นอนิเมะซีรีส์ทางโทรทัศน์ในระหว่างการสตรีมสดเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่สองของมังงะและวันเกิดของไนโต้ ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566[34][35] ผลิตโดยสตูดิโอไดรฟ์ และกำกับโดยยูจิโระ อาเบะ โดยมีฮิโรชิ วาตานาเบะรับหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับ ยาสุโกะ อาโอกิเป็นผู้เขียนบท ฮารุโกะ อิซึกะเป็นผู้ออกแบบตัวละคร และ เรียว คาวาซากิและโทโมยูกิ โคโนะเป็นผู้แต่งเพลง[36] ซีรีส์นี้ออกอากาศในวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2567 บนช่องทีวีโตเกียวและมีกำหนดออกอากาศ 24 ตอน[6] เพลงเปิดเรื่องคือ "Yawaku Koishite ~Zutto Bokura de Iraremasu yō ni~" (やわく恋して ~ずっと僕らでいられますように~) ดำเนินการโดยโมโมอิโระโคลเวอร์แซด[37] ขณะที่เพลงปิดเรื่องคือ "Kimi ni Koi wo Musunde" (君に恋を結んで) ร้องโดยซูมิเระ อูเอซากะ, คาเอเดะ ฮนโดะและชิอง วากายามะที่รับบทเป็นพี่น้องทั้งสามคนของบ้านอามากามิ[7] สำหรับช่วงที่ 2 เพลงเปิดของเรื่องคือ "Pray Pray Pray" ขับร้องโดย ร้องโดยอูเอซากะ, ฮนโดะและวากายามะที่รับบทเป็นพี่น้องทั้งสามคนของบ้านอามากามิ[38] ในขณะที่เพลงปิดของเรื่องคือ Kami-sama no Iu Tōri! (神様の言うとーり!) ร้องโดย ≠Me[39] พลัสมีเดียเน็ตเวิร์คเอเชียได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ซีรีส์นี้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจะออกอากาศทางช่อง Aniplus Asia[40]
ตอน | ชื่อ [41] | กำกับโดย [a] | สตอรี่บอร์ดโดย [a] | วันที่ฉายครั้งแรก [42] | |
---|---|---|---|---|---|
1 | "จุดเริ่มต้นของปาฏิหาริย์" Transliteration: "Kiseki no Hajimari" (ญี่ปุ่น: 奇跡のはじまり) | โอริ ยาซุคาวะ | ยูจิโระ อาเบะ | 1 ตุลาคม 2567 | |
"คามิฮาเตะ อุริว" เด็ก ม.ปลายผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า อุริวไม่มีญาติพี่น้องและเติบโตขึ้นในสถานสงเคราะห์ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับผู้อุปถัมภ์ แม้อุริวที่ตั้งเป้าหมายเป็นคณะแพทย์มหาวิทยาลัยเกียวโต จะรู้สึกดีใจที่เขาจะสามารถตั้งใจอ่านหนังสืออย่างสงบได้สักที แต่สถานที่ที่รับเลี้ยงเขากลับเป็นศาลเจ้าซะอย่างงั้น และที่นั่นยังมี "อามากามิ ยาเอะ" "อามากามิ ยูนะ" "อามากามิ อาซาฮิ" ที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกับเขา แม้แต่ละคนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่มิโกะสามพี่น้องผู้แสนน่ารักเองก็อาศัยอยู่กับเขาด้วยเช่นกัน และแล้วการใช้ชีวิตกับมิโกะสามพี่น้องก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างกะทันหัน[43] | |||||
2 | "เที่ยงวันกับนกกระเรียน" Transliteration: "Hakuchū to Tsuru" (ญี่ปุ่น: 白昼と鶴) | จิกะ มังกังจิ | ฮิโรชิ วาตานาเบะ | 9 ตุลาคม 2567 | |
อุริวและสามพี่น้องอามากามิเหมือนจะเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ทว่า จิโดริ เจ้าอาวาสแห่งศาลเจ้าอามากามิได้กล่าวว่า "จะให้มาเป็นเขยแล้วแต่งงานกับใครสักคนในสามพี่น้อง เพื่อสืบทอดศาลเจ้าต่อไป" ทำให้สถานการณ์ดังกล่าวได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่เพียงแค่อุริวที่มีความฝันที่จะเป็นหมอในอนาคต แต่รวมถึงสามพี่น้องที่รู้จักตกใจและทำตัวไม่ถูกกับเรื่องการแต่งงานที่แสนกะทันหันนี้ สามพี่น้องนำโดยยูนะจึงได้ดำเนิน "ปฏิบัติการขับไล่ทางอ้อม" เพื่อขับไล่อุริวอย่างสันติวิธี แต่ทว่า...[44] | |||||
3 | "ท่านเทพกับการแอบพบ" Transliteration: "Kamisama to no О̄se" (ญี่ปุ่น: 神様との逢瀬) | มาซาฮิโระ วาตานาเบะ | ฮิโรชิ วาตานาเบะ | 16 ตุลาคม 2567 | |
ถึงแม้เรื่องราวจะมีขึ้น ๆ ลง ๆ แต่แล้วอุริวกับสามพี่น้องอามากามิก็ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตภายใต้ชายคาเดียวกันในฐานะ "ครอบครัว" หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกจิโดริสั่งให้ "ดูตัวกันเพื่อกระชับมิตรของทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นมากขึ้น" อุริวที่ไม่มีความตั้งใจที่จะสืบทอดศาลเจ้าต่อในอนาคตก็ไม่ได้มีใจอยากจะดูตัวสักเท่าไหร่ และเขาเองก็คิดว่าสามพี่น้องเองก็คงไม่ได้มีกะจิตกะใจเหมือนกับตัวเอง แต่อาซาฮิลูกคนสุดท้องที่มาเเป็นคู่ดูตัวเป็นคนแรกสุดดันกระตือรือร้นกับการดูตัวผิดคาด และเธอก็เหมือนจะเข้าใกล้อุริวขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว...[45] | |||||
4 | "งานเทศกาลศาลเจ้าอามากามิ ~ผูกสัมพันธ์~" Transliteration: "Amagami Jinja Reitaisai ~Tsunagari~" (ญี่ปุ่น: 甘神神社例大祭 ~繋~) | ยูกิ วาตานาเบะ | ยูกิ วาตานาเบะ | 23 ตุลาคม 2567 | |
ในวันหนึ่งบุคคลที่ชื่อว่า "คิตะชิราคาวะ มิเอมอน" ได้มาเยี่ยมเยียนศาลเจ้าอามากามิ คิตะชิราคาวะเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนศาลเจ้า และเนื่องจากการลดลงของผลกำไรและผู้มาสักการะในช่วงปีที่ผ่านมานี้ เขาจึงได้เรียกร้องให้ปล่อยขายศาลเจ้าไป ไม่ว่ายังไงสามพี่น้องก็อยากจะปกป้องศาลเจ้าเอาไว้ จนทำให้อุริวที่รู้สึกได้ถึงความปรารถนาของพวกเธอเสนอไปว่า "หากรวบรวมผู้มาสักการะ 5,000 คนในงานเทศกาลประจำปีได้ ขอให้ล้มเลิกการเทขายศาลเจ้าไป" ด้วยเหตุนี้อุริวและสามพี่น้องเพื่อที่จะได้ปกป้องศาลเจ้าเอาไว้ พวกเขาจึงต้องคิดแผนการรวบรวบผู้มาสักการะให้ได้ 5,000 คนอย่างเอาเป็นเอาตาย...[46] | |||||
5 | "งานเทศกาลศาลเจ้าอามากามิ ~ผลิบาน~" Transliteration: "Amagami Jinja Reitaisai ~Saku~" (ญี่ปุ่น: 甘神神社例大祭 ~咲~) | มาซาฮิโกะ วาตานาเบะ | เท็ตสึโตะ ไซโต | 30 ตุลาคม 2567 | |
เทศกาลประจำปีวันจริงอยู่ในสภาพพร้อมจัดงานเพราะความช่วยเหลือจากบรรดาผู้คนในย่านการค้าและความสำเร็จของกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ด้วย SNS อุริวและสามพี่น้องต่างก็มีไฟฮึดในการปกป้องศาลเจ้าเอาไว้ แต่ว่าจำนวนผู้มาสักการะกลับไม่มีเพิ่มมากขึ้นสวนทางกับความปรารถนานั้นของพวกเขา จนทำให้อุริวคิดว่า "มันแปลกจริง ๆ" และในตอนนั้นเองอาซาฮิก็มาบอกว่ามีบัญชีแอบอ้างเป็นศาลเจ้าอามากามิกำลังกระจายข่าวลือว่าเทศกาลประจำปียกเลิกกลางคันส่วนบัญชีศาลเจ้าของจริงดันได้รับแจ้งว่าถูกระงับบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว...[47] | |||||
6 | "รุ่งอรุณขับไล่ราตรี" Transliteration: "Asa kara Yorunikate" (ญี่ปุ่น: 朝から夜にかけて) | นาโอกิ ฮิชิกาวะ | ฮิโรชิ วาตานาเบะ | 5 พฤศจิกายน 2567 | |
พวกอุริวประสบความสำเร็จในการจัดเทศกาลประจำปีและปกป้องศาลเจ้าเอาไว้ได้ อุริวที่คิดว่าตัวเองจะสามารถจดจ่อกับการอ่านหนังสือโดยไม่มีอะไรมากวนใจได้แล้ว ดันไม่สามารถลืมเรื่องที่เขาถูกยาเอะจุ๊บในช่วงท้ายของงานเทศกาลไปได้ จนทำให้เขาไม่สามารถตั้งสมาธิได้เลย จากนั้นอาซาฮิก็มาปรากฏตัวต่อหน้าอุริวที่กำลังคิดไม่ตกอยู่ตัวคนเดียวว่า "ทำไมยาเอะถึงจะได้มาจุ๊บตัวเองกันนะ?" และอาซาฮิก็ได้บอกอุริวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า "ไว้ใจได้เลย ตัวเธอจะเปิดโปงความรู้สึกของยาเอะเอง" ถึงกระนั้น...[48] | |||||
7 | "ความฝันกับจันทราและความฝัน ~บทนำ~" Transliteration: "Yume to Tsuki to Yume ~Sakugetsu~" (ญี่ปุ่น: 夢と月と夢 ~朔~) | โยชิฮิซะ มัตสึโมโตะ, ฮิเดฮิโกะ คาโดตะ | โยชิฮิซะ มัตสึโมโตะ | 12 พฤศจิกายน 2567 | |
คืนหนึ่งอุริวได้ฝันว่าเขาได้ใช้เวลากับสามพี่น้องที่อาราชิยามะและอยู่ในบรรยากาศที่สนิทสนมกันมากขึ้น อุริวที่ตื่นขึ้นมาก็ได้คิดทบทวนกับเกี่ยวกับความฝันนั้น เขาที่ได้เห็นฝันบอกเหตุมาจนถึงตอนนี้ก็ได้ตัดสินใจที่จะขัดขวางเนื้อหาในความฝันเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้การอ่านหนังสือของเขาถูกรบกวนไปมากกว่านี้ ในขณะเดียวกันสามพี่น้องก็ได้มุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าสึกิกามิที่ที่อาจารย์ของเหล่ามิโกะอยู่เพื่อไปปรึกษาว่าต้องทำยังไงถึงจะรับมือกับผู้มาสักการะที่เพิ่มมากขึ้นจากงานเทศกาลประจำปีให้ดีที่สุด[49] | |||||
8 | "ความฝันกับจันทราและความฝัน ~บทต่อ~" Transliteration: "Yume to Tsuki to Yume ~Gengetsu~" (ญี่ปุ่น: 夢と月と夢 ~弦~) | มากิ คามิยะ | ฮิเดโทชิ โยชิดะ | 19 พฤศจิกายน 2567 | |
สามพี่น้องถูก "สึกิกามิ โยมิโกะ" อาจารย์ของเหล่ามิโกะตั้งคำถามถึงความพร้อมในการสืบทอดศาลเจ้าอย่างจริงจัง อีกทั้งยังอยากให้พวกเธอเผชิญหน้ากับอนาคตของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง อุริวที่ได้ให้กำลังใจยูนะที่ถูกคำพูดของโยมิโกะทิ่มแทงจิตใจสำเร็จ ก็รู้ตัวว่าถ้าอยู่ที่อาราชิยามะต่อไปอนาคตจะต้องเป็นไปตามฝันบอกเหตุเป็นแน่ เขาก็เลยตัดสินใจกลับบ้านทั้งแบบนั้นแต่ทว่าเขาก็อดรู้สึกเป็นห่วงยาเอะที่ตอนนี้หายตัวไปที่ไหนไม่รู้ไม่ได้...[50] | |||||
9 | "ความฝันกับจันทราและความฝัน ~บทปลาย~" Transliteration: "Yume to Tsuki to Yume ~Mochizuki~" (ญี่ปุ่น: 夢と月と夢 ~望~) | มังกังจิ เซ็นกะ | เท็ตซึฮิโตะ ซาโต | 26 พฤศจิกายน 2567 | |
ในยามเช้าของวันที่สามพี่น้องกับโยมิโกะได้มาเจอกันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าอุริวจะฝันเห็นอนาคตที่จะได้แต่งงานกับพี่น้องทั้งสามคน ในขณะเดียวกันโยมิโกะก็ได้ไปพบกับมาฮิรุ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจึงได้มาปรึกษาเรื่องที่กลุ้มใจของตัวเอง มาฮิรุได้คาดเดาจากท่าทางของโยมิโกะว่าทำไมเธอถึงได้ลงทุนเรียกตัวเองออกมาจึงได้ถามออกไปว่า "อยากให้เล่าเรื่องในอดีตกับสามพี่น้องให้ฟัง" จากนั้นความรู้สึกจริง ๆ ของโยมิโกะและเรื่องราวการพบกันกับสามพี่น้องจึงได้ถูกเล่าออกมาจากปากของเธอ[51] | |||||
10 | "เปลี่ยนชุด เปลี่ยนใจ" Transliteration: "Koromogae/Kokoro-gae" (ญี่ปุ่น: 衣替え・心替え) | โอริ ยาสุกาวะ | บ๊อบ ชิโรฮาตะ | 3 ธันวาคม 2567 | |
อุริวสัญญาว่าจะสนับสนุนความฝันของสามพี่น้องในฐานะครอบครัวที่ศาลเจ้าสึกิกามิ และเพื่อการนั้นเองเขาก็พยายามจะเรียกชื่อจริงของพวกเธอดี ๆ แต่มันก็ไม่ราบรื่นเท่าไหร่ ในขณะเดียวกันภาคการศึกษาใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ในที่สุดอุริวก็ได้ไปโรงเรียนที่ตัวเองได้ย้ายเข้าไปและพบว่ายูนะเองก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน โรงเรียนของยูนะได้กลายเป็นสหศึกษานับตั้งแต่ปีนี้ อุริวจึงกลายเป็นนักเรียนชายเพียงคนเดียวในชั้นเรียน อุริวที่ไม่อยากทำให้เรื่องที่ตัวเองอาศัยอยู่กับยูนะแดงขึ้นมา จึงพยายามใช้ชีวิตในโรงเรียนและอยู่ให้ห่างยูนะเท่าที่จะทำได้ แต่ทว่า...[52] | |||||
11 | "สาเหตุของการนอนดึก ~บทนำ~" Transliteration: "Yofukashi no Shōtai ~Hajimari~" (ญี่ปุ่น: 夜ふかしの正体 ~序~) | ฮิเดฮิโกะ คาโดตะ, โยชิฮิซะ มัตสึโมโตะ | โยชิฮิซะ มัตสึโมโตะ | 10 ธันวาคม 2567 | |
ในคืนวันหนึ่ง อุริวได้ฝันถึงวันวานวัยเด็กที่เขาได้พบเจอกับเด็กผู้หญิงที่สวมชุดกิโมโนซึ่งเขาก็นึกไม่ออกเลยว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และในคืนอีกวัน อุริวก็ได้เดินทางไปยังงานเลี้ยงของสโมสรของมหาวิทยาลัยของยาเอะ เพราะยูนะและอาซาฮิเป็นห่วงเวลายาเอะเมาแล้วจะเต็มไปด้วยช่องโหว่จึงได้ขอร้องให้เขาไปเป็นบอดี้การ์ดด้วย ถึงแม้จะมีสถานการณ์ที่หวาดเสียวอยู่บ้างแต่อุริวก็ได้รับบทบอดี้การ์ดของยาเอะได้จากยอดเยี่ยมจากการแสร้งเป็น "แฟนจากมหาวิทยาลัยเกียวโต" ทว่าระหว่างทางกลับบ้านไม่รู้ทำไมยาเอะที่เมาอยู่ถึงได้ยิ้มด้วยความเศร้าสร้อย...[53] | |||||
12 | "ตัวตนของการนอนดึก ~ชะตา~" Transliteration: "Yofukashi no Shōtai ~En~" (ญี่ปุ่น: 夜ふかしの正体 ~縁~) | มิยูกิ อิวาตะ | ฮิโรชิ มัตสึโซโนะ | 17 ธันวาคม 2567 | |
อุริวรู้สึกคาใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง "อิจิโจจิ เรโกะ" กับยาเอะอย่างเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างการออกไปข้างนอกกลางดึกเขาได้พยายามถามยาเอะตรง ๆ แต่มันก็ไม่เป็นไปด้วยดีเท่าไหร่ เพราะเขาถูกเตือนอย่างมีนัยยะจากมาโคโตะเพื่อนสมัยเด็กของเธอ ณ ศาลเจ้าอินาริที่ได้แวะเป็นที่สุดท้าย ทุกคนก็ได้คุยกันว่า "แบ่งเป็นสองกลุ่มแล้วเดินขึ้นไปถึงยอดเขากัน" ทำให้อุริวคิดว่าในที่สุดก็มีโอกาสจะได้อยู่สองต่อสองกับยาเอะสักที แต่ไม่รู้ทำไมยูนะกับอาซาฮิก็เริ่มบอกว่าอยากจะจับคู่กับอุริวซะอย่างงั้น...?[54] | |||||
13 | "ตัวตนของการนอนดึก ~รัก~" Transliteration: "Yofukashi no Shōtai ~Koi~" (ญี่ปุ่น: 夜ふかしの正体 ~恋~) | มาซาฮิโกะ วาตานาเบะ | บ๊อบ ชิโรฮาตะ | 24 ธันวาคม 2567 | |
อุริวได้ถูกย้อนอดีตในตอนที่ตามหายาเอะที่พลัดตกภูเขาบนศาลเจ้าอินาริ อุริวที่ได้ย้อนกลับไปยังสมัยเด็กของเขาได้สูญเสียความทรงจำในวัย 17 ปีของตัวเองไปชั่วคราว จนกระทั่งภาพทับซ้อนของยาเอะที่มาจาก "อิจิโจจิ เรโกะ" หญิงสาวในชุดกิโมโนที่ได้เจอในอดีตทำให้เขาได้รับความทรงจำกลับคืนมา อุริวที่รู้ว่ายาเอะในสมัยเด็กคืออิจิโจจิ เรโกะ และได้รู้อีกว่าเธอกำลังอมทุกข์จากความสัมพันธ์ในครอบครัวที่แสนซับซ้อนจึงทำให้เขาช่วยเธอออกมาจากเหล่าชายชุดดำที่มารับเธอกลับบ้าน อุริวและเรโกะที่หนีจากชายชุดดำก็ได้มุ่งหน้าไปยัง "สถานที่พิเศษ" ของอุริว แต่ทว่า...[55] | |||||
14 | "ตาชั่งแบกคำอธิษฐาน ~หมุนวน~" Transliteration: "Negai o Noseta Tenbin ~Mawaru~" (ญี่ปุ่น: 願いをのせた天秤~廻~) | เค็น ซานูมะ | เค็น ซานูมะ | 14 มกราคม 2568 | |
เทศกาลทานาบาตะได้ถูกจัดขึ้นในวันที่ 7 กรกฏาคมที่ศาลเจ้าอามากามิ ในโรงเรียนมัธยมต้นที่อาซาฮิเข้าเรียนได้ขอให้บรรดานักเรียนเขียนคำอธิษฐานกระดาษขอพร อาซาฮิและคู่แข่งในชมรมของเธออย่าง "มัตสึกาซากิ คาเรน" ได้เขียนคำอธิษฐานไปว่า "คว้าชัยชนะในงานแข่งมาราธอน" ซึ่งจริง ๆ แล้วมีกำหนดการจัดงานแข่งมาราธอนในวันที่ 30 มิถุนายนก่อนหน้าเทศกาลทานาบาตะ แม้อาซาฮิจะบอกว่าจะทำทั้งงานเทศกาลทานาบาตะและคว้าชัยชนะงานแข่งมาราธอนให้ได้ แต่งานแข่งก็ถูกเลื่อนออกไปเพราะฝนตกหนัก และไปชนกับวันจัดเทศกาลทานาบาตะซะอย่างงั้น...[56] | |||||
15 | "ตาชั่งแบกคำอธิษฐาน ~ย้อนกลับ~" Transliteration: "Negai o Noseta Tenbin ~Modoru~" (ญี่ปุ่น: 願いをのせた天秤~戻~) | TBD | TBA | 21 มกราคม 2568 | |
อุริวกับอาซาฮิติดอยู่กับลูปเวลาจากวันที่ 7 กรกฏาคมพวกเขาต้องกลับไปยังวันที่ 28 มิถุนายน ระหว่างชีวิตที่ถูกวนอยู่ซ้ำ ๆ อาซาฮิได้เลือกที่จะเข้าร่วมเทศกาลทานาบาตะและถอนตัวจากงานแข่งมาราธอน อาซาฮิที่มีแรงฮึดในฐานะหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้จัดอีเวนต์ที่ชื่อ "การโหวตคัดเลือกมิโกะสามพี่น้องสุดสวย" และทำให้เทศกาลทานาบาตะสำเร็จไปอย่างสวยงาม แม้อาซาฮิจะได้ใช้เวลาอย่างเต็มเปี่ยมกับบรรดาพี่ที่รักและอุริว เธอก็ได้เห็นคำอธิษฐานบนกระดาษขอพรของคาเรนที่ปรากฏตัวมาในฐานะผู้มาสักการะ จนทำให้เธอรู้สึกคลุมเครือขึ้นมา...[57] | |||||
16 | "ตาชั่งแบกคำอธิษฐาน ~ก้าวไปข้างหน้า~" Transliteration: "Negai o Noseta Tenbin ~Susumu~" (ญี่ปุ่น: 願いをのせた天秤~進~) | โอริ ยาซูกาวะ | ฮิโรชิ มัตสึโซโนะ | 28 มกราคม 2568 | |
อุริวและอาซาฮิยังไม่สามารถหลบหนีออกจากลูปเทศกาลทานาบาตะไปได้ และจากลูปที่ไม่จบไม่สิ้นนี้ เธอก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า "ความปรารถนาที่แท้จริงของตัวเอง" คืออะไร ศาลเจ้าและงานมาราธอน ไม่ว่าอย่างไหนเรื่องที่มีความรู้สึกอันล้ำค่าก็เป็นความจริง เพราะงั้นไม่ว่าจะเลือกอย่างไหน อาซาฮิก็กลุ้มใจและรู้สึกคลุมเครืออยู่ดี ระหว่างนั้นเองจู่ ๆ คาเรนก็ได้บุกเข้ามาหา และได้ท้าดวลวิ่งแข่งมาราธอนแบบจริงจังกับอาซาฮิที่ยังสับสนและไม่เข้าใจสถานการณ์แถมยังพูดบอกอาซาฮิอยู่ฝ่ายเดียวว่า "ถ้าตัวเองชนะขึ้นมาขอให้อาซาฮิเลิกวิ่งไปซะ"...[58] | |||||
17 | "ไฟส่งวิญญาณและคำสาบานกับเทพเจ้า" Transliteration: "Okuribi to Kamisama to no Chigiri" (ญี่ปุ่น: 送り火と神様との契り) | TBD | TBA | 4 กุมภาพันธ์ 2568 | |
อุริวยังเอาความทรงจำที่ได้จูบกับอาซาฮิออกจากหัวไม่ได้ และไม่ใช่แค่อาซาฮิ ยิ่งสายสัมพันธ์กับสามพี่น้องลึกซึ้งขึ้นเท่าไหร่อุริวก็เริ่มมองพวกเธอเป็นเพศตรงข้ามมากขึ้นเท่านั้น แต่ว่าเขาก็มีมีเวลามาถูกความรักดึงความสนใจไป ในท้ายที่สุดยังไงเป้าหมายของตัวเขาเองก็คือ "สอบเข้าคณะแพทย์มหาลัยเกียวโต" และ "ช่วยชีวิตคนอื่นโดยการเป็นหมอ" แต่ทว่าผลคะแนนจากการสอบจำลองที่เขาไปสอบมาได้เพียงแค่เกรด B เท่านั้น อุริวที่ได้ A มาโดยตลอดจึงช็อกเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันอุริวก็ได้ไปเยี่ยมหลุมฝังศพในเทศกาลโอบ้งพร้อมกับคุณมาฮิรุและเหล่าเด็ก ๆ ในบ้านคิเซกิ...[59] | |||||
18 | "การเล่นซ่อนหาของนาดาชิโกะ ~สับเปลี่ยน~" Transliteration: "Nadeshiko no Kakurenbo ~Kawaru~" (ญี่ปุ่น: 撫子のかくれんぼ ~換~) | TBD | TBA | 11 กุมภาพันธ์ 2568 | |
อุริวได้ประกาศกร้าวด้วยความตั้งใจของตัวเองว่า "จะเป็นผู้สืบทอดของศาลเจ้า" แม้ความสัมพันธ์ระหว่างอุริวกับสามพี่น้องจะแน่นแฟ้นกันมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว แต่ยูนะก็มีท่าทีแปลกไป เธอทั้งคอยดูแลอุริวที่เป็นหวัดอย่างกระตือรือร้น และยังมัดทรงผมแปลก ๆ ในตอนอุทิศตนเพื่อศาลเจ้าด้วย แต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นพี่สาว ยาเอะจึงเป็นห่วงและบอกว่า "ยูนะอาจจะกำลังฝืนตัวเองอยู่ก็ได้" ยูนะปกปิดและกล้ำกลืนฝืนทนเรื่องอะไรอยู่กันแน่ อุริวพยายามจะเข้าไปให้ถึงจิตใจของเธอแต่ทว่า...?[60] | |||||
19 | "การเล่นซ่อนหาของนาดาชิโกะ ~กลุ้มใจ~" Transliteration: "Nadeshiko no Kakurenbo ~Nayamu~" (ญี่ปุ่น: 撫子のかくれんぼ ~懊~) | TBD | TBA | 18 กุมภาพันธ์ 2568 | |
ไม่รู้ทำไมร่างกายของอุริวและยูนะดันสลับร่างกันซะได้ ทำให้พวกเขาต้องหาวิธีกลับร่างเดิมพร้อมกับปกปิดเรื่องดังกล่าวจากเพื่อน ๆ รวมถึงยาเอะกับอาซาฮิด้วย ในระหว่างที่ใช้ชีวิตขณะสลับร่างกันอยู่อย่างตึงเครียด อุริวก็ได้รับรู้ความรู้สึกของยูเนะ ส่วนยูนะก็ได้รับรู้ความรู้สึกของอุริว ทำให้จิตใจของพวกเขาสองคนเข้าใกล้กันมากขึ้น แม้จะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ แต่อุริวกับยูนะก็ยังคงใช้ชีวิตในโรงเรียนไปได้อย่างราบรื่น แต่ทว่าจากการพลั้งเผลอดูเหมือนว่าเรื่องที่สลับร่างกันอยู่จะความแตกต่อ "โอมิจจัง" เพื่อนสนิทของยูนะซะแล้ว...[61] |
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)