สวิฟตี

สวิฟต์ขณะกำลังทักทายชาวสวิฟตี ที่ตั้งกลุ่มรอนอกสำนักงาน กูดมอนิงอเมริกา ในนครนิวยอร์ก (2012)

ชาวสวิฟตี (อังกฤษ: Swifties) เป็นกลุ่มแฟนคลับของนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ สวิฟตีได้รับการยกย่องจากนักข่าวว่าเป็นหนึ่งในฐานแฟนคลับที่ใหญ่ที่สุดและอุทิศตนมากที่สุด โดยเป็นที่รู้จักในด้านการมีส่วนร่วม ความคิดสร้างสรรค์ และความคลั่งไคล้ในระดับสูง เป็นเรื่องที่มีการรายงานข่าวอย่างแพร่หลายในสื่อกระแสหลักอยู่ตลอดเวลา

นักวิจารณ์ให้ความเห็นว่าสวิฟต์ได้นิยามความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินกับกลุ่มแฟนคลับใหม่ โดยสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาวสวิฟตี สวิฟต์ได้มีส่วนร่วม ช่วยเหลือ ให้เครดิต และให้ความสำคัญกับแฟน ๆ ของเธออยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่ฝ่ายหลังนั้นได้ให้การสนับสนุนและความสนใจในผลงานของเธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้ว่าเธอจะมีสื่อด้านเชิงลบก็ตาม

หลังจากมีอิทธิพลต่อวงการเพลงในด้านต่าง ๆ ชาวสวิฟตีได้สร้างพื้นที่ของตัวเองในวัฒนธรรมประชานิยม พวกเขายังคงสนับสนุนสวิฟต์อย่างต่อเนื่องผ่านการเปลี่ยนแนวเพลงของเธอและจุดเปลี่ยนทางศิลปะที่ไม่คาดคิด ช่วยเหลือเธอในระหว่างที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เช่น กรณีข้อพิพาทสิทธิ์การถือครองเพลงในปี 2019 กระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบทางการเมืองของทิกเก็ตมาสเตอร์ ซึ่งนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยอิทธิพลทางวัฒนธรรมของดิเอราส์ทัวร์ อย่างไรก็ตาม สมาชิกของฐานแฟนคลับถูกวิจารณ์ว่าไม่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของสวิฟต์ การที่ไปรุมในสถานที่ของเธอทั้งหมด และโจมตีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและคนดังที่ใส่ร้ายสวิฟต์ด้วยวาจาต่าง ๆ ซึ่งการเผยแพร่ ความพยายามในการส่งเสริมการจำหน่าย และแฟชั่นของสวิฟต์ ได้รับความสนใจจากการซ่อนไข่อีสเตอร์และเงื่อนงำต่าง ๆ ที่ทำให้ชาวสวิฟตีได้ถอดรหัสและถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลทางดนตรีของเธอ

การวิเคราะห์ทางวัฒนธรรมได้อธิบายสวิฟตีไว้ว่าเป็นชุมชนที่น่าสนใจ เป็นวัฒนธรรมย่อย และเกือบจะเป็นเมตาเวิร์ส นักวิชาการได้ศึกษาสวิฟตีเกี่ยวกับลัทธิการบริโภคนิยม การสร้างเนื้อหา ทุนทางสังคม ความฟุ้งซ่านโดยรวม การจัดการผลผลิต และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

ประวัติ

[แก้]

เทย์เลอร์ สวิฟต์เปิดตัวในฐานะนักร้องและนักแต่งเพลงคันทรีในวัย 16 ปี ค.ศ. 2006 ตามรายงานของสื่อ สวิฟต์มีฐานแฟนคลับตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2005 ก่อนที่จะปล่อยซิงเกิลเปิดตัวของเธอ "ทิม แม็กกรอว์" (2006) สวิฟต์เคยใช้บริการเครือข่ายสังคม เธอเป็นหนึ่งในศิลปินคันทรีกลุ่มแรก ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือทางการตลาดสำหรับเพลงของเธอ โดยประชาสัมพันธ์ตัวเองบนมายสเปซเป็นส่วนใหญ่ และเชื่อมโยงกับผู้ฟังที่ชอบเพลงของเธอเมื่อเปิดทางวิทยุ[1][2][3] เธอสร้างบัญชีมายสเปซของเธอในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2005 หนึ่งวันก่อนที่ค่ายเพลงของเธอในขณะนั้น บิกมะชีนเร็กเคิดส์จะเปิดตัว เพลงของสวิฟต์บนมายสเปซรวบรวมผู้ฟังมากกว่า 45 ล้านครั้ง ซึ่งสก็อตต์ บอร์เชตตา ซีอีโอของค่ายเพลงได้มอบให้กับโปรแกรมเมอร์วิทยุคันทรีที่ "ไม่เชื่อ" เพื่อโน้มน้าวให้พวกเขาเชื่อว่ามีแฟนเพลงของสวิฟต์อยู่[4] ฐานแฟนคลับในช่วงแรก ๆ ของสวิฟต์นั้นประกอบด้วยเด็กสาววัยรุ่นชาวอเมริกันผิวขาว

นิรุกติศาสตร์

[แก้]

คำว่า "สวิฟตี" สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของสวิฟต์ได้รับความนิยมในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 2000 สวิฟต์กล่าวถึงในการสัมภาษณ์วีโวเมื่อปี 2012 ว่าแฟน ๆ ของเธอเรียกตัวเองว่า "สวิฟตี" ซึ่งเธอกล่าวว่ามัน "น่ารัก"[5] ต่อมาสวิฟต์ได้ยื่นคำร้องขอเครื่องหมายการค้าในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017[6]

ความสัมพันธ์ระหว่างสวิฟต์

[แก้]
สวิฟต์ขณะถ่ายรูปกับแฟนคลับในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโตในปี 2022

สวิฟต์ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับชาวสวิฟตี ซึ่งนักข่าวหลายคนยกย่องถึงอิทธิพลทางวัฒนธรรมของเธอ[7][8] จากสื่อ เดอะวอชิงตันโพสต์ ได้อธิบายถึงสวิฟต์และสวิฟตีว่า "ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อนใหญ่ในกลุ่มเดียว"[9] เธอได้ "ปฏิวัติ" ความสัมพันธ์ที่คนดังสามารถมีให้กับแฟนคลับได้ ตามการรายงานของสื่อ เดอะนิวยอร์กไทมส์[10] แฟน ๆ หลายคนรู้สึกผูกพันกับเธอเพราะพวกเขา "เติบโตมากับเธอและดนตรีของเธอ"[11][12] ลอรา เคลลีย์ จากสื่อ ดิแอตแลนติก ให้ความเห็นว่า "สวิฟต์เข้าใจถึงพลังของประสบการณ์แบบกลุ่ม"[13] ความสัมพันธ์ของเธอกับแฟน ๆ ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับศิลปินที่ประสบผลสำเร็จอย่างเธอ เธอได้โต้ตอบกับพวกเขาบนสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ส่งของขวัญให้พวกเขา เลือกพวกเขาด้วยตัวเองเพื่อเข้าร่วมคอนเสิร์ตส่วนตัวหรือพบปะทักทาย ไปเยี่ยมเยียนโดยเซอร์ไพรส์ เข้าร่วมในงานสำคัญของพวกเขา (เช่น งานแต่งงาน หรืองานสังสรรค์เจ้าสาว) และมอบบัตรเข้าชมฟรีให้กับแฟน ๆ ที่ด้อยโอกาสหรือมีอาการป่วยทางการแพทย์[8][14] โดยนิสัยของสวิฟต์ในการซุ่มอ่านข่าวแฟนคลับของเธอผ่านทางออนไลน์ถูกแฟน ๆ เรียกกันว่า "เทย์เลอร์กิง" (Taylurking)[15]

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2010 สวิฟต์ได้จัดงานพบปะและทักทายเป็นเวลา 13 ชั่วโมงโดยเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลซีเอ็มเอ ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ในปี 2014, 2017 และ 2019 เธอเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน "ซีเคร็ตเชสชันส์" ซึ่งเป็นซีรีส์ปาร์ตีฟังเพลงในอัลบั้มก่อนวางจำหน่ายสำหรับแฟนคลับที่บ้านของเธอ[16][17] และกิจกรรมคริสต์มาสในปี 2014 ที่แฟนคลับขนานนามว่า "สวิฟต์มาส" โดยสวิฟต์จะส่งพัสดุของของขวัญช่วงต้นคริสต์มาสให้กับแฟน ๆ และส่งของขวัญบางส่วนด้วยมือ[18] สวิฟต์ยังประพันธ์เพลงเพื่อเป็นเกียรติแก่แฟนคลับของเธอด้วย เช่น "ลองลิฟ" (2010)[19] หรือ "โรแนน" (2012); โดยเพลงหลังเป็นการบันทึกเพื่อการกุศลเกี่ยวกับลูกชายวัยสี่ขวบของแฟนคลับคนหนึ่งที่เสียชีวิตด้วยโรคนิวโรบลาสโตมา[14] ในปี 2023 เธอเชิญแฟนคลับจำนวน 2,200 คนมาชมภาพยนตร์คอนเสิร์ตรอบปฐมทัศน์ เทย์เลอร์ สวิฟต์: ดิเอราส์ทัวร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ[20] โซยา ราซา-ชีก จากสื่อดิอินดีเพ็นเดนต์ ให้ความเห็นว่า สวิฟต์ "ยังคงเป็นแถวหน้าในการมอบประสบการณ์ที่อิงตามแฟน ๆ เพื่อสร้างผู้ติดตามที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเชิญเป็นการส่วนตัวไปที่บ้านของนักร้องเพื่อเข้าร่วมปาร์ตีฟังอัลบั้ม หรือที่เรียกว่าซีเคร็ตเชสชันส์ หรือการแฮงเอาต์ก่อนการแสดง เธอยังคงให้ความสำคัญกับแฟนคลับก่อนเสมอ"[15]

บทเรียนและชุมชน

[แก้]
"การใช้สัญลักษณ์และจินตภาพของเธอเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป จนถึงจุดที่หากคุณมองลึกเข้าไปในโลกของสวิฟต์ แฟนคลับของเธอจะดูเหมือนกับว่าพวกเขากำลังพูดภาษาอื่นที่มีตัวย่อ วลีลับ และการพาดพิงที่มีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจ"

เอมิลี ยาร์, เดอะวอชิงตันโพสต์ (2022)[9]

นักข่าวบรรยายถึงผลงานของสวิฟต์ บุคคลที่มีชื่อเสียง และการประโคมข่าวรอบโลกด้วยตัวมันเอง โดยเรียกมันว่า "จักรวาล" ทางดนตรีที่ชาวสวิฟตีวิเคราะห์ เผยแพร่โดยการใช้ไข่อีสเตอร์มากมายและ "มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแฟน ๆ ของเธออย่างผิดปกติ"[9][21] สวิฟต์เป็นที่มาของเรื่องปรัมปราในวัฒนธรรมประชานิยม เสื้อผ้า เครื่องประดับ พจน์ รหัสสี และศาสตร์ตัวเลขของเธอก็ถือเป็นไข่อีสเตอร์เช่นกัน[22][23] ชาวสวิฟตีเป็นที่รู้จักในเรื่องของสมมติฐาน โดยแยกย่อยและเชื่อมโยงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่พวกเขาพิจารณาว่าเป็นเบาะแสหรือไข่อีสเตอร์[24] ตามคำบรรยายของบรูซ อาเทอร์ จากสื่อ โทรอนโตสตาร์ "สวิฟต์ ตามมาด้วยแฟนคลับที่อุทิศให้กับเรื่องจินตนาการของเธอคือ ไบแซนไทน์ ที่มีความเป็นชั้นและซับซ้อน และเป็นเมสสิยานิก"[25]

แกมเมอร์ และ เดอะวอชิงตันโพสต์ เรียกบทเรียนนี้ว่าจักรวาลภาพยนตร์ของเทย์เลอร์ สวิฟต์[26][27] เอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี อธิบายถึงลักษณะนี้ว่าเป็นจักรวาลดนตรีของเทย์เลอร์ สวิฟต์ — "ป็อปสตาร์ที่โด่งดังจากคำใบ้อันมหาศาล ซึ่งแฟนคลับต่างแลกเปลี่ยนข้อมูลทุกชิ้นให้เป็นแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีออนไลน์"[28] จากสื่อ เดอะการ์เดียน เอเดรียน ฮอร์ตันได้กล่าวว่า "สวิฟต์เวิร์ส" เป็นวัฒนธรรมย่อยของสื่อมวลชนซึ่งปลูกฝังโดย "ปีแห่งการสร้างโลกและตำนานสวิฟเชียน"[29] ในขณะที่ อาลิม เคราช เขียนถึงสวิฟต์ว่าเปลี่ยนเพลงป็อปให้กลายเป็น "ปริศนาที่มีผู้เล่นหลายคน" ที่เกี่ยวข้องกับความมุ่งมั่นของฐานแฟนคลับ ซึ่งศิลปินคนอื่น ๆ ก็พยายามที่จะทำซ้ำ[30]

ข้อมูลประชากร

[แก้]

จากการสำรวจโดยมอนิงคอนซัลต์ของปี 2023 ในสหรัฐ วัยผู้ใหญ่ร้อยละ 53 กล่าวว่าพวกเขาเป็นแฟนคลับของสวิฟต์ โดยระบุว่าเป็นสวิฟตีร้อยละ 44 และเป็นแฟนตัวยงของเธอร้อยละ 16 ในบรรดาแฟน ๆ นั้นเป็นผู้หญิงร้อยละ 52 และเป็นผู้ชายร้อยละ 48 แฟนคลับตามเชื้อชาติเป็นคนผิวขาวร้อยละ 74 เป็นคนผิวดำร้อยละ 13 เป็นคนเอเชียร้อยละ 9 และเป็นคนเชื้อชาติอื่นร้อยละ 4 ในทางการเมือง แฟนคลับเป็นกลุ่มของพรรคเดโมแครตร้อยละ 55 พรรครีพับลิกันร้อยละ 23 และเป็นพรรคอิสระร้อยละ 23 ในแง่ของชั่วรุ่น เป็นรุ่นมิลเลนเนียลร้อยละ 45 เป็นรุ่นเบบีบูมเมอร์ร้อยละ 23 เป็นรุ่นเจนเอกซ์ร้อยละ 21 และเป็นรุ่นเจนซีร้อยละ 11[31] นักข่าวยังตั้งข้อสังเกตว่ามีการเพิ่มขึ้นของฐานแฟนคลับรุ่นบูมเมอร์ และรุ่นเจนเอกซ์ หรือที่รู้จักในชื่อ "ชาวสวิฟตีอาวุโส" (Senior Swifties)[32][33]

การวิจารณ์

[แก้]

กลุ่มชาวสวิฟตีได้รับการวิจารณ์ถึงพฤติกรรมบางอย่างเช่นกัน นักข่าวประณามถึงการมีปฏิสัมพันธ์แบบกึ่งมีส่วนร่วมทางสังคมที่ชาวสวิฟตีบางคนมีกับสวิฟต์ รวมถึงความสนใจในชีวิตส่วนตัวของสวิฟต์มากเกินไป[34][35] แฟน ๆ ต่างรวมตัวกันในสถานที่ที่พบเห็นเธอ[36] พวกเขายังถูกรายงานว่าโจมตี คุกคาม หรือขู่ฆ่าทางออนไลน์ และดักจับคนดัง นักข่าว และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนอื่น ๆ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ มากมาย เช่น พูดในแง่ลบเกี่ยวกับสวิฟต์[37][38][39] หลังจากข้อพิพาทสิทธิ์ในการถือครองเพลง เบราน์อ้างว่าเขาได้รับคำขู่ฆ่าจากชาวสวิฟตี[40]

กลุ่มเล็ก ๆ ของสวิฟตีที่เรียกว่า "เกย์เลอร์" (Gaylors) เชื่อว่าสวิฟต์แอบเป็นเกย์และบอกความเป็นนัยถึงการเป็นเควียร์ผ่านทางดนตรีของเธอ แม้ว่าเธอจะบรรยายตัวเองว่าเป็นพันธมิตรกับชุมชนแอลจีบีทีก็ตาม เกย์เลอร์บางคนยังชิพสวิฟต์กับคาร์ลี คลอสส์, ไดอันนา อากรอน หรือทั้งสองคน โดยอ้างว่าสวิฟต์เคยเดตกับพวกเขาในอดีต และกล่าวหาว่าสวิฟต์ใช้ผลประโยชน์กับกลุ่มตลาดความหลากหลายทางเพศ (Queerbaiting) หากเธอนั้นไม่ใช่เกย์จริง ๆ ชาวสวิฟตีส่วนใหญ่วิจารณ์ถึงทฤษฎีของเกย์เลอร์ว่าเป็นแนวคิดที่ไกลจากความจริง ประสงค์ร้าย และหยาบคายต่อสวิฟต์ นักข่าวยังมองว่ามันเป็นการล้วงล้ำ และเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีมูลความจริง[41][42]

ประเด็นทางวิชาการ

[แก้]

สวิฟตีเป็นหัวข้อที่สื่อมวลชนและนักวิชาการให้ความสนใจ โดยศึกษาจากทุนทางสังคม ลักษณะผู้บริโภคนิยม และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล[43][44] "การสร้างเนื้อหาที่อุดมสมบูรณ์ ความเข้าใจด้านดิจิทัล ความสามารถในการจัดระเบียบ และพฤติกรรมออนไลน์ที่เลวร้ายในบางครั้ง" ของพวกเขายังเป็นหัวข้อที่ต้องศึกษาเช่นกัน ตามการบรรยายของนักวิจัยวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต คริสตินา โลเปซ และเอวานีช ชานดรา[42] โดโนแวนแยกแยะ "แฟนคลับเทย์เลอร์ สวิฟต์" ออกจากสวิฟตี โดยให้ความเห็นว่าอย่างหลังนั้นเป็นวัฒนธรรมย่อยที่มีลักษณะเฉพาะจากการรวมตัวกันอย่างกระตือรือร้น ไม่เหมือนฐานแฟนคลับอื่น ๆ นักภาษาศาสตร์บางคนเรียกรหัสลับที่เขียนโดยสวิฟตีว่า "แฟนอิเล็กต์" (fanilect)[45] แผนที่เครือข่ายปี 2023 เผยแพร่โดยนักวิจัยอินเทอร์เน็ต คริสตินา โลเปซ และเอวานีช ชานดรา แบ่งกลุ่มชาวสวิฟตีออกเป็นหกกลุ่มที่แตกต่างกันตามการโต้ตอบออนไลน์และหัวข้อการสนทนา[42] นอกจากนี้ในมหาวิทยาลัยหลายแห่งตั้งชมรมแฟนคลับที่อุทิศตนให้กับสวิฟต์[46][47][48]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Willman, Chris (July 25, 2007). "Getting to know Taylor Swift". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 24, 2022. สืบค้นเมื่อ January 25, 2022.
  2. Willman, Chris (February 5, 2008). "Taylor Swift's Road to Fame". Entertainment Weekly. p. 3. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 21, 2015. สืบค้นเมื่อ April 22, 2012.
  3. "Taylor Swift is peak millennial vibes". NPR. October 21, 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2023. สืบค้นเมื่อ December 19, 2022.
  4. Roland, Tom (July 7, 2016). "Love Story: The Impact of Taylor Swift's First Decade in Music". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 14, 2016. สืบค้นเมื่อ July 7, 2016.
  5. Swift, Taylor (October 29, 2012). "Taylor Swift - #VEVOCertified, Pt. 3: Taylor Talks About Her Fans". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2023. สืบค้นเมื่อ September 26, 2023 – โดยทาง YouTube.
  6. Rys, Dan (March 15, 2017). "Taylor Swift Files Nine Trademarks For the Word 'Swifties,' But Why?". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2023. สืบค้นเมื่อ September 26, 2023.
  7. Khan, Fawzia (June 18, 2021). "The Might Of Taylor Swift". Elle. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 28, 2021. สืบค้นเมื่อ October 20, 2021.
  8. 8.0 8.1 Collins, Katie (June 8, 2018). "How Taylor Swift flipped online fandom on its head for the better". CNET. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2023. สืบค้นเมื่อ March 19, 2023.
  9. 9.0 9.1 9.2 Yahr, Emily (May 15, 2023). "The bonding experience of watching a Taylor Swift concert from a parking lot". The Washington Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 22, 2023. สืบค้นเมื่อ May 17, 2023.
  10. Brodesser-Akner, Taffy (October 12, 2023). "My Delirious Trip to the Heart of Swiftiedom". The New York Times. ISSN 0362-4331. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 14, 2023. สืบค้นเมื่อ October 15, 2023.
  11. Fanick, Christopher (May 1, 2019). ""Call It What You Want": The Impact of Fan Characteristics on Political Views". Communication Honors Theses. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 14, 2023. สืบค้นเมื่อ September 23, 2023.
  12. Pazzanese, Christina (August 2, 2023). "So what exactly makes Taylor Swift so great?". Harvard Gazette. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 7, 2023. สืบค้นเมื่อ August 7, 2023.
  13. Kelley, Lora (October 20, 2023). "What Taylor Swift Knows". The Atlantic. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 20, 2023. สืบค้นเมื่อ October 22, 2023.
  14. 14.0 14.1 Tilchen, Jordyn (August 21, 2019). "Taylor Swift's Fans Have Known Her For 13 Years — This Is How She's Kept Growing With Them". MTV News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 14, 2023. สืบค้นเมื่อ May 14, 2023.
  15. 15.0 15.1 Raza-Sheikh, Zoya (November 17, 2021). "How Taylor Swift redefined online fandom, from SwiftTok to #Taylurking". The Independent. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2023. สืบค้นเมื่อ September 26, 2023.
  16. Kawa, Katie; Cartlidge, Cherese (December 15, 2016). Taylor Swift: Superstar Singer. Greenhaven Publishing LLC. ISBN 978-1-5345-6026-0. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2023. สืบค้นเมื่อ September 23, 2023.
  17. Yahr, Emily (November 15, 2017). "Taylor Swift Avoided and Mocked the Media with 'Reputation.' And It Worked". The Washington Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 19, 2020. สืบค้นเมื่อ December 25, 2020.
  18. Wang, Jenna (December 24, 2014). "Fans on Taylor Swift's 'Swiftmas': 'No One in the Music Industry Has as Big a Heart as She Does'". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 24, 2021. สืบค้นเมื่อ September 26, 2023.
  19. Sodomsky, Sam (August 19, 2019). "Taylor Swift: Speak Now". Pitchfork. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 14, 2020. สืบค้นเมื่อ August 19, 2019.
  20. "Of Course Beyoncé Made A Cameo At Taylor Swift's 'Eras' Film Premiere". Elle. October 12, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 14, 2023. สืบค้นเมื่อ October 13, 2023.
  21. Gambles, Sarah (July 23, 2023). "The ubiquitous power of Taylor Swift". Deseret News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 23, 2023. สืบค้นเมื่อ July 23, 2023.
  22. Lutz, Ashley (October 8, 2022). "Taylor Swift's new album proves she is a business genius". Fortune. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 8, 2022. สืบค้นเมื่อ October 8, 2022.
  23. Horton, Adrian (May 29, 2023). "How Taylor Swift's Eras tour took over America". The Guardian. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2023. สืบค้นเมื่อ May 29, 2023.
  24. "All the Taylor Swift fan theories that predicted the 1989 (Taylor's Version) announcement". Hello!. August 10, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 25, 2023. สืบค้นเมื่อ September 26, 2023.
  25. Arthur, Bruce (September 26, 2023). "Bruce Arthur: Higher, Stronger, Swifter? Taylor Swift goes to a football game and shows she's bigger than the NFL". Toronto Star. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 27, 2023. สืบค้นเมื่อ September 27, 2023.
  26. Yahr, Emily (December 26, 2022). "2022: The year in review (Taylor's version)". The Washington Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 26, 2022. สืบค้นเมื่อ December 26, 2022.
  27. Tannenbaum, Emily. "Taylor Swift Hid a Bunch of Easter Eggs in the All Too Well Short Film". Glamour. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 18, 2022. สืบค้นเมื่อ May 13, 2022.
  28. Suskind, Alex (May 9, 2019). "New Reputation: Taylor Swift shares intel on TS7, fan theories, and her next era". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 12, 2019. สืบค้นเมื่อ May 13, 2022.
  29. Horton, Adrian (May 29, 2023). "How Taylor Swift's Eras tour took over America". The Guardian. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2023. สืบค้นเมื่อ May 29, 2023.
  30. Kheraj, Alim (November 9, 2022). "The curate's Easter egg: how Taylor Swift turned pop into a multiplayer puzzle". The Guardian. ISSN 0261-3077. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 28, 2023. สืบค้นเมื่อ May 5, 2023.
  31. Blancaflor, Saleah; Briggs, Ellyn (March 14, 2023). "The Taylor Swift Fandom Is White, Suburban and Leans Democratic". Morning Consult. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 16, 2023. สืบค้นเมื่อ May 15, 2023.
  32. della Cava, Marco; Ryan, Patrick (August 31, 2023). "Taylor Swift is 'in a class of her own right now,' as Eras tour gives way to Eras movie". USA Today. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 1, 2023. สืบค้นเมื่อ September 1, 2023.
  33. Slanksy, Paul (June 10, 2023). "The Rise of the Senior Swiftie". Air Mail. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 11, 2023. สืบค้นเมื่อ June 12, 2023.
  34. Grisafi, Patricia (June 6, 2023). "Matty Healy exposed the dark side of the Taylor Swift parasocial fantasy". MSNBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 7, 2023. สืบค้นเมื่อ June 7, 2023.
  35. Rascoe, Ayesha (April 17, 2023). "Taylor Swift fans are upset over reports of her breakup. A psychologist explains why". NPR. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 6, 2023. สืบค้นเมื่อ June 7, 2023.
  36. Carras, Christi (August 21, 2023). "Wedding Crashers (Taylor's Version): Swifties swarm Jack Antonoff and Margaret Qualley's nuptials". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 1, 2023. สืบค้นเมื่อ September 1, 2023.
  37. Panella, Chris. "Taylor Swift fans sent me death threats, doxxed my family, and accused me of being a pedophile after I criticized her Eras Tour". Insider Inc. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 18, 2023. สืบค้นเมื่อ September 23, 2023.
  38. published, Zoe Guy (March 4, 2021). "Taylor Swift Fans are Attacking 'Ginny and Georgia' Star Antonia Gentry for the Show's Lame Joke". Marie Claire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2023. สืบค้นเมื่อ September 23, 2023.
  39. Schwedel, Heather (November 16, 2021). "A Comprehensive Explanation of Why Taylor Swift Fans Seem Ready to Commit Homicide on Jake Gyllenhaal". Slate. ISSN 1091-2339. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2023. สืบค้นเมื่อ September 23, 2023.
  40. Arnold, Amanda; Fakuade, Melinda (November 22, 2019). "Untangling the Incredibly Complicated Taylor Swift–Scooter Braun Feud". The Cut. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 28, 2021. สืบค้นเมื่อ February 13, 2021.
  41. Sources on Gaylor:
  42. 42.0 42.1 42.2 Lopez, Cristina; Chandra, Avneesh (April 12, 2023). "Now We Got Bad Blood". Graphika. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2023. สืบค้นเมื่อ May 29, 2023.
  43. Guiterrez, Lisa (May 24, 2023). "Taylor Swift and her fans are such a phenomenon, this KU professor is studying them". The Kansas City Star. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2023. สืบค้นเมื่อ June 5, 2023.
  44. Canavan, Brendan; McCamley, Claire (February 1, 2020). "The passing of the postmodern in pop? Epochal consumption and marketing from Madonna, through Gaga, to Taylor". Journal of Business Research. 107: 222–230. doi:10.1016/j.jbusres.2018.12.005. ISSN 0148-2963. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 27, 2022. สืบค้นเมื่อ September 28, 2023.
  45. Guiterrez, Lisa (May 24, 2023). "Taylor Swift and her fans are such a phenomenon, this KU professor is studying them". The Kansas City Star. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2023. สืบค้นเมื่อ June 5, 2023.
  46. Woehrle, Hannah (November 4, 2022). "MSU students form 'Taylor Swift Club,' bonding over shared love for her music". The State News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2023. สืบค้นเมื่อ September 29, 2023.
  47. "How one student's pandemic listening kickstarted a Taylor Swift fan club". The Peak. May 16, 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2023. สืบค้นเมื่อ September 29, 2023.
  48. Marshall, Cooper (October 20, 2022). "OU Taylor Swift Fan Club hosts trivia, song discussions, watch, listening parties, helps 'Swifties' build connections". OU Daily. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2023. สืบค้นเมื่อ September 29, 2023.